วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ธุรกิจกิจเครือข่ายผู้บริโภค นี้คืออะไร

ธุรกิจกิจเครือข่ายผู้บริโภค นี้คืออะไร ทำไมคนจึงหลั่งไหลเข้าสู่ธุรกิจนี้อย่างมากมาย ? ปัจจุบันมีรูปแบบวิธีการดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ว่าแต่ว่าคุณจะปฏิเสธที่จะเรียนรู้มันด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยทราบมาก่อน หรือไม่

เมื่อพูดถึงการทำการค้า หลายคนนึกถึงว่าต้องใช้เงินทุนมาก, ต้องจ้างแรงงานจำนวนมาก, ต้องผลิตสินค้า, ต้องมีโรงงาน, ต้องมีทำเลหน้าร้าน ฯลฯ จึงจะทำให้พวกเราส่วนใหญ่ ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองสักที เพราะขาดเงินทุน ขาดคนมีฝีมือที่ไว้วางใจได้

ณ.วันนี้สำท่านที่ำกำลังมองหาธุรกิจหรืออยากมีธุรกิจที่เป็นของตัวท่านเอง ทุกท่านมีสิทธิ์ทำให้ความต้องการของตนเป็นจริงได้เกิดขึ้นแล้ว แล้วพบกันที่ความ “สำเร็จ” ครับ

ความหมายของธุรกิจคือ ?

ความหมายของธุรกิจคือ เป็นระบบธุรกิจการตลาดรูปแบบใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถได้เป็นเจ้า ของธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมาก โดยไม่ต้องมีความเสี่ยงและไม่ต้องลงทุนเงินเป็นจำนวนมากเหมือนกับการทำ ธุรกิจทั่วๆไป เพียงเริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี และเมื่อเกิดความประทับใจในตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ก็ทำการแนะนำบอกต่อให้คนที่รู้จักได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีนั้นเหมือนกับตนเป็น การโฆษณาแบบปากต่อปาก เมื่อมีการซื้อผลิตภัณฑ์ใช้ตามคำบอกเล่าจากผู้แนะนำ ก็จะทำให้เกิดกระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการโฆษณาและพ่อค้าคนกลาง เหมือนกับการตลาดแบบเดิมๆ ที่การเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคจะต้องผ่านระบบพ่อค้าคนกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับกำไรถึง 60% จากการจัดส่งสินค้ามาสู่ผู้บริโภค

เมื่อเกิดกระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง ทำให้บริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์สามารถประหยัดงบประมาณที่เป็นค่าโฆษณาได้มาก ซึ่งบริษัทจะนำงบค่าโฆษณาที่ประหยัดได้ไปใช้ทำการวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ดีขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้นอีก ส่วนผลกำไร 60% ของพ่อค้าคนกลางที่ถูกตัดออกมานั้น บริษัทจะนำเงินส่วนนี้มาจัดสรรให้กับผู้บริโภคที่ใช้ดีแล้วทำการบอกต่อกับ ผู้อื่นเป็นลำดับชั้นตามสัดส่วนที่บริษัทกำหนดไว้

ซึ่งจะเห็นได้ว่าในระบบการตลาดแบบเครือข่ายผู้บริโภคนี้ จะทำให้ผู้บริโภคสามารถมีส่วนแบ่งของรายได้มากถึง 60% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์ จากระบบการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคแบบใหม่ นอกเหนือจากการที่จะต้องเป็นผู้จ่ายเงินซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียวในระบบ ธุรกิจแบบเดิม โดยการตลาดแบบเครือข่ายผู้บริโภค ที่ใช้วิธีการแนะนำบอกต่อนี้จะมีลักษณะที่พิเศษกว่าการตลาดแบบทั่วๆไป คือ ความสามารถในการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภคที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นได้แบบไม่จำกัด จำนวน โดยอาศัยเพียงการแนะนำผลิตภัณฑ์จากคน 1 คนแนะนำให้กับคน 2 – 3 คนและแต่ละคนของ 2 – 3 คนบอกต่อกับคน 2 – 3 คนต่อๆไป ก็จะเกิดการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภค ในลักษณะพหุคูณเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด เราไม่สามารถที่จะไปบังคับใครใด้ เพียงแต่ว่าจะชี้ให้เห็นที่มาที่ไปเพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจ ทีนี้คุณน่่าจะมองเห็นแล้วใช่ใหมว่าอะไรเป็นอะไร

เดินทางร้อยลี้ต้องมีก้าวแรก…..

โอกาสที่ดีอยู่ที่การตัดสินใจเลือกทางเดินของคุณ

ใน ทุกๆเช้าของวันใหม่ที่เราตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเรายังต้องดำเนินชีวิตในรูปแบบ ที่เหมือนๆกับทุกๆวันที่ผ่านมา คือต้องตื่นแต่เช้า ออกจากบ้าน ผจญกับปัญหาจราจร เพื่อไปให้ทันเข้างาน ตอกบัตรเข้าทำงาน แล้วก็ทำงานตามภาระรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย พบเจอกับความเครียดต่างๆในการทำงาน ตอนเย็นเลิกงาน ตอกบัตรออก กลับต้องผจญกับปัญหาจราจรอีกครั้ง กลับถึงบ้าน แล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย และต้องเตรียมพบกับวันใหม่ที่ดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิมๆ เป็นวงจรซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวัน เราเคยสังเกตุบ้างหรือว่าไม่เราทำไมต้องทำสิ่งเหล่านี้เพื่ออะไร ???

เพื่อที่จะให้สามารถดำรงชีวิตผ่านไปได้วันๆหนึ่งเท่านั้นเองหรือเปล่า ???
เราต้องการชีวิตที่เป็นแบบนี้จริงๆหรือ ???

ผมเชื่อว่าคนเราทุกคนมีความต้องการ อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่าที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้อย่างแน่นอน แล้วทำไมไม่ลองหาทางที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณให้ไปสู่รูปแบบของการใช้ชีวิต แบบ ใหม่ในแบบที่คุณอยากเป็นล่ะ

มีสุภาษิตจีนบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า “ เดินทางร้อยลี้ต้องมีก้าวแรก ” หาก คุณต้องการเริ่มต้นสร้างความสำเร็จให้กับชีวิต ด้วยเส้นทางที่สามารถสร้างความฝันและความต้องการของคุณให้เป็นจริงได้ ภายในระยะเวลาที่ไม่ยาวนานเกินไป การหันมาทำธุรกิจจะเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดเส้นทางหนึ่ง ที่ซึ่งพร้อมจะเปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงเสมอ หลังจากนี้ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณ เมื่อคุณได้มีโอกาสอ่านเอกสารฉบับนี้แล้ว และต้องการจะใช้โอกาสที่ดีนี้เพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงินและเวลาให้กับตัว เพื่อตัวคุณเองและเพื่อคนที่คุณรัก ผู้ที่แนะนำคุณให้อ่านเอกสารฉบับนี้พร้อมเสมอที่จะช่วยคุณสร้างความฝันและ ความต้องการของคุณให้เป็นจริงใด้ เพียงคุณมีความเชื่อมั่นและเดินตามความเชื่อในหัวใจของคุณ ทุกสิ่งที่คุณปารถนาย่อมเป็นไปได้อย่างแน่นอน

แล้วเองล่ะ…..มีความฝันและความต้องการแบบใหนกัน หรือว่า เคยฝัน เคยมีความต้องการ…..ไม่ล่ะ ไม่ต้องการ ฉัน ผม ไม่ฝันไม่ต้องการอีกต่อไปแล้ว เป็นแบบนี้นะดีแล้ว ไม่ต้องการที่จะไขว่คว้าอีกต่อไป ผมเองก็เคยลองผิด….. ลองถูก ลองแล้วลองอีก….. คิดแล้วคิดอีกคนเราทุกคนมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน แต่มีเป้าหมายเดียวกันดังนั้นทุกสิ่ง ทุกอย่างมักเกิดขึ้นจากความคิด ความคิดเกิดจากการก่อตัวขึ้นจากตัวเราเอง แรงกระตุ้นของความคิดจะมีอยู่ 2 มิติ

มิติที่ 1 ความคิดที่เกิดจากแรงกระตุ้นระหว่างความกลัวและความล้มเหลว
มิติที่ 2 ความคดที่เกิดจากแรงกระตุ้นระหว่างความกล้าและความสำเร็จ


ความกลัวและความล้มเหลว กับ ความกล้าและความสำเร็จ เปรียบเสมืิอนเส้นตรง 2 เส้น ที่ตั้งอยู่ใหนทิศทางที่ขนานกัน ถ้าคุณต้องการเส้นตรงที่่มีความสำเร็จ คุณก็จะต้องรู้จักปฏิเสธเส้นตรงเส้นที่มีแต่ความล้มเหลวให้ใด้…..

คนเราทุกคนแท้จริงล้วนมี”ต้นทุน”อยู่ในตัวเราเองเหมือนกันทุกคนนี่ เป็นโอกาสดี ที่จะยีนยันใด้ว่าความสำเร็จไม่ใด้หล่นลงมาจากฟ้า”แต่จะมาจาก 1 สมอง 2 มือ”ก้าวไปข้างหน้าด้วยใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นมีเป้าหมายมี ตั้งใจด้วยตัวเราเอง……

โอกาสและการเปลี่ยนแปลง

โอกาสการเปลี่ยนแปลงชีวิตสู่การมีอิสระทางการเงินและเวลา หนังสือชุดพ่อรวยสอนลูก เล่มที่ 2 “Cashflow Quadrant” หรือ “เงินสี่ด้าน” ของ Robert T. Kiyosaki ได้กล่าวไว้ว่า คนในโลกแบ่งตามที่มา ของรายได้ที่เขาได้รับออกเป็น 4 ด้านคือ

ด้านที่ 1 ) ลูกจ้าง ( Employee ) คือผู้ที่มีรายได้จากค่าจ้าง, เงินเดือน
ด้านที่ 2 ) ธุรกิจส่วนตัว ( Self – employed ) เจ้าของกิจการขนาดเล็ก ( Small Business owner ) คือผู้ที่มีรายได้จากกิจการของตนเองโดยเจ้าของกิจการจะต้องเป็นผู้ลงมือทำ หรือ ดูแลด้วยตนเอง
ด้านที่ 3 ) เจ้าของกิจการขนาดใหญ่ ( Business owner ) คือผู้ที่มีรายได้จากทรัพย์สินของตน, โดยใช้เวลาและแรงงานของผู้อื่นสร้างรายได้ให้กับตน
ด้านที่ 4 ) นักลงทุน ( Investor ) คือ ผู้ที่ใช้เงินทำงานแทนตนเอง เพื่อสร้างผลตอบแทนหรือรายได้ให้กับ ตนโดยไม่ต้องทำเองหากดูจากนิยามที่มาของรายได้ดังกล่าว........

การทำธุรกิจกับการมีธุกิจเป็นของตนเองดีอย่างไร ???
- มีความอิสระในการทำงาน ไม่ต้องมีใครคอยควบคุมการทำงาน สิ่งที่เป็นเครื่องมือในการบังคับ หรือผลักดันให้มุ่งมั่นในการทำงาน คือเป้าหมาย
- รายได้ดี ขยันมากย่อมมีโอกาสทางรายได้สูง ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย ธุรกิจเครือข่ายเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถช่วยให้ความต้องการ หรือความฝันบรรลุเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาได้
- เป็นมิตรกับคนทั่วไป เป็นบุคคลพิเศษ ปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ดี มีมนุษยสัมพันธ์ อันเป็นคุณสมบัติที่สำคัญ ความสุภาพอ่อนโยน ยิ้มแย้ม และรู้จักยืดหยุ่น
- มีความรู้รอบด้าน เนื่องจากต้องพบปะบุคคลต่าง ๆอยู่เสมอ ทำใหรู้รอบด้าน จากหลักการที่ว่าการนั่งในหัวใจคู่สนทนาก็คือ สนทนาในเรื่องที่เขาชอบ หรือสนใจนั่นเอง
- ได้ประสบการณ์สูง ประสบการณ์ตรงที่ได้รับจากการทำงาน จากการติดต่อพูดคุยเจรจากับผู้อื่น มีเป็นตัวของตัวเอง มีความคิดเป็นของตัวเอง มีความสามารถเฉพาะตัว มีหูตากว้างขวาง มีวิสัยทัศน์ มีการวางแผนในการใช้ชีวิตและมีเป้าหมายในการดำเนินชีวิตอย่างมีแบบแผน
- จะดีกว่าใหมถ้าคุณเอาความสามารถของคุณที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดแล้วผลจากความสามารถของคุณนั้นใด้ส่งผลกลับมาหาคุณอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย.....เปรียบระหว่างการทำธุรกิจของเราเองกับการที่เราเป็นลูกจ้าง
- มีโอกาสก้าวหน้าเร็ว แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องมีฝีมือ และมีฝีปาก เป็นอาชีพนึ่งที่มีโอกาสก้าวหน้าเร็วกว่าอีกหลาย ๆ อาชีพ ในขณะหลาย ๆ อาชีพ ต้องอาศัย รูปร่าง ส่วนสัด ความสวย ความงาม หรือพรสวรรค์ในการสร้างความก้าวหน้าให้กับตนเอง
- ได้ใช้ความสามารถของตนได้อย่างเต็มที่ การท้าทายความสามารถของตนเอง ซึ่งเป็นการดึงความสามารถของตนออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ และสมบูรณ์ การได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ย่อมทำให้ มีคุณสมบัติพิเศษ คือความอดทน อดกลั้น มิฉะนั้นจะอดกิน
- ได้รับความสำเร็จ เงิน รางวัล ชื่อเสียง เกียรติยศ บ้าน ที่ดิน รถยนต์ สามารถกำหนดชีวิตของตนเองได้ ถึงแม้จะเลือกเกิดไม่ได้ก็ตามแต่.....
- ทำให้บุคลากรในประเทศมีงานทำ เพราะทุกคนมีงานทำไม่เลือกงาน ไม่เกิดปัญหาการว่างงาน เป็นการลดภาระทางสังคมอันจะทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนคนทั่วไปมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นคุณว่าจริงหรือเปล่า ???

คนเราทุกคนแท้จริงล้วนมี"ต้นทุน"อยู่ในตัวเราเองเหมือนกันทุกคนนี่ เป็นโอกาสดี ที่จะยีนยันใด้ว่าความสำเร็จไม่ใด้หล่นลงมาจากฟ้า"แต่จะมาจาก 1 สมอง 2 มือ"ก้าวไปข้างหน้าด้วยใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นมีเป้าหมายมี ตั้งใจด้วยตัวเราเอง......

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

*** คู่มือประจำบ้าน เมื่อคนในบ้านเกิดเป็น 'สิว'

*** คู่มือประจำบ้าน เมื่อคนในบ้านเกิดเป็น 'สิว'

1. เป็นสิวห้ามแกะ ใครแกะตีมือ

พ่อแม่ต้องสอนลูกตั้งแต่เล็กว่า การเป็นสิว ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ และแน่นอนว่า การที่มีเม็ดอะไรก็ไม่รู้ขึ้นอยู่บนใบหน้า ย่อมทำให้เกิดความรำคาญได้ แต่การไปแกะ หรือบีบ จะทำให้ผิวหนังถูกเปิด และเกิดการติดเชื้อได้ง่าย และถ้าแกะเอาหัวสิวออกไม่หมด สิวจะอักเสบ และเกิดเป็นรอยแผลเป็นได้ในภายหลัง เช่น เป็นหลุม หรือรอยดำ ส่งผลให้เสียค่ารักษาต่างๆ จำนวนมากตามมา

2. เป็นสิวอย่ากังวล ยิ่งกังวลยิ่งเกิดสิว

ขอให้คิดเสียว่า เป็นสิวเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ควรกังวล เพราะยิ่งกังวลจะยิ่งทำให้เกิดสิวได้ง่าย นอกจากนี้ ไม่ควรตามกระแสหน้าสวยไร้สิว หรือใช้ผลิตภัณฑ์ หรือยาแพงๆ แต่ควรค่อยๆ คิด และหาทางรักษาร่วมกับครอบครัว ซึ่งถ้าเป็นน้อยก็ควรดูแลตัวเอง แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้น ต้องรีบมาพบแพทย์ผิวหนังทันที เพื่อทำการรักษาอาการตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนลุกลามเป็นปัญหาผิวหนังจนยากที่จะรักษาต่อไป

3. สุขภาพผิวหน้าดี ต้องฉลาดเลือกผลิตภัณฑ์

ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า เช่น สบู่ ที่เหมาะกับผิวหน้าของตัวเอง ไม่ควรตามเพื่อน เห็นใครใช้แล้วดี จึงซื้อตาม เพราะยาดังกล่าวอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ทางที่ดีจึงควรปรึกษาหมอผิวหนัง ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่น่าเชื่อถือที่สุด

4. ยากันสิวขนานเอก คือการพักผ่อน

ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะความเครียดจะยิ่งทำให้ฮอร์โมนในร่างกายรวน เป็นต้นเหตุให้เกิดสิวได้ง่าย ดังนั้น ไม่ควรกังวลมากเกินไป ขอให้คิดว่า “ใครๆ ก็เป็นสิวได้ เดี๋ยวก็คงดีขึ้นเอง" ซึ่งเรื่องนี้ พ่อแม่ต้องให้กำลังใจ และรับฟังปัญหาของลูกด้วย รวมทั้งดูความเหมาะสมก่อนให้เงินลูกไปรักษาหน้า

3S + 1M

S1 (Selling) การขายตัวคุณเองก่อน โดยใช้สินค้าแล้วบอกต่อ...เพื่อการสร้างฐานผู้บริโภค
S2 (Sponsoring) การเสนอโอกาส แผนการตลาด...เพื่อการเติบโตและเพื่อสร้างฐานผู้นำ
S3 (servicing) การบริการ เพื่อการสร้างยอดจำหน่ายและสอนวิธีเริ่มต้น และคัดเลือกผู้นำ
M (Meeting) การใช้การประชุม เพื่อการเรียนรู้ และเพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

อะไรสิ่งที่_ที่ปรึกษาธุรกิจคาดหวังจากสมาชิกธุรกิจ

คำถามง่ายๆ หลายคนอาจจะตอบทันที ว่า “ก็เงินนะซิ” เป็นสิ่งที่ที่ปรึกษาธุรกิจคาดหวังจากสมาชิก…
หลายคนอาจคิดเช่นนี้ แต่ความเป็นจริงแล้ว “เงินหรือรายได้” นั้นเป็นเพียงผลพลอยได้ของเขาที่ได้รับจากความสำเร็จหรือความพอใจของคุณเท่านั้นเอง
เเต่สิ่งที่…ที่ปรึกษาธุรกิจคาดหวังจากคุณ คือ คุณสมบัติในตัวคุณ เพราะการได้ผู้ที่ ไม่มีความเหมาะสม มาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ, downline หรือ แฟรนไชส์ซี นั้น จะเป็นเรื่องที่ปวดเศรียรเวียนเกล้าอย่างยิ่ง...ที่ปรึกษาธุรกิจหลายคนไปไหนไม่รอด ก็เพราะสาเหตุนี้เช่นกัน
สิ่งหนึ่งที่ นักธุรกิจเครือข่าย ควรจะระลึกไว้เสมอ ตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจว่า ธุรกิจนี้ไม่ใช่ประเภท get rich quick scheme หรือ เป็นธุรกิจที่สามารถทำได้โดยแทบไม่ทำอะไรและรวยได้ภายในเวลาอันสั้น
ธุรกิจเครือข่าย ต้องการ ความดูแลเอาใจใส่ จากเจ้าของธุรกิจเหมือนธุรกิจอื่นๆ เช่น การวางแผนธุรกิจ กำหนดเป้าหมาย และ การทำงานอย่างหนักด้วยความฉลาด
ธุรกิจเครือข่ายนั้นเป็นการเปิดช่องทางให้คนสามัญธรรมดา สมัครเข้าร่วมธุรกิจ และมีโอกาสสร้างผลกำไรจากธุรกิจทำงานที่บ้าน โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก เหมือนกับ รูปแบบธุรกิจแบบดั้งเดิม
ดังนั้นนักธุรกิจเครือข่ายที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น จำเป็นต้อง ให้ความทุ่มเทเอาใจใส่ วางแผน และดำเนินการ อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่คาดหวังว่าจะต้องได้รับผลตอบเเทนอันงดงามเพียงชั่วเวลาสั้นๆ
ผู้แนะนำธุรกิจของคุณควรจะเน้นย้ำกับคุณว่า ธุรกิจเครือข่าย นั้นมีความยากลำบากเหมือนกับการประกอบธุรกิจทั่วไป และ ที่ยากนั้นเป็นเพราะว่า การขาดทักษะเเละความรู้ในการดำเนินธุรกิจ
ธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจ ที่ ใครๆก็สามารถเข้าร่วมธุรกิจเครือข่ายได้โดยไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์การทำธุรกิจมาก่อน หรือ ประสบความสำเร็จมาก่อน, หรือได้รับการฝึกอบรมส่วนตัว มาก่อน แต่ที่รู้สึกว่ามันยากเพราะรางวัลผลตอบแทนอันงดงามนั้นไม่ได้เกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด และนอกจากนั้น รู้สึกยากเพราะจะต้องรักษาความมุ่งมั่นและอดทนต่ออุปสรรค์ที่เกิดขึ้นของตนเอง เฉกเช่นกับการทำงานประจำทั่วไป
ที่ปรึกษาธุรกิจของคุณ คาดหวังว่าคุณจะสามารถผ่านขั้นตอนการลองผิดลองถูก เหมือนกับการเริ่มต้นในธุรกิจทั่วไปที่นักธุรกิจได้ฟันฝ่ามา คาดหวังว่าคุณจะมีทรรศนะคติความเชื่อมั่นที่ต้องเผชิญต่ออุปสรรค์ ความท้ายทายต่างๆ ก่อนที่จะได้รับรายได้อันมั่นคงจากอุตสาหกรรมธุรกิจนี้....
โดยเริ่มจากรายได้เสริม เพียงเล็กน้อย ค่อยๆพัฒนาขึ้นจนรายได้อยู่ในระดับสูงสุดของบริษัทของคุณ
กล่าวโดยสรุปผู้แนะนำจะคาดหวังว่า สมาชิกธุรกิจใหม่จะมี:
*ทรรศนะคติที่ถูกต้อง และเหนือสิ่งอื่นใดคือมีความจริงจังในการประกอบธุรกิจเครือข่าย
*สมาชิกใหม่รู้ว่าจุดแข็งของตนคืออะไร? เพราะพวกเราหลายคนมักจะ มุ่งคำนึงถึงแต่การปรับปรุง จุดอ่อนข้อด้อยของตน จนกระทั่งลืมคำนึงถึงจุดแข็งความถนัดความสนใจของตนที่สามารถนำมาใช้ได้ก่อน การพะวงกับข้อด้อยของตัวเองจนเกินไป มักจะฉุดรั้งความตั้งใจในการลงมือทำจนท้ายที่สุด ก็มักไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่างเดียว
*ความโหยหาศึกษาความรู้เพิ่มเติมในการประกอบธุรกิจในการปรับปรุงศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็น การตลาด ความรู้เกี่ยวกับสินค้า, บริษัท หรือแม้แต่การบริหารจัดการองค์กร
ที่ปรึกษาธุรกิจที่สมควรได้รับการนับถือนั้น ควรจะมีความคาดหวังเหล่านี้บ้าง และไม่ควรที่จะกลัวหรือกังวลที่จะบอกสิ่งเหล่านี้กับ คุณหรือสมาชิกใหม่ ถ้าคุณพบผู้แนะนำคุณไม่มีสิ่งต่างๆเหล่านี้เลย มีโอกาสเป็นไปได้ว่า คุณได้พบแค่ผู้ที่เป็นเพียงนายหน้าแนะนำสมาชิก หวังสร้างรายได้จากคุณโดยไม่ลงทุนลงแรงอะไร
พวกเขาเป็นผู้ที่สนใจแต่จะเน้นปริมาณสมาชิกในทีมเท่านั้น โดยหวังว่าคงได้จะพบกับ
“คนที่สามารถทำทั้งหมดเองได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอะไรจากเขา”
ถ้าคุณเจอกรณีเช่นนี้ ก็สมควรถึงเวลาที่คุณ จะหาที่ปรึกษาที่มีความสามารถช่วยคุณได้ เพื่อความก้าวหน้าในอนาคตที่รวดเร็วกว่า
“คุยกับผู้รู้ค่ำคืนเดียว ดีกว่าเที่ยวศึกษา ไปนับสิบปี”
ทั้งคุณและที่ปรึกษาธุรกิจคุณควรมีความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจ ในการส่งเสริมพลังอำนาจของ เครือข่าย โดยการสร้างระบบ ที่สามารถเลียนแบบทำซ้ำได้ง่าย และมีประสิทธิภาพ และระบบนี้สามารถส่งผ่านไปยัง สมาชิกใหม่หรือ downline ของคุณ

วิํธีการพิจารณาเลือกเข้าร่วมบริษัทธุรกิจเครือข่าย

มีหลายปัจจัยด้วยกันที่มีส่วนสำคัญในความสำเร็จของคุณ ในฐานะ นักธุรกิจเครือขายไม่ว่าจะเป็น
“การเลือกบริษัท”, “ความมุ่งมันตั้งใจที่จะบรรลุความสำเร็จของคุณ”, “ความรู้ความสามารถของคุณในการฝึกฝน เอาใจใส่ดูแลหุ้นส่วนธุรกิจของคุณและการสร้างความมั่นคงของทีมงาน” ซึ่งหมายความถึง ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับหุ้นส่วนธุรกิจอื่นๆ(down line)นั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

แน่นอนว่า สิ่งสำคัญอันแรกที่เป็นตัวกำหนดหรือส่งเสริมความสำเร็จของคุณ คือการเลือกบริษัทในการเข้าร่วมธุรกิจนั้นคุณควรเลือกบริษัทที่มีทิศทางในการสนับสนุนแนวทางธุรกิจทิศทางเดียวกับคุณ ต้องแน่ใจว่าบริษัทที่คุณหมายปองนั้นควรค่าแก่การได้รับการพิจารณาจากคุณ
ธุรกิจเครือข่าย(MLM) ได้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางกว่าทศวรรษ บริษัทต่างๆได้จัดเตรียมสินค้าอุปโภคบริโภค มากมาย ตั้งแต่ เครื่องใช้ในบ้านจนกระทั่งอาหารเสริม
ทำให้รู้สึกเหมือนว่า มีผลิตภัณฑ์ ให้คุณขายมากมายไม่รู้จบ แต่คุณควรจะคัดเลือกให้ดีว่า บริษัทไหนเหมาะสมแก่ความวิริยะอุตสาหะของคุณ ซึ่ง บริษัทนั้นๆควรจะมีประวัติของความสำเร็จในมุมมองของอุตสาหกรรมธุรกิจขายตรงหลายชั้น หรือ MLM
ก่อนอื่นคุณควรคำนึงถึง ชื่อเสียงของบริษัท นักการธุรกิจอิสระบางคนเลือกที่จะเข้าร่วมกับ บริษัทขนาดใหญ่มั่นคง ส่วนบางคนเลือกที่จะเข้าร่วมกับบริษัทที่ค่อนข้างใหม่ในธุรกิจเครือข่าย และบางคนเลือก จากชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์ ของบริษัท แต่ทั้งหมดนั้น ต้องพิจารณาว่า บริษัทให้ความสนับสนุนประชาสัมพันธ์ให้แก่สมาชิกและสินค้าของบริษัทหรือไม่ มองหาบริษัท ทีมงานผู้แนะนำธุรกิจที่มีระบบช่วยคุณได้ตั้งแต่วันแรกของการสร้างเครือข่ายธุรกิจของคุณ
สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ แผนรายได้ และจุดนี้มักเป็นจุดที่อันตรายที่สุด ซึ่งมักจะพลาดกันง่ายๆ….อย่าตกหลุม หลงเชื่อ ผู้แนะนำปากหวานก้นเปรี้ยว ที่นำเสนอเพียงผลตอบแทนจำนวนมาก ที่สามารถได้มาง่ายๆในระยะเวลาอันสั้น
คุณต้องเข้าใจและแน่ใจว่า แผนรายได้พวกที่พวกเขาเสนอนั้น เป็นไปได้จริง ตรวจดูว่าคุณหรือผู้มุ่งหวังจะต้องซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ จำนวนหนึ่งในราคาค่อนข้างสูงเกินความจำเป็นก่อนที่จะ สามารถได้รับค่าคอมมิสชั่นหรือไม่ ทั้งนี้คุณอาจนำเงื้อนไขมาเปรียบเทียบกับบริษัทธุรกิจเครือข่ายที่ได้มาตรฐานอื่นๆก็ได้
เหล่านี้เป็นคำถามที่สมควรที่จะถาม หรือตั้งข้อสังเกต กับ ทุกๆบริษัทที่คุณจะเลือกเป็นแนวร่วม และคุณควรจะถามคำถามเหล่านี้กับพวกเขาตั้งแต่เริ่มต้น เข้าร่วมกับบริษัทที่คุณมีความมั่นใจมากที่สุด ไม่มีอะไรที่จะทำให้คุณท้อแท้ผิดหวังไปกว่า การพยามประชาสัมพันธ์ สินค้าหรือบริษัทที่คุณไม่มี ความเชื่อมั่นจริงๆ
ทางที่ง่ายที่สุดคือ เลือกบริษัทที่ประวัติที่ดี และมีชื่อเสียงในความรู้สึกที่ดีของลูกค้า หรือ สมาชิกมีความพึงพอใจ ในแผนรายได้ >>>

ระบบการเลียนแบบทำซ้ำ

ในระบบการเลียนแบบทำซ้ำนั้น คุณจำเป็นที่จะต้องให้คำปรึกษาสมาชิกดาวน์ไลน์ของคุณ คุณจะต้องมีระบบที่สามารถช่วยให้การเลียนแบบทำซ้ำง่ายยิ่งขึ้น ระบบควรประกอบด้วย 3S + 1M
S1 (Selling) การขายตัวคุณเองก่อน โดยใช้สินค้าแล้วบอกต่อ...เพื่อการสร้างฐานผู้บริโภค
S2 (Sponsoring) การเสนอโอกาส แผนการตลาด...เพื่อการเติบโตและเพื่อสร้างฐานผู้นำ
S3 (servicing) การบริการ เพื่อการสร้างยอดจำหน่ายและสอนวิธีเริ่มต้น และคัดเลือกผู้นำ
M (Meeting) การใช้การประชุม เพื่อการเรียนรู้ และเพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งหมดนี้เป็นระบบการเลียนแบบทำซ้ำที่เรามักคุ้นกันในระบบการตลาดธุรกิจเครือข่ายแบบดั้งเดิม และอย่างที่ทราบกันดีว่า เป็นการง่ายที่จะพูด แต่ยากในการปฏิบัติ
ดังนั้นระบบการเลียนแบบทำซ้ำ จึงสมควรถูกปรับปรุงให้เป็น 4 C คือ:
CAPTURE---- > CULTIVATE------ > CLOSE--------- >COACHING
ระบบนี้สามารถใช้ได้ทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์แต่จะสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างยิ่งเมื่อใช้ในการตลาดบน อินเตอร์เนต
จุดประสงค์หลักของกระบวนการเลียนแบบทำซ้ำนี้ คือการ เก็บรายชื่อของ คนที่ให้ความสนใจในสิ่งที่คุณเสนอ ดังนั้นหลักการตลาดและการโฆษณาของคุณนั้นควรจะทำอยู่บนพื้นฐานของเป้าหมายการสร้างรายชื่อ
CAPTURE คือ การได้รับรายชื่อและช่องทางในการติดต่อของ ผู้มุ่งหวัง โดย ทาง e-mail หรือโทรศัพท์ โดยจุดประสงค์ของ ขั้นตอนนี้ คือการหาผู้มุ่งหวัง และ พยายามจับความตั้งใจ ของพวกเขา โดยให้เขากรอกข้อมูล ชื่อที่อยู่ในการติดต่อ เพื่อเป็นการขออนุญาตในการทำการติดต่อกับเขา กระบวนการนี้อาจเรียกได้ว่า เป็น กระบวนการดึงดูด และสามารถทำได้ดีบนเว็บไซด์
ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดอินเตอร์เนต กล่าวว่า มีความสำคัญอย่างยิ่งในการยื่นข้อเสนอให้อะไรบางสิ่งบางอย่างกับผู้มุ่งหวังของคุณ ฟรีๆ เพื่อแลกเปลี่ยนกับ ชื่อ ที่อยู่ในการติดต่อกับพวกเขา
ในระบบของผมนี้ผม เสนอ “หนังสือตราบาปธุรกิจเครือข่าย” ให้กับคุณ คลิ๊กที่นี่ เพื่อขอ หนังสือทันที ที่ผู้สนใจ ได้กรอกข้อมูลแล้ว ข้อเสนอของคุณที่เขาต้องการจะถูกส่งไปให้กับเขา และ ถึงตอนนี้รายชื่อของเขาก็จะอยู่ในระบบของคุณ ซึ่งคุณสามารถหยิบยื่นสิ่งดีๆให้แก่เขาซ้ำแล้วซ้ำอีก และขณะนี้เองเราก็จะพาเขาสู่ขั้นตอนต่อไป
CULTIVATE
จุดประสงค์ของขั้นตอนนี้คือ การสร้างสัมพันธ์ภาพ และความเชื่อถือ ในขั้นตอนนี้คุณอาจจะทำการติดต่อกับเขาทาง อีเมล์ หรือ จดหมาย หรือ โทรศัพท์ หรือ MSN คุณสามารถให้คำแนะนำ หรือข้อมูลที่มีประโยชน์แก่เขาเพิ่มเติมได้ โดยอาศัยช่องทางที่เขาให้แก่คุณ
ในการติดต่อแต่ละครั้ง เป็นการสร้างสัมพันธ์ภาพ มิตรภาพ โดยคุณควรจะให้ความสำคัญในการช่วยเหลือในการแก้ปัญหาอะไรก็ตามที่พวกเขาอาจเอ่ยบอกกับคุณ. ขั้นตอนนี้เรียกว่าขั้นตอนการเบิกทาง และขั้นตอนนี้คุณต้องพิจารณาดูว่าพวกเขาพร้อมไหมที่จะก้าวไปสู่ขั้นตอนต่อไป

CLOSE
ในขั้นตอนนี้คือขั้นตอนที่ให้ผู้มุ่งหวังของคุณ สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกธุรกิจกับคุณ หรือ ทำการซื้อสินค้าของคุณขั้นตอนนี้สามารถเกิดขึ้นได้เพียงชั่วขณะ อาจจะเป็นเพียงแค่คุณเอ่ยคำถามโดนใจและเชิญชวนให้เขายอมรับในสิ่งที่คุณเสนอนั้น ในขั้นตอนนี้ บางคนอาจทำได้ บางคนอาจปฏิเสธ เป็นขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนซึ่ง คุณควรมีประสบการณ์มาก่อนหรือมีที่ปรึกษาธุรกิจที่ดี ให้คำปรึกษาแก่คุณ
ถ้าสมมุติขั้นตอนที่ผ่านๆมาคุณทำได้ดีราบรื่น เมื่อถึงขั้นตอนการปิดนี้ ควรจะง่ายเหมือนเพียงแค่คุณเอ่ยว่า...คุณเห็นโอกาสนี้เเล้วใช่ไหม?หรือคุณคิดว่าคุณพร้อมที่จะเริ่มหรือยัง?ถ้าเขาตอบตกลง ก็ลงมือทำการสมัครได้เลย ไม่ต้องรีรออะไรอีก หลังจากนั้น คุณจะพาเขาไปสู่ขั้นตอนต่อไป

COACH
ขั้นตอนสุดท้าย คือการสอนให้คำปรึกษา ขั้นตอนนี้ควรจะต้องเริ่มให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ หลังจากที่พวกเขาเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ หรือหุ้นส่วนธุรกิจของคุณ คุณควรจะทำการติดต่อเขาทันที อาจเป็นทางโทรศัพท์ จัดการเตรียมการสอน จัดตารางเวลา ในการให้คำปรึกษาเขาเกี่ยวกับ การทำธุรกิจนี้ พวกเขาอาจจะตื่นเต้น หมายถึงอาจตื้นตันใจ พวกเขาบางคนอาจจะบอกคุณว่าพวกเขาเคยเข้าร่วมธุรกิจเครือข่ายนี้มาก่อน แต่ไม่เคยมีใคร โทรหาเขาแล้วเสนอตัวช่วยในการวางแผน เซตอัพ ระบบงานให้แก่เขามาก่อน โดยตั้งใจที่จะช่วยเขาจริงๆโดยไม่คิดค่าเสียเวลา
เหนือสิ่งอื่นใด นำให้เขาเริ่มลงมือปฏิบัติ และก่อนที่คุณจะจบการสอน โดยไม่สนใจว่าจะใช้เวลากี่รอบ จงแน่ใจว่าพวกเขาได้ทำตลาด ตามวิธีการที่พวกเขาได้เลือก และดำเนินไปตามแผนการตลาดที่คุณช่วยเขาวางระบบไว้ สรุปคือ ทำอะไรก็ได้ที่คุณคิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องทำเพื่อช่วยเหลือพวกเขาให้สามารถ ดำเนินธุรกิจได้จริง อย่าเป็นเพียงแค่พูดคุยกันเฉยๆ
แต่ยังไม่จบกันเพียงเท่านี้ คุณจะต้องคอยติดตามสอบถาม ปัญหาซึ่งกันและกันอยู่เสมอ จนกว่าเขาสามารถเลียนแบบทำซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถสอนคนอื่นๆต่อๆไป และธุรกิจของคุณจะเติบโตอย่างไม่มีขีดจำกัด


การลอกเลียนเเบบ (Duplication)

ถึงแม้ว่าเราจะได้ยินคำนี้กันมาบ่อยครั้ง แต่ผมไม่เคยได้ยินใครอธิบายลงในรายละเอียด ผู้แนะนำธุรกิจส่วนใหญ่มักหยิบยกเอาคำนี้มาใช้กันจนคุ้นหูอยู่เสมอ “เรามีระบบที่เลียนแบบทำซ้ำได้ง่าย” “เพียงแค่ให้พวกเขาทำเหมือนกันกับสิ่งที่คุณทำ” นั่นหมายความว่า ถ้าต้นฉบับผิด ผลที่ได้จึงเป็นอย่างที่เห็นกันว่า กว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของนักธุรกิจเครือข่ายต้องพบกับความผิดหวัง
ก่อนอื่นสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างสำเนาคุณ คือ คุณจะต้องหาคนที่ใช่คนนั้น หมายถึง คุณต้องการร่วมงานกับคนที่มีความตั้งใจจริงผู้ที่คอยรับฟังและให้ความตั้งใจที่จะเรียนรู้จากสิ่งที่คุณแนะนำ พวกเขาจะต้องเป็นนักธุรกิจที่มีความสามารถ เป็นผู้ที่ เข้าใจว่า คุณและทีมของคุณมีระบบแผนงานที่สามารถพิสูจน์ได้จริงว่าสำเร็จ
การร่วมงานกับผู้ที่มีความตั้งใจนั้น จะช่วยให้คุณทำงานง่ายขึ้น… ในกระบวนการ การทำสำเนาลอกแบบนั้น จะต้องมีความต้องการตรงกัน และแน่ใจว่า พวกเขามีเวลา มีกำลัง มีความจริงจัง และ คุณสมบัติอื่นๆที่จะมาเป็นผู้ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมธุรกิจนี้
ถ้าคุณต้องการที่จะให้ธุรกิจของคุณสามารถอยู่รอดได้ด้วยตัวเองนั้น และอยู่รอดได้ในปีต่อๆไป มีความจำเป็นที่คุณอาจ จะต้องเลือกผู้ที่ตั้งใจจริงๆเท่านั้น การที่คุณพยามที่จะเข็นใครสักคนผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมเลย ไม่มีความตั้งใจเรียนรู้อย่างเอาจริงเอาจัง มันเป็นการใช้เวลาและกำลังอันมีค่าของคุณไปอย่างไม่ค่อยจะชาญฉลาดนัก
ในเมื่อถ้าเรายังไม่ประสบความสำเร็จ หรือ การดำเนินงานติดขัดจนผิดปรกติจนเกินไป เราจำเป็นต้องหันมาให้ความสนใจในรายละเอียด ตั้งข้อสังเกตว่าส่วนไหนของกระบวนการของเรา มีจุดอ่อน และทำการแก้ไข
เสาะหาผู้มุ่งหวัง==== > สมัครสมาชิก==== > การลอกเลียนแบบ
ถ้าคุณมีปัญหาตั้งแต่เริ่มต้น กระบวนการ ในการเสาะหาผู้มุ่งหวัง มีความเป็นไปได้ว่า ระบบการเสาะหาผู้มุ่งหวังนั้น ไม่ดีพอ การที่บริษัทของคุณหรือผู้แนะนำธุรกิจของคุณ อ้างว่า ระบบของเขาช่วยให้คุณสามารถหาผู้มุ่งหวังได้ง่าย หรือต่อสมาชิกใหม่ให้เเก่คุณและมีหลายคนที่ประสบความสำเร็จ เเต่ คุณต้องระลึกไว้ว่า บางสิ่งบางอย่างนั้นเหมาะสำหรับ บางคนแต่ไม่ใช่กับทุกคน
แต่ถ้าระบบเสาะหาผู้มุ่งหวังของคุณมีประสิทธิภาพ ใช้การได้ดี ปัญหาของคุณอาจจะอยู่ที่ วิธีการสมัครของสมาชิก คุณจะต้องสังเกตดูว่า ขั้นตอนการสมัครสมาชิกของคุณนั้นยุ่งยากเกินไปไหม ระบบการเสาะหาผู้มุ่งหวังของคุณสามารถทำการอบรมให้กับสมาชิกใหม่ได้ทันทีและสามารถเลียนแบบทำซ้ำได้เหมือนอย่างคุณได้หรือไม่?
ในการวิเคราะห์ระบบของคุณ ต้องพยายามจำไว้ว่า ธุรกิจนี้จำเป็นต้องทำให้ เข้าใจได้ง่าย ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อสมาชิกใหม่ของคุณสามารถเรียนรู้และเข้าใจ ในสิ่งที่จำเป็นทั้งหมดและสามารถเริ่มธุรกิจของเราได้อย่างรวดเร็ว และพวกเขาสามารถถ่ายทอดให้แก่ สมาชิกใหม่ของเขาได้
ขั้นตอนนี้จะต้องทำให้ไวที่สุด หลังจากที่พวกเขาเริ่มเข้าร่วมธุรกิจ ถ้าสมาชิกใหม่ของคุณไม่สามารถเรียนรู้การเลียนแบบได้อย่างรวดเร็วแล้ว อาจเป็นไปได้ว่า ระบบนั้นซับซ้อนเกินไป

คำถามที่ถูกถามบ่อย เกี่ยวกับธุรกิจปูแดง

ถาม เป็นลูกโซ่ใช่หรือไม่?

ตอบ ปูแดงเบสท์59 เป็นธุรกิจเครือข่าย (Network Marketing) ซึ่งเน้นสร้างเครือข่ายผู้บริโภค ที่สมาชิกทุกคนในเครือข่ายมีบทบาท ความสำคัญเท่าเทียมกัน ต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เราเน้นการทำงานกันเป็นทีม บริษัทดำเนินธุรกิจถูกต้องตามกฏหมาย มีสคบ. ให้การรับรอง ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพเด่นชัดผ่าน ห้องวิจัยกลาง ม.เกษตรกำแพงแสน เรียบร้อย มีแผนการจ่ายเงินรายได้ที่ตรวจสอบได้ตามกฎหมายทุกประการ

ถาม ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นอะไร?

ตอบ เป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มผลผลิตให้กับพืชและสัตว์ทุกชนิด ปลอดสารพิษ ลดต้นทุนและเพิ่มกำไรให้ผู้ใช้ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิเคราะห์ วิจัย พัฒนา และควบคุมการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่มีคุณภาพสูง จากโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) ทุกผลิตภัณฑ์มีจุดเด่น สามารถขายได้ด้วยตัวเอง ราคาสมเหตุสมผล สามารถซื้อซ้ำได้ง่าย

ถาม ไม่มีเงินทุนทำได้ไหม?

ตอบ คำว่า "ธุรกิจ" ย่อมมีเงินลงทุนเสมอ ซึ่งคุณอาจเริ่มด้วยการสมัครสมาชิกในฐานะผู้บริโภค ซื้อใช้ พร้อมกับศึกษา ทำความเข้าใจกับแผนรายได้ และการสร้างธุรกิจ เมื่อคุณพึงพอใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์แล้ว คุณจึงค่อยแบ่งปันเรื่องราว ความประทับใจในผลิตภัณฑ์ รวมถึงโอกาสในการสร้างรายได้จากแผนธุรกิจแก่บุคคลทั่วไป เพียงเท่านี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างเครือข่ายของคุณกับบริษัท ปูแดงเบสท์59 แล้ว สำหรับผู้ที่สนใจทำงานใน ระบบออนไลน์ ปูแดงเบสท์59 ของเรามีระบบรองรับ ไว้ให้แล้ว คือเวปไซต์ส่วนตัวสำหรับสมาชิกทุกคน ถึงไม่มีความรู้ด้านอินเตอร์เน็ตมากนัก ก็สามารถทำได้

ถาม มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน?

ตอบ ธุรกิจอื่น ๆ อาจมีความเสี่ยงอยู่ค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนสูง สถานที่ ประสบการณ์ ค่าใช้จ่าย รายเดือน ค่าลูกจ้าง ฯลฯ ที่อาจจะไม่คุ้มทุน ทำให้เกิดปัญหาหนี้สินตามมาได้ แต่สำหรับธุรกิจเครือข่าย ไม่มีความเสี่ยง ลงทุนน้อย สำหรับที่นี่ เรามีทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพ มีระบบรองรับการทำงานที่ชัดเจน ทุกคนเลียนแบบ และทำซ้ำได้ สร้างเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีการซื้อสินค้ามากักตุนเพื่อขึ้นตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น

ถาม ประสบการณ์ไม่มีทำได้ไหม กลัวทำไม่ได้?

ตอบ สำหรับงานประจำคุณคงต้องมีประสบการณ์อย่างน้อย 2-5 ปี แน่นอนครับ แต่ที่นี่ด้วยระบบที่เราสร้างไว้ คุณเพียงเข้ามาใช้ระบบ ซึ่งจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับการ Training เพื่อเสริมสร้างความรู้ ทักษะของคุณ ดังนั้น ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น เราให้คุณศึกษาก่อนจนมั่นใจ เพียงคุณทำตัวเป็นนักเรียนที่ดีก็สามารถประสบความสำเร็จได้

ถาม ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ กลัวทำแล้วไม่ได้จริงอย่างที่ว่า?

ตอบ สำหรับผู้ที่ยังไม่มีความเชื่อ และมั่นใจกับธุรกิจนี้มากนัก คงไม่มีใครโน้มน้าวให้คุณเชื่อได้ แต่ทุกวันนี้เป็นยุคไซเบอร์ (Cyber) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สามารถทำให้สิ่งที่คุณไม่คาดคิด นั้นเป็นไปได้ และถ้าเป็นไปไม่ได้ คงไม่มีใครให้ความสนใจมากขนาดนี้ โลกอนาคตเป็นยุคของเครือข่ายครับ ถ้าคุณไม่ทำเครือข่าย คุณก็จะถูกกลืนไปกับการตลาดแบบเครือข่ายโดยไม่รู้ตัว

ถาม เคยมีเพื่อนทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ คงจะเหมือนกับบริษัทนั้น?

ตอบ คงต้องถามย้อนกลับไปว่า คนที่ทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จนั้น เขามีวิธีการทำอย่างไรบ้าง มีวิธีการขั้นตอนในการทำถูกต้องไหม เพราะว่าธุรกิจเครือข่าย ไม่มีการสอนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ดังนั้น คนทำผิดวิธีมีเยอะ จึงไม่ประสบความสำเร็จ แต่ที่นี่เรามีการสอนอย่างมืออาชีพด้วยระบบที่ถูกพัฒนาเพื่อการสร้าง ผู้นำทางธุรกิจเครือข่ายโดยตรง และถ้าคุณศึกษาเรียนรู้ คุณก็สามารถเป็นมืออาชีพที่ทำธุรกิจเครือข่ายประสบความสำเร็จ ได้โดยไม่ยากเลย

ถาม สนใจแต่ไม่มีเวลาทำได้ไหม?

ตอบ ใน 1 วันมี 24 ชม.เหมือนกันทุกคน ถ้าคุณสามารถแบ่งเวลาได้เพียงวันละ 2-3 ชม.มาทำงานผ่านอินเตอร์เน็ตที่บ้าน คุณจะสามารถสร้างธุรกิจเครือข่ายเพื่อขยายงานได้เหมือนกับสมาชิกที่ทำเต็มเวลา เพียงแค่คุณใช้เวลาที่มี แนะนำธุรกิจนี้กับสมาชิกที่มีเวลาเต็มที่ เพื่อทำธุรกิจ คุณก็จะสามารถขยายเวลาในการทำธุรกิจจากสมาชิกที่คุณแนะนำมาได้ เป็นเหมือนการสะสมเวลามารวมกันหลายๆคนช่วยกันทำธุรกิจเครือข่ายครับ

ถาม ต้องเข้าร่วมประชุมไหม?

ตอบ การประชุม เป็นเครื่องมือที่สำคัญ เพื่อการรับทราบข้อมูล เทคนิควิธีการใหม่ ๆ และเรียนรู้เพิ่มเติมครับ การใช้ที่ประชุมจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับการพัฒนาธุรกิจของคุณ ถามว่า ถ้าไม่ไปได้ไหม ? ได้ครับ แต่ว่า ความสำเร็จของธุรกิจคุณ ก็จะเลื่อนออกไปอีก เหมือนกับการที่เราผลัดวัน ประกันพรุ่ง อย่าลืมว่า ธุรกิจนี้ คุณเป็นเจ้าของธุรกิจของคุณเอง ไม่ใช่ ลูกจ้าง ถ้าให้ความสนใจในธุรกิจมากพอ คุณจะพบกับความสำเร็จที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

ถาม ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?

ตอบ หลังจากคุณลงทะเบียนผ่านเวปไซต์นี้แล้ว คุณจะได้รับอีเมล์ (E-mail) ตอบกลับ เพื่อให้คุณยืนยันรายละเอียดที่คุณลงทะเบียนไว้อีกครั้ง หลังจากนั้น คุณสามารถเข้าสู่ระบบห้องทำงานส่วนตัว เพื่อเรียนรู้ หรือ ทดลองระบบตามวัตถุประสงค์ของคุณ ที่ปรึกษาทางธุรกิจซึ่งเป็นผู้แนะนำธุรกิจนี้ให้แก่คุณ จะติดต่อเพื่อนัดพบ หรือส่งเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมให้ ซึ่งคุณจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น หากคุณไม่ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมธุรกิจกับเรา

หมายเหตุ

ในบางกรณีอีเมล์ (E-mail) ที่ส่งจากระบบอัตโนมัติจะถูกกำหนดค่าเป็นอีเมลขยะ (Junk-mail)
ดังนั้นหากไม่พบอีเมล์ (E-mail) จากระบบในกล่องจดหมาย (Inbox) กรุณาตรวจสอบในอีเมล์ขยะ (Junk-mail) ด้วย

คุณเป็นคนไหนในภาพนี้

อารมณ์ต่างๆ ในเวลาทำงาน ได้ใจ..ฮา

Boss is not here : เจ้านายไม่อยู่
Boss is calling : เจ้านายโทรตาม
In a meeting : ในที่ประชุม
Training : ไปสัมมนา
Tea break : ช่วงพักเบรค
Before noon on weekend : ก่อนเที่ยงวันหยุด
Ready for getting off work : เตรียมพร้อมเลิกงาน
Tomorrow is a holiday :   พรุ่งนี้วันหยุด
Got today ' s target from boss : รับงานจากเจ้านาย
Tough target : งานยาก
Find impossible to meet boss ' s requirement : งานที่เจ้านายสั่งเป็นไปไม่ได้
OT for 2hrs : OT 2 ชั่วโมง
OT for a whole night : OT ทั้งคืน
Being notified to OT on weekends : OT วันหยุด
Meet with ' Sorry-I-Don ' t-Know ' clients : ไปพบลูกค้าที่ไม่รับฟัง
Made mistakes in work : ทำงานผิดพลาด
Little achievement : ประสบความสำเร็จเพียงเล็กๆน้อยๆ
Frustrating things happens : เรื่องวุ่นวายกำลังเกิด
Fi na nce person doesn ' t give the money: แผนกการเงินไม่จ่ายเงินให้
Being advised NO BONUS this year : รู้ว่าสิ้นปีนี้ไม่มีโบนัส

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ชีวิตหลังความตาย Life After Death sub Eng



คนรวยที่สุดในโลกมองหาวิธีสร้างเครือข่าย แต่คนทั่วไปมองหางานทำ

งานประจำ ไม่ทำให้ร่ำรวยได้

งานประจำ ไม่ทำให้ร่ำรวยได้ มีแต่หนี้ ถ้าต้องการความสำเร็จ ต้องเป็นเจ้าของธุรกิจ ธุรกิจมี 2 ประเภท คือ รวยแต่หยุดทำไม่ได้ กับรวยแล้วพักได้โดยรายได้ไม่หยุด

1. กิจการใหญ่ (ซีพี , AIS)
2. เจ้าของแฟรนไชส์ (แมคโดนัลด์ , 7-11)
3. ธุรกิจเครือข่าย

- การตลาดเครือข่าย เป็นเสมือนโรงเรียนสอนนักธุรกิจ ที่ช่วยให้คุณย้ายฝั่งได้ง่าย ได้ผล และปลอดภัยที่สุด

- บริษัทเครือข่ายการตลาดที่ดีจะต้องมีระบบพัฒนาตัวคุณอย่างสมบูรณ์แบบ (โดยสอนให้คุณเป็นนักธุรกิจ เพื่อเป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่ใช่สอนให้คุณเป็นเซลส์แมนหรือเพียงทำให้คุณมีรายได้ไปวันๆ บนความมั่นคงที่ไม่แน่นอน)

คนที่รวยที่สุดในโลกล้วนแสวงหา การสร้างเครือข่าย ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่กำลังหางานทำ หากคุณมีความคิดสร้างสรรอันยิ่งใหญ่ หรือสินค้าอันดีเยี่ยมปานใดก็ตาม มีเพียงหนทางเดียวที่จะนำท่านสู่ความสำเร็จ คือ การใช้เครือข่ายการประชาสัมพันธ์ และเครือข่ายการ จัดจำหน่ายสินค้า เหล่านั้นสู่มือผู้บริโภคอย่างได้ผล

สองมหาเศรษฐีของ สหรัฐอเมริกา ทางซ้ายมือ คือ Mr. Robert Kiyosaki เศรษฐีระดับ 100 ล้านเหรียญดอลลาร์ และทางด้านขวามือ คือ Mr. Donald Trump รวยระดับ 10,000 ล้านเหรียญดอลลาร์ ได้ร่วมกันแต่งหนังสือ Why We Recommend Network Marketing ซึ่งเนื้อหาในหนังสือจะกล่าวถึงว่า ทำไมทั้งสองท่านนี้ จึงได้แนะนำให้คนทั่วไป ที่คิดจะทำธุรกิจ ได้ทำ "ธุรกิจเครือข่าย"

หลักการทำงาน ธุรกิจเครือข่าย

เทคนิค การเปิดใจ ขวัญน้ำใจ

การภุชง ติตตาม

เทคนิค การตอบข้อโต้แย้ง

เทคนิค การเชิญ

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เคล็ดลับ : ช่วยกำจัดความ ‘เขิน’

หาก ปล่อยให้มีความเขินอายมากเกินไป... ในกรณีที่คุณเป็นคนทำงาน ก็จะส่งผลให้คุณดูไม่เป็นมืออาชีพ ในกรณีที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ก็อาจจะส่งผลให้คุณเรียนได้คะแนนน้อยลง (เพราะพรีเซนต์งานไม่เก่ง) ในกรณีที่เป็นแม่ค้าขายของ ก็อาจทำให้รายได้ไม่ดี (เพราะไม่เรียกลูกค้า) หรือในกรณีอื่นๆ เช่น คนทั่วๆ ไป อาจส่งผลถึงขั้น พูดคุยไม่รู้เรื่อง เนื่องจากขาดความมั่นใจในการติดต่อสื่อสาร

ลองมาดู วิธีการขจัดความเขินอายเหล่านี้ ดูสักหน่อย หากยังไม่สามารถช่วยคุณได้ ก็อาจใช้วิธี ไปพบจิตแพทย์ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเลย จะดีกว่า


1. เริ่มจากการวิเคราะห์ตัวเอง
วิธี ที่ถูกต้องที่สุดก็คือ การตั้งใจที่จะค้นหา ว่าอะไร เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความเขินอาย ลองเปิดใจ วิจาร์ตนเองอย่างตรงไปตรงมา ก็จะช่วยให้คุณรู้ได้ว่า ความเขินอายเกิดขึ้นเพราะอะไร? ความกลัว? คิดไปเอง?หรือจริงๆ แล้ว ตัวคุณขาดตกบกพร่อง คุณลักษณะในข้อไหน เมื่อวิเคราะห์ตัวเอง จนได้เหตุผลออกมาเป็นข้อๆ จะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์จริงได้


2. ลงมือฝึกซ้อม
การฝึกซ้อม เพื่อขจัดความเขินอาย เป็นวิธีที่ดีสุด ที่คุณจะใช้ในการเผชิญหน้า และรับมือกับปัญหา ลองเริ่มต้นฝึกซ้อมกับตัวเองง่าย เช่น ยืนอยู่หน้ากระจก ยกคาง จัดใบหน้าให้อยู่ในตำแหน่งที่ดูดี ฝึกการยืน – การเดิน ให้ดูสง่าผ่าเผย ฝึกการพูดให้เสียงดังฟังชัด หรือจะฝึกร้องเพลงก็ได้ หลังจากนั้น คุณจะเห็นผลลัพธ์ และรู้สึกดีมากขึ้นเรื่อยๆ ความั่นใจในที่สาธารณะก็จะเกิดขึ้นตามมา


3. ฝึกปฏิบัติต่อไป
หลังจากฝึก การพูด การยืน การเดิน และลักษณะบุคลิกต่างๆ ไปแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือการเริ่มฝึกใช้ อวัจนภาษา เช่น การใช้สายตา เพื่อสื่อความหมาย การฝึกยิ้มให้กับผู้คนรอบข้าง การรู้จักเริ่มเปิดบทสนทนากับผู้อื่น หรือแม้กระทั่ง การเริ่มพูดคุยกับคนแปลกหน้า เช่น พูดคุยกับคนขายหนังสือ “ช่วงนี้ มีหนังสือออกใหม่แนะนำบ้างมัยครับ/ค่ะ วิธีการเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ให้กับคุณทีละน้อย และการฝึกปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง จะช่วยเพิ่มความมั่นใจของคุณให้มากขึ้น


4. แต่งกายดูดี มีรสนิยม
การแต่งกายคือสิ่งที่แสดงออกถึงลักษณะ และบุคลิกภาพของคุณ และการแต่งกายที่ดี จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เพิ่มมากขึ้นได้ สิ่งที่เป็นประโยชน์ตามมาในทางอ้อม สำหรับการแต่งกายให้ดูดี ก็คือ จะช่วยให้คุณมีสติสัมปชัญะ เพิ่มมากขึ้น (เป็นผลกระทบ ที่เกิดขึ้น หลังจากมีความมั่นใจ)แต่ในทางตรงกันข้าม การแต่งกายที่ โอเวอร์ - ออฟชั่น มากเกินไป จะย้อนกลับมา เป็นสิ่งที่รบกวน ความมั่นใจของคุณ


5. เรียนรู้ และยอมรับความจริง
เป็นไปไม่ได้ ที่เราจะได้ยินแต่คำว่า ใช่เลยยย! ถูกต้อง! ใช่แล้ว อย่างนี้ล่ะ! ในทุกๆ สถานการณ์ หลายๆ ครั้ง สิ่งที่เราคาดหวัง กับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มักไม่ได้เป็นเรื่องเดียวกัน
การยอมรับความจริง และอยู่บนความเป็นจริง เปรียบเสมือนสุดยอดเคล็ดลับวิชา ที่ช่วยให้เราเข้าใจโลก เมื่อเราใช้ความจริง และความเข้าใจ เป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต ความกลัวในเรื่องต่างๆ ก็จะหมดไป


6. ศึกษาจาก คนรอบข้าง
ลองพิจารณา คนที่ใช้ชีวิตด้วยความมั่นใจ นี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่คุณจะได้ ศึกษาเรียนรู้เคล็ดลับในการขจัดความเขินอาย ได้อย่างง่ายๆ


7. คิดในทางบวก ช่วยได้
ใน เรื่องไม่ดี มักจะมีเรื่องดีๆ แฝงเอาไว้ด้วยเสมอ มิเช่นนั้น คงไม่มีคนที่ประสบความสำเร็จ จากการเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส! การคิดในทางบวก กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จะช่วยให้คุณมองข้ามข้อเสีย และเห็นเป้าหมายได้ชัดเจนกว่า และท้ายที่สุด การคิดในทางบวก จะช่วยเพิ่มความมั่นใจ จนทำให้ผู้คนรอบข้างอยากจะอยู่ใกล้ๆ คุณ

อาชีพไหนที่ใช่เรา มาทดสอบกันเลย

http://ezad.eduzones.com/testyourself/

“แชร์ลูกโซ่” เกิดง่ายรวยเร็ว

แม้จะมีการปราบปรามกันอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้ามือแชร์ลูกโซ่ แต่เรื่องก็เงียบหายไประยะหนึ่ง จากนั้นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ก็เกิดขึ้นมาอีก ด้วยรูปแบบของตัวสินค้าที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเจ้าของว่าจะอุปโลกน์อะไรมาเป็นสินค้า แต่เป้าหมายทุกอย่างยังเหมือนเดิมคือดูดเงินจากคนอื่นเข้ากระเป๋าตัวเอง

วิธีการของแชร์ลูกโซ่นั้นส่วนใหญ่มักมุ่งไปที่กลุ่มคนโลภ อยากได้ผลตอบแทนสูง ๆ โดยที่มีขั้นตอนในการลงทุนที่ไม่ยุ่งยาก โชว์ตัวเลขให้เห็นว่าได้ผลตอบแทนมากว่าเงินลงทุนหลายเท่าตัว หลักการแบบนี้สามารถกวาดคนได้ทุกสาขาอาชีพ ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่มีการศึกษาสูง

ดังนั้น การสร้างภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญ ตั้งแต่ชื่อบริษัทต้องฟังแล้วทันสมัยหรือเป็นสากล สถานที่ทำการต้องหรูหรา ห้องสัมมนาในโรงแรมหรู การแต่งกายของทีมงานไม่แตกต่างจากนักธุรกิจ ผูกไท ใส่สูท มีแบบฟอร์มพนักงาน

ที่สำคัญที่สุดคือ ตัวผู้บรรยายจะเป็นคนที่มีศิลปะในการพูด พูดทำให้คนคล้อยตามได้ พูดแล้วคนที่มาฟังต้องอยากเป็นสมาชิก แม้ไม่มีเงินก็ขวนขวายที่จะกู้ยืมคนอื่นมาเพื่อมาลงทุน

ในจังหวัดเชียงใหม่ยังมีอีกหลายรายที่ยังเปิดให้บริการอยู่ บางรายคือลูกทีมของแชร์ข้าวสารที่แยกตัวออกมาตั้งกิจการเอง เนื่องจากทราบถึงหลักการใหญ่ของแชร์ข้าวสารแล้วนำมาปรับใช้เป็นของตัวเอง

การเปิดบริษัทใหม่เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายเพียงแค่ไปขอจดทะเบียนในรูปบริษัทกับพาณิชย์จังหวัดหรือที่กระทรวงพาณิชย์ จากนั้นก็ดำเนินการได้เลย เพราะไม่มีหน่วยงานใดที่จะเข้ามาตรวจสอบในช่วงเริ่มแรก

เมื่อมีหลายเจ้าดังนั้นการกำหนดผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับจึงเป็นเรื่องสำคัญเพราะถือว่าเป็นตัวเลขที่จะเรียกลูกค้าได้ดี รวมถึงเรื่องของวันที่กำหนดให้มารับเงินปันผลแต่ละงวดก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน

ตัวอย่างที่เชียงใหม่นั้นกำหนดราคาสินค้าไว้ที่ 1,450 บาท หากไม่รับสินค้าคืนเงิน 800 บาท ซึ่งผู้ที่ต้องการเข้าไปลงทุนนั้นไม่ได้ต้องการสินค้าอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการเงินปันผลที่จะได้รับตามที่เจ้าของแชร์กำหนดไว้ เงินลงทุนเริ่มแรกจึงเท่ากับ 650 บาท จากนั้นอีก 25 วันรับเงินคืน 1,200 บาทและอีก 50 วันรับคืนอีก 800 บาท

สมมติให้กลุ่มแรกที่เข้าไปลงทุนมี 5 คน ลงทุนคนละ 650 บาทเท่ากับเจ้าของได้เงินไปทั้งสิ้น 3,250 บาท วันถัดมาเริ่มกลุ่มที่ 2 เข้ามาหากมีเข้ามาอีก 30 คนเจ้าของจะได้เงินไป 19,500 บาท จากนั้นมีกลุ่มที่ 3 เข้ามาอีก 500 คนจะมีเงินไหลไปที่เจ้าของอีก 325,000 บาท เอาเป็นว่าพอรับกลุ่มที่สามเสร็จครบกำหนด 25 วันพอดี เจ้าของแชร์จะมีเงินอยู่ในมือ 347,750 บาท แต่จ่ายให้กับกลุ่มแรกไปเพียง 6,000 บาท เหลือเงิน 341,750 บาท

จากนั้นก็รับลูกค้ากลุ่มอื่น ๆ อีกสมมติว่าได้ลูกค้ารอบหลังอีก 1,000 คน จะได้เงินเข้ามาอีก 650,000 บาท เจ้าของจะมีเงินในมือ 991,750 บาท หากกลุ่ม 2 ครบกำหนด 25 วันก็จ่ายเงินคืน 36,000 บาท และถ้าครบช่วง 50 วันที่จะต้องจ่ายเงินให้กับกลุ่มที่ 1 อีก 4,000 บาท เจ้ามือยังเหลือเงินอีก 951,750 บาท

หลักการของแชร์ลูกโซ่คือการเอาเงินค่าซื้อสินค้าของสมาชิกรายใหม่มาให้กับเจ้าของแชร์แล้วนำมาจ่ายต่อให้กับสมาชิกที่เข้ามาก่อนหน้าเท่านั้นเอง นั่นคือตัวธุรกิจนี้จะอยู่ได้ด้วยเงินของสมาชิกใหม่เท่านั้น หากมีสมาชิกใหม่เข้ามาน้อยวงจรการจ่ายเงินคืนให้กับสมาชิกก็จะสะดุดลง

การกำหนดช่วงเวลาเช่น 25 วัน และหลังจากจ่ายครั้งแรกอีก 50 วันนั้นถือเป็นการประมาณการว่าในช่วงเวลาประมาณ 75 วันนั้นน่าจะเพียงพอที่จะหาสมาชิกใหม่เข้ามาจ่ายเงินให้กับเจ้าของและสมาชิกรุ่นก่อนหน้านี้ได้

ในช่วงแรกที่ทุกคนตาโตกับตัวเลขของรายได้ เจ้าของแชร์อาจจะไม่มีเงื่อนไขให้สมาชิกเก่าต้องชักชวนสมาชิกใหม่เข้ามา แต่ถ้าประเมินแล้วว่ายอดสมาชิกใหม่เริ่มอืดก็อาจมีการให้ผลตอบแทนสำหรับสมาชิกเก่าที่สามารถแนะนำสมาชิกใหม่

ตัวเลขที่ยกตัวอย่างนั้นเป็นการสมมติให้ทุกคนลงทุนคนละ 1 หุ้นหรือ 650 บาท ตัวเลขสมาชิกที่เข้ามาแต่ละชุดอาจจะมาหรือน้อยกว่าตัวเลขที่ยกมาก็ได้ เพราะผู้ที่เข้ามาลงทุนจริงๆ แล้วไม่ได้เข้ามาซื้อแค่คนละ 1 หุ้นแน่นอน บางคนลงทุนครั้งแรกกันเป็นแสน ลองคิดดูให้ดีว่าเจ้าของแชร์จะถือครองเงินเป็นล้าน ๆ บาทภายในเวลาไม่กี่วัน

หากต้องการได้เงินที่มากกว่านี้เจ้าของแชร์ก็ต้องบริหารจัดการในเรื่องการหาสมาชิกใหม่ให้ดีพร้อมทั้งจัดสรรเงินให้กับสมาชิกในช่วงแรกๆ ให้ดีเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อจะได้ให้คนที่เป็นสมาชิกเอาไปบอกต่อ ถือเป็นการทำประชาสัมพันธ์ให้กับกิจการตัวเอง แม้ในบางช่วงยอดลูกค้าใหม่อาจจะไม่ตามเป้า ต้องควักเงิน(คนอื่น) จ่ายออกไปบ้างก็ตาม ตราบใดที่ยอดสมาชิกใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่องแล้วละก็โอกาสล้มก็จะช้าออกไป

เกมนี้เมื่อถึงเวลาหนึ่งที่ไม่มีรายใหม่เข้ามาถือว่าจบเกม แน่นอนว่าตัวเจ้าของจะทราบว่าสถานการณ์ในขณะนั้นควรจะสู้ต่อหรือเผ่น

ความโลภ : เงินต่อเงิน

หากพิจารณาเฉพาะผลตอบแทนเป็นใครก็อดใจไม่ไหว ลงทุนแค่ 650 บาท อีก 25 วันได้คืน 1,200 บาทและอีก 50 วันรับอีก 800 บาท เบ็ดเสร็จจ่าย 650 บาทได้เงินคืน 2,000 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 307.69% ดีกว่าฝากแบงก์ไม่รู้กี่เท่า แต่ถ้าพิจารณาจากความเป็นจริงแล้ว ผลตอบแทนที่มากขนาดนี้ภายในระยะเวลา 50 วันนั้นหากเป็นลงทุนในกิจการที่สุจริตคงไม่มีที่ไหนทำได้ ตรงนี้กลับไม่มีใครคิด

สินค้าที่นำมาใช้จะเป็นอะไรก็ได้ เช่น น้ำมัน ข้าวสาร บัตรเติมเงิน อัตราแลกเปลี่ยน อาจมีสินค้าตัวอย่างให้เห็น แต่จริงๆ แล้วตัวสินค้านั้นไม่มีความหมายเลย เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของแชร์ลูกโซ่คือการหาสมาชิกเข้ามาให้มากที่สุด โดยที่เจ้าของที่เปิดกิจการนี้จะเป็นผู้รับประโยชน์สูงสุด คนที่เข้ามาทีหลังมีหน้าที่จ่ายเงินให้กับเจ้าของและคนที่เข้ามาก่อนเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เมื่อไม่สามารถหาคนมาเพิ่มได้อีกเงินที่จะมาจ่ายให้กับคนที่เข้ามาก่อนก็ไม่มี สุดท้ายก็ปิดบริษัทหนีทุกราย

การเปิดบริษัทประเภทนี้ทำได้ง่าย เพียงแค่ขอจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ ก็เปิดดำเนินการได้ แม้ว่าบางบริษัทที่มีปัญหาจะตั้งขึ้นมาเมื่อ 19 กรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมาก็ตามเปิดได้ 2-3 เดือนก็ต้องปิดตัวลง ทุนจดทะเบียนที่ระบุไว้ว่ากี่ล้านบาทนั้นก็เป็นแค่ตัวเลขชำระจริงๆ อาจจะไม่ถึงพันหรือหมื่นบาทก็ได้

ที่สำคัญคือ ไม่มีหน่วยงานใดที่ทำหน้าที่ติดตามว่าเมื่อจัดตั้งบริษัทแล้วได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แม้บางแห่งจะระบุว่าเพื่อดำเนินธุรกิจขายตรง แต่เป็นขายตรงจริงๆ หรือเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ เพราะตัวแชร์ลูกโซ่แอบอิงกับหลักเกณฑ์ของการขายตรง แต่พฤติกรรมในการดำเนินธุรกิจนั้นมุ่งที่การหาเงินจากตัวสมาชิกเป็นหลัก แตกต่างกับขายตรงที่เน้นขายสินค้าหรือเพิ่มสมาชิกก็เพื่อให้ขายสินค้า

ในการดำเนินการตามกฎหมายนั้น ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ การเอาผิดจะต้องมีองค์ประกอบครบคือมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้คนเข้ามาเล่นเกิน 10 คน มีสัญญาว่าจะจ่ายผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสถาบันการเงิน และไม่มีการดำเนินการจริงหรือทำธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และจะต้องมีผู้เสียหาย

ดังนั้น กว่าจะมีผู้เสียหายนั่นคือเจ้าของกิจการนั้นหอบเงินหนีไปแล้ว แม้ว่าระหว่างที่ดำเนินการอยู่ก็เข้าไปทำอะไรไม่ได้ เพราะผู้ที่เข้ามาร่วมลงทุนกำลังเพลิดเพลินกับผลตอบแทนที่ได้รับ หากเข้าไปก็จะกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้ธุรกิจเขาเจ๊ง ดังนั้นแชร์ลูกโซ่นี้จึงไม่ตายไปจากเมืองไทย เพียงแต่จะบูมมากหรือน้อยในช่วงใดเท่านั้น

ที่ผ่านมาทำได้เพียงแค่เตือนเท่านั้น ส่วนคนที่เข้าไปลงทุนก็มีทั้งกลุ่มที่ไม่รู้และกลุ่มที่รู้ โดยเฉพาะกลุ่มที่รู้นั้นก็หวังจะเข้าไปเป็นสมาชิกในลำดับแรกๆ เพื่อให้กลุ่มหลังๆ เข้ามาสร้างรายได้ให้กับตัวเอง กว่ากิจการจะปิดพวกเขาก็ลอยตัว

“คาถาเสกเงิน” ฮอลลีวูดอาย

นอกจากนี้ยังมีการฉ้อโกงผู้คนที่หลากหลายออกไป ซับซ้อนมากขึ้น น่าเชื่อถือมากขึ้น เช่นการส่งจดหมายไปที่บ้านหรือ SMS เข้าโทรศัพท์มือถือว่าท่านเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลใหญ่ แต่ต้องโอนเงินเพื่อชำระค่าธรรมเนียมก่อน หรือการเชิญชวนให้เข้ามาทำงานบนเว็บไซต์ ซึ่งมีทั้งจริงและเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่

บางรายก็ใช้รูปแบบของไสยศาสตร์เข้ามา เช่น ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีผู้เสียหายไปไม่น้อยเช่นกัน โดยจัดรูปแบบเป็นพิธีกรรม “คาถาเรียกเงิน”

ผู้เสียหายรายหนึ่งเล่าให้ฟังว่า มีคนนอกพื้นที่กลุ่มหนึ่งเข้ามาติดต่อกับคนท้องที่ เพื่อชักชวนชาวบ้านบริเวณนั้นให้มาพิสูจน์พิธีกรรมดังกล่าว โดยสถานที่ทำพิธีกรรมนั้นเป็นบ้านของชาวบ้านรายหนึ่งที่ตั้งห่างออกไป พื้นที่รอบตัวบ้านเป็นสวนยาง ไม่มีบ้านคนอื่นบริเวณใกล้เคียง มีการจัดตั้งโต๊ะหมู่บูชาเหมือนพิธีกรรมทั่วไป มีคนแต่งกายคล้ายพราหมณ์มาเป็นคนสวด

“ทุกอย่างเหมือนในหนัง มีลมพัดแรง ฟ้าร้อง เมื่อสวดไปสักพักก็มีเงินปลิวลงมา คนที่ไปก็งงว่าเงินหล่นมาจากไหน วันนั้นเงินที่ปลิวลงมาคนที่ไปชวนมาก็มอบให้กลับบ้านได้ 500 บาทบ้าง 2,000 บาทบ้าง”

พวกเขายังบอกอีกว่าจะทำพิธีอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าใครจะเข้ามาร่วมพิธีจะต้องเสียค่าเข้าในพิธี 8,000 บาท แต่เขารับประกันว่าจะต้องได้เงินกลับคืนมาไม่น้อยกว่า 2 เท่า และต้องลงชื่อเสียจ่ายเงินไว้ก่อนถึงวันจริง

คนที่ได้เงินในวันนั้นก็กลายเป็นนักประชาสัมพันธ์ชั้นดี บอกข่าวนี้ให้กับคนอื่น ๆ มีคนจำนวนไม่น้อยกว่า 30 คนที่แสดงความสนใจพร้อมทั้งจ่ายเงิน 8,000 บาทต่อหุ้นเพื่อเข้าร่วมพิธีหรือจะจ่ายมากกว่า 8,000 บาทก็ได้ เมื่อถึงวันจริงมีใครเห็นคนกลุ่มนั้น แม้กระทั่งเจ้าของบ้านซึ่งเป็นคนที่ชาวบ้านรู้จัก เหลือไว้แต่ตัวบ้านเท่านั้น

ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของอุปนิสัยของคนภาคใต้ หากมีการแจ้งความก็เท่ากับเป็นการประจานตัวเองว่า “โง่” กลุ่มผู้หลอกลวงจึงลอยตัวไปพร้อมเงินหลายแสนบาท

กลุ่มงานป้องปรามเงินนอกระบบกล่าวเพิ่มเติมว่า ตราบในที่สภาพเศรษฐกิจยังเป็นอย่างนี้เหล่ามิจฉาชีพก็ยังคิดช่องทางฉ้อโกงใหม่ๆ ขึ้นมาได้ตลอดเวลา รูปแบบอาจเปลี่ยนไป มีความแนบเนียนมากขึ้น ขั้นตอนซับซ้อนขึ้น ดังนั้นประชาชนควรจะต้องไตร่ตรองให้ดีถึงเรื่องผลตอบแทนที่สูงกว่าความเป็นจริง หรือต้องระมัดระวังในเรื่องการใช้จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเอทีเอ็ม

แชร์ลูกโซ่กวาดกลุ่มล่าง

นั่นคือภัยที่กลุ่มมนุษย์เงินเดือนต้องเผชิญมา ที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีและหลักการทางด้านการเงินใช้เพื่อหลอกล่อเอาเงินจากบัตรเครดิตหรือจากบัตรเอทีเอ็มไปจากตัวพวกเขาโดยที่ไม่รู้ตัว

เมื่อมนุษย์เงินเดือนที่มีบัตรเครดิตใช้ แม้จะมีการศึกษาสูง ฉลาดรอบรู้ ไม่น่าจะถูกหลอกง่ายๆ ยังโดนมาแล้ว แล้วประชาชนทั่วไปจะเหลืออะไร เพราะในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการแจ้งความคดีฉ้อโกงทั้งที่จังหวัดเชียงใหม่และภูเก็ต จากกรณี “แชร์ข้าวสาร” ไม่เพียงแค่นั้นยังมีคดีหลอกลวงชาวบ้านที่จังหวัดปัตตานีอีกราย

ใน 2 จังหวัดแรกเป็นแชร์ข้าวสาร บริษัทที่เปิดดำเนินการเป็นบริษัทเดียวกันคือบริษัทร่วมทุนค้าปลีก จำกัด ส่วนที่ปัตตานีเป็นอีกบริษัท เอส.พี.ไอ 2 บี จำกัด ขายตรงผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และสินค้าอุปโภคบริโภค นี่เป็นเพียงแค่ 3 บริษัทที่ประชาชนที่ได้รับความเสียหายดำเนินการตามกฎหมาย แต่ยังมีอีกหลายบริษัทที่ยังเปิดดำเนินการอยู่หรืออาจปิดกิจการไปแล้วแต่ยังไม่เป็นคดีความ

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายงานว่า ที่เชียงใหม่ยังมีอีกหลายรายที่เปิดบริการอยู่นอกจากร่วมทุนค้าปลีกที่ปิดไปแล้วตอนนี้บริษัทสมคิดธุรกิจก็ปิดไปอีกราย

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า “จริงๆ แล้วการหลอกลวงประชาชนให้เข้าไปเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่นั้นมีมายาวนาน เจ้าของปิดกิจการหนีก็หลายราย แต่คนไทยก็ไม่เข็ด ประกอบกับได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของตัวสินค้าและสร้างแรงจูงใจในเรื่องผลตอบแทนภายใต้ระยะเวลาสั้นๆ แค่นี้ก็เรียกคนเข้ามาได้แล้ว”

ยิ่งสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในเวลานี้ น้ำมันแพง สินค้าต่างๆ แพง ค่าครองชีพสูงขึ้น ยิ่งเป็นแรงหนุนชั้นดีที่จะดึงคนให้เข้ามาสู่วงจรของแชร์ลูกโซ่ได้ง่ายขึ้น

ระวัง! สูญเงินจากตู้เอทีเอ็ม

นอกจากการปลอมบัตรเครดิตแล้วสิ่งที่เป็นภัยที่บุคคลทั่วไปไม่ควรจะมองข้ามก็คือ การใช้บริการตามตู้เอทีเอ็มทั่วไป เพราะปัจจุบันปรากฏว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพคิดรูปแบบการโกงขึ้นมาใหม่โดยใช้เครื่องมือซึ่งเป็นพลาสติกสวมครอบไปในช่องเสียบบัตรเพื่อดูรหัสบัตรเอทีเอ็ม หรือบางกลุ่มก็ใช้พลาสติกครอบแป้นกดรหัสเพื่อดูรหัสส่วนตัว เมื่อมีผู้เข้าไปใช้บริการแล้วจะไม่มีใครสังเกตแต่เมื่อกดรหัสส่วนตัวไปแล้วเงินจะไม่ออกก็จะไม่มีใครสนใจว่าสาเหตุเกิดจากอะไร

“เรื่องนี้เป็นอันตรายมาก พวกมิจฉาชีพมีวิธีการที่เอารหัสส่วนตัวแล้วนำไปปลอมบัตรจากนั้นก็จะสุ่มเสี่ยงกดเงินออกไป กรณีนี้มีผู้เสียหายหลายร้อยคนเข้ามาร้องเรียนแต่ท้ายสุดก็ตามจับกุมได้อย่างลำบาก”

ผู้บังคับการ ปศท.อธิบายอีกว่า นอกจากนี้ มีข้อควรระวังสำหรับผู้ใช้บริการตู้เอทีเอ็มทุกคนอีกประการหนึ่ง คือ อย่าได้ประมาท นั่นคือเมื่อคุณกดเอทีเอ็มอยู่ แล้วมีคนอยู่ด้านหลังให้ระวังไว้ เพราะพวกนี้อาจเป็นแก๊งมิจฉาชีพที่แฝงตัวมา ซึ่งพวกนี้จะรู้เทคนิคในการจำรหัสจากการกดปุ่มหน้าจอ

ถ้าสังเกตเวลากดเอทีเอ็มจะมีเสียงซึ่งถ้าใครหูดีๆ จะจำได้ว่ากดเลขอะไรไปบ้างใน 4 ตัว เพราะส่วนใหญ่แล้วร้อยละ 70% ของผู้ที่กดเงินจากตู้เอทีเอ็ม จะทิ้ง Slip เงินลงขยะ มันก็กลายเป็นประโยชน์ของผู้ที่คิดชั่วร้าย คือเขาเอา Slip นั้นมาใช้ประโยชน์จากเงินในบัญชีของคุณเอง

“สลิปมีเลขที่บัญชีสิบตัวปรากฏอยู่ ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีการโอนเงินทางโทรศัพท์ โดยมีผู้ไม่ประสงค์ดีนี้จะโทร.ไปยังธนาคาร เพื่อโอนเงินผ่านทางโทรศัพท์ตามหมายเลขแล้วแต่ธนาคาร เขาก็จะได้จาก Slip ของผู้ที่ทิ้งไว้แล้ว เมื่อกดเลขบัญชีธนาคารเสร็จจะมีการให้ใส่รหัสประจำตัวสี่ตัว เมื่อกดเงินนั้นเขาก็จะจำไว้แล้วว่าหมายเลขอะไร จากนั้นก็กดหมายเลขนั้นลงไป เท่านี้เขาก็โอนเงินเข้าบัญชีของเขาได้ตามที่เขาต้องการ ข้อแตกต่างคือ ถ้าโอนเงินทางโทรศัพท์จะสามารถโอนเงินได้สูงสุด 5 แสนบาทต่อครั้ง ต่างจากเอทีเอ็มมาก ดังนั้น ถ้าใครมีเงินในบัญชีมากๆ ให้ระวังเอาไว้ด้วย หรือเขาอาจไม่เอาไปมากๆ ถ้าเขาเอาไปประมาณครั้งละห้าร้อย พันบาท ดังนั้นเมื่อกดเงินแล้วก็ให้เก็บสลิปไว้กับตัวจะดีที่สุด”

กลโกงของบัตรเครดิต

สำหรับกลุ่มคนทำงานในเมืองส่วนใหญ่แล้วแก๊งมิจฉาชีพจะเลือกฉกทรัพย์จากเหยื่อกลุ่มนี้ด้วยการดูดเงินออกมาจากบัตรเครดิตและบัตรเอทีเอ็ม ด้วยวิธีการที่แยบยลและกรรมวิธีอันสุดไฮเทคแม้แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติถึง กับกุมขมับเลยทีเดียว

พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วาณิชบุตร ผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.) บอกว่า ต้องยอมรับว่าเหล่ามิจฉาชีพในปัจจุบันมีรูปแบบการทำมาหากินที่แยบยลมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในส่วนที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือ ซึ่งเท่าที่ ปศท.ได้เฝ้าติดตามกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้พบว่ามีรูปแบบที่แยบคายมากขึ้นโดยเฉพาะกลโกงการใช้บัตรเครดิต และบัตรเอทีเอ็ม

สำหรับกลโกงการใช้บัตรเครดิตจะมี 2 รูปแบบ คือ รูปแบบที่หนึ่งกลุ่มมิจฉาชีพจะใช้ “นกต่อ” ที่เป็นพนักงานร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน หรือร้านค้าให้นำข้อมูลของลูกค้าไปให้ โดยจะใช้วิธีการรูดบัตรเครดิตสองครั้ง ครั้งแรกเป็นการจ่ายเงินของลูกค้าตามปกติ ครั้งที่สองจะดูดข้อมูลหรือสกิมเมอร์ ของลูกค้าเก็บไว้เพื่อนำไปใส่กับบัตรเครดิตปลอมที่มีอยู่จากนั้นก็จะนำไปรูดสินค้า โดยจะเน้นสินค้าประเภทจิวเวลรี ทองคำ โทรศัพท์มือถือ ซึ่งการนำบัตรปลอมไปใช้จ่ายนั้นส่วนใหญ่จะใช้ “มือปืนรับจ้าง” เป็นตัวหลักในการดำเนินการโดยจะแบ่งส่วนแบ่งให้ร้อยละ 20-25 เพราะถ้าหากเกิดพลาดถูกจับเรื่องก็จะจบอยู่ที่มือปืนรับจ้างเท่านั้น

รูปแบบที่ 2 เป็นรูปแบบที่อันตรายมาก เพราะกลุ่มมิจฉาชีพจะเล็งจับกลุ่มชาวต่างประเทศที่เดินทางมาเมืองไทย นั่นคือการติดต่อกับ “นกต่อ” ตามโรงแรมระดับ 5 ดาว เพื่อดูดเอาข้อมูลการใช้บัตร ก่อนจะขอสำเนาหนังสือเดินทาง และสลิปการใช้บัตรเครดิต เพื่อดูลายเซ็น จากนั้นทำบัตรปลอมขึ้นพร้อมลายเซ็นที่เหมือนกับเจ้าของเดิมและให้มือปืนรับจ้างไปรูดสินค้า หรือบางรายก็นำบัตรเครดิตปลอมไปขายตามท้องตลาด ซึ่งราคาบัตรเครดิตปลอมจะขึ้นอยู่กับคุณภาพบัตรว่า มีความใกล้เคียงกับของจริงแค่ไหน โดยบัตรปลอมที่เหมือนมากๆ เรียกว่า “บัตรปลอมโซนยุโรป” จะมีราคากว่า 1 แสนบาทต่อใบ แต่มีวงเงินรูดซื้อสินค้าได้เป็นหลักล้าน ส่วนราคาที่ถูกที่สุดเท่าที่พบอยู่ในประเทศไทย สนนราคาประมาณ 6,000 บาทต่อใบ แต่จะสามารถรูดซื้อสินค้าได้เท่าไรก็ต้องไป “วัดดวง” กันเอาเอง

“ที่ผ่านมามีการจับกุมผู้กระทำผิดได้ยากมากสาเหตุ เพราะเป็นการกระทำของแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งไม่ได้ลงมือในประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นการเฉพาะ แต่จะลงมือเวียนในหลายประเทศ เช่น ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รวมทั้งในยุโรป และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดในเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับคนร้าย เช่น ทะเบียนราษฎร หมายเลขบัตรประชาชน ทะเบียนรถยนต์ ฯลฯ เพราะคนร้ายไม่ใช่คนไทย และไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งแก๊งเหล่านี้น่าจะมีมานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยในระยะแรกจะใช้วิธีการง่ายๆ คือ ขโมยบัตรเครดิตแล้วนำบัตรมาปลอมแปลงลายเซ็นต์

ต่อมาก็พัฒนาการขโมยข้อมูลบัตรเครดิต โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “สกิมเมอร์” เพื่อก๊อบปี้ข้อมูล จากนั้นก็จะทำบัตรและปลอมลายเซ็นขึ้น วิธีการนี้จะมีพนักงานของร้านค้าบางแห่งรู้เห็นเป็นใจด้วย

สำหรับวิธีการล่าสุดเท่าที่พบคนร้ายนำมาใช้ คือ การนำเอาอุปกรณ์มาดูดข้อมูลจากชุมสายโทรศัพท์ โดยจะต้องตรวจสอบดูว่า มีข้อมูลรหัสบัตรเครดิตผ่านเข้ามาในชุมสายนั้นๆ หรือไม่ ซึ่งวิธีการนี้ต้องอาศัยช่างเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญสูงเพื่อตรวจสอบดูว่ามีข้อมูลรหัสบัตรเครดิตไหลเข้ามาในชุมสายโทรศัพท์หรือไม่ จากนั้นก็จะทำการ “แทป” เพื่อดักจับรหัสบัตรเครดิตที่จะมาพร้อมกับ “ซีเคียวริตี โค้ด” (รหัสลับ ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยของธนาคาร)

ข่าวดีตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน ๒๕๕๒ สามารถรับสินค้าและแจงยอดสารปรับปรุงดิน

ข่าวดีตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน ๒๕๕๒

นักธุรกิจอิสระทุกท่าน

สามารถรับสินค้าและแจงยอดสารปรับปรุงดิน

ได้ที่สำนักงานใหญ่และที่คลังสินค้าของบริษัท

ได้แก่ คลังสุพรรณบุรี คลังโคราช คลังขอนแก่น

คลังพิษณุโลก คลังศรีสะเกษ คลังสุราษฎร์ธานี


ราคาในการแจงยอด มาจากราคาสารปรับปรุงดิน

หักค่าขนส่ง เท่ากับ(12,500-1,200 จะเหลือ 11,300/ตัน)

ส่วน คลังลำพูน คลังหาดใหญ่

ราคาในการแจงยอด มาจากราคาสารปรับปรุงดิน หักค่าขนส่ง หักค่าบริหารเท่ากับ (12,500-1,200-500 จะเหลือ 10,800/ตัน)

(สำหรับนักธุรกิจอิสระที่ไปรับสารปรับปรุงดินเองต้องชำระค่าบริหารเพิ่มตันละ 500 บาทให้คลังลำพูนและคลังหาดใหญ่)
หมายเหตุ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโดยที่ไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

แผนการตลาด แผนรายได้ปูแดง (นำเสนอแบบสไลด์ Power Point)

คลิก www.poodang.com/plan/plan2.ppt

ทำธุรกิจปูแดงอย่างไร How to start เริ่มจาก

คลิกที่นี่ www.poodang.com/howto/howtostart.pdf

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ถ้าคุณเลือกได้ คุณอยากเป็นคนหาบน้ำหรือเจ้าของท่อส่งน้ำ

VDO โอกาศทางธุรกิจในโลกปัจจุบัน



ลดความฝันของคุณลง ?

คุณรู้ไหม... ทำไม? คนเหล่านี้ถึงประสบความสำเร็จในชีวิต





โอกาสทางธุรกิจ
ถ้าคุณ... กำลังคิดจะสร้างธุรกิจส่วนตัว
ถ้าคุณ... กำลังคิดจะทำธุรกิจแฟรนไชส์
ถ้าคุณ... กำลังมองหาแนวคิดที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเอง
ถ้าคุณ... กำลังมองหาโอกาสดีๆให้กับชีวิต...ในแนวคิดที่แตกต่าง
ไม่ว่าคุณจะมีอายุเท่าไร? ทำงานในสาขาอาชีพใด?
วุฒิการศึกษาของคุณจะเป็นอย่างไร? อายุคุณจะมากน้อยขนาดไหน?

คุณจะประสบความล้มเหลวมามากน้อยเพียงใด มีประสบการณ์หรือไม่มีประสบการณ์ก็ตามที
ขอเพียงแค่... คุณมีความฝัน... แรงบันดาลใจ... และแนวความคิดที่ถูกทาง
ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตนเองอย่างจริงจัง! สู่การสร้างธุรกิจของตนเอง
คุณก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต และสร้างธุรกิจของคุณเองได้
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวคุณ และการเรียนรู้อันชาญฉลาดของคุณเอง
คุณรู้ไหม... ทำไม? คนเหล่านี้ถึงประสบความสำเร็จในชีวิต

ชายผู้นี้... สมัครเข้ารับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกรัฐสภาแห่ง "อิลลินอยด์" เขาประสบความปราชัยอย่างย่อยยับ เขาหันไปยึดอาชีพการค้าขาย แต่ก็ล้มเหลว จะต้องทำงานชำระหนี้สิน ที่หุ้นส่วนได้ก่อไว้เป็นเวลาถึง 17 ปี เมื่อเขารักกับผู้หญิงคนหนึ่ง หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ทันจะแต่งงานเธอก็เสียชีวิตลง เขาได้หวนกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง พอสมัครรับเลือกตั้งก็พ่ายแพ้อีก เขาล้มเหลว... อยู่ตลอดเวลา จนแทบจะตั้งตัวไม่ติดเลย แต่เขาก็สามารถใช้... "ความพยายาม" เผชิญกับอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงได้ ไม่ว่าอะไร จะเกิดขึ้นเขาก็ไม่สิ้นความพยายาม คุณรู้ไหมว่า... เขาคนนั้นคือใคร?
ชื่อของเขาก็คือ... "อับราฮัม ลินคอล์น"

ชายผู้นี้... กำพร้าพ่อตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เรียนหนังสือได้ถึงอายุ 16 ปี ก็ต้องเลิกเรียนกลางคันเพราะความยากจน... ตอนอายุ 17 ปี เขาแสดงความสามารถในการตกงานถึง 4 ครั้ง เขาล้มเหลวมาตลอด ตอนอายุ 18 ปี เขาแต่งงานมีครอบครัว ภรรยาก็หอบเอาลูกสาวหนี เพราะ...ความเป็นคนไม่เอาไหนของเขา เขาเปลี่ยนงานมานับไม่ถ้วน สมัครเข้าเป็นทหารก็ถูกไล่ออก จนในที่สุดก็ต้องไปทำงานในร้านกาแฟเล็กๆ แห่งหนึ่ง ทำอาหาร และล้างจานอยู่ที่นั่น จนกระทั่งเกษียณเมื่อตอนอายุ 65 ปี แล้วเขาก็..... ล้มเหลวอีกครั้ง เพราะ... เงินที่เกษียณไม่พอจะดูแลตัวเอง และครอบครัวได้ เขาคิดที่จะ "ฆ่าตัวตาย" จนในที่สุดเขาเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า... เขายังไม่ได้ทำอะไรจริงจังให้กับชีวิตตลอด 65 ปีที่ผ่านมา เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาไปกู้เงินธนาคารได้เพียง 87 เหรียญ ลงทุนซื้อไก่ และกล่องเปล่ากลับมาที่บ้าน เพื่อที่จะทอดขายตามสูตรของเขา แล้วชายชราที่ขายไก่ทอดอายุ 65ปี ที่ใครบางคนก็คิดว่า เหมือนไม้ใกล้ฝั่งคนนี้ ก็กลายมาเป็น...
ผู้พันแซนเดอร์ส ราชาผู้เป็นที่รักของอาณาจักร Kentucky Fried Chicken (KFC)

ชายคนนี้... หลงใหลในคอมพิวเตอร์อย่างมาก เขาชอบหมกตัวกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ถูกเพื่อนมองว่า..... "สกปรก-บ้าคอมพิวเตอร์" เขา... เคยเสนอซอฟแวร์ระบบให้กับ แอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์ แต่ก็... ถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดี ปัจจุบันเขาคือ... ผู้ให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนกับ แอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์ เขาเคยถูก ไอบีเอ็ม มองว่า....... "แค่เด็ก" ปัจจุบันเป็นผู้นำบริษัทซอฟแวร์ ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก ชายคนนี้คือ... วิลเลี่ยม เฮนรี่ เกตส์ ที่สาม หรือที่รู้จักกันในนาม "บิลล์ เกตส์" ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกผู้ถือครองสินทรัพย์กว่า 46,000 ล้านเหรียญ

ชื่อของ... มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ดูจะน่าสนใจมากขึ้นอีก เมื่อนิตยสาร Forbes จัดอันดับให้... ซัคเกอร์เบิร์ก เป็นเศรษฐีที่รวยอันดับที่ 785 ของโลก หลายคนอยากรู้ว่า... เด็กหนุ่มผู้นี้เป็นใคร มาจากไหน และเส้นทางรวยล้นฟ้า ด้วยวัยเพียง 23 ปี เกิดขึ้นได้อย่างไร ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมออนไลน์ได้ระบุเอาไว้ว่า..... Mark Elliot Zuckerberg เกิดวันที่ 14 พฤษภาคม 1984 ปัจจุบันอายุ 25 ปี เติบโตในย่าน Dobbs Ferry รัฐนิวยอร์ก สหรัฐฯ เขาเริ่มเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นเข้าศึกษาระดับมัธยมที่ Ardsley High School และจบมัธยมปลายที่ Phillips Exeter Academy ในปี 2002 ซัคเกอร์เบิร์ก เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด หยุดเรียนไปกลางคัน และกลับมาเรียนอีกครั้งในปี 2006 เพราะแนวคิดที่แตกต่างจากเด็กทั่วๆ ไป เด็กหนุ่มคนนี้ถึงได้กลายมาเป็นคนรวยอันดับที่ 785 ของโลก...

คุณเห็นไหมว่า... ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบันเพียงแค่แนวคิดที่แตกต่าง ยังสามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นได้เสมอ มันไม่ได้เกิดจากความรู้สูงๆ ที่คุณได้ร่ำเรียนมาจากมหาวิทยาลัยเป็นองค์ประกอบหลักเลย แล้วคุณหละ... พร้อมที่จะเรียนรู้ และเปลี่ยนแปลงหรือยัง?...

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การตัดสินใจทางธุรกิจ

ไม่ว่าคุณจะผ่านร้อนผ่านหนาว ในการทำงานมากเท่าใด? หรือ ว่าจะเป็นเพียงแค่การต้องการหารายได้เสริม ทำงานที่บ้านไม่ว่าจะอย่างไร ….คุณจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลสำคัญๆเพื่อใช้ในการตัดสินใจในธุรกิจของคุณ โดยอาจตั้งคำถามต่างๆเหล่านี้

--------------------------------------------------------------------------------

มีธุรกิจใดที่คุณสามารถทำได้โดยไม่กระทบเวลางานประจำ ? มีช่องทางธุรกิจอื่นใด ที่น่าสนใจกว่านี้? ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย มีความเสี่ยงมากน้อยเเค่ไหนที่จะนำเงินจำนวนมากไปลงทุน คุณได้ค้นพบว่า รูปแบบธุรกิจแบบเดิมๆนั้น ในการเริ่มต้น ต้องใช้เงินทุนมาก ใช้เวลานานมาก รวมทั้งใช้เวลาในการฝึกฝนเรียนรู้และที่ สำคัญที่สุด คือ ความเสี่ยงสูง

ธุรกิจเครือข่าย เหมาะแก่การลงแรงลงเวลาหรือไม่ ในการที่จะทำหรือเริ่มทำธุรกิจนี้หรือคุณควรเดินหน้าทำต่อไป? บริษัทธุรกิจเครือข่ายนี้มีอยู่ทั่วไปมี บริษัทไหนบ้างดีที่สุดและเหมาะกับเราที่สุด? ผู้แนะนำของเราควรเป็นแบบไหน อะไรคือสิ่งที่เราควรจะได้รับจากพวกเขา? และในทางกลับกัน ผู้แนะนำคาดหวังอะไรจากเรา(สมาชิก)บ้าง? ปัจจุบันนี้บริษัท ผู้นำธุรกิจ MLM ควรจะเป็นเช่นไร?

ถ้าคุณกำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณา ตัดสินใจ ในการเลือกทำธุรกิจส่วนตัว หรือโอกาสทางธุรกิจ ลิงค์ด้านล่างต่อไปนี้จะ ช่วยเป็นแนวทางให้คุณพิจารณาในการตัดสินใจ

"สิ่งที่ควรคิดพิจารณาเกี่ยวกับNetwork Marketing"

"การตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจเครือข่ายนี้ เหมาะสมกับคุณเเล้วหรือ?"

"อะไรคือสิ่งที่คุณควรคาดหวังจากผู้เเนะนำธุรกิจ หรือ Sponsor ของคุณ?"

"อะไรคือสิ่งที่...ที่ปรึกษาธุรกิจของคุณ คาดหวังจากคุณ?"

"วิธีการพิจารณาเลือกเข้าร่วมกับบริษัทธุรกิจเครือข่าย"

"ตัวอย่างวิเคราะห์บริษัทธุรกิจเครือข่ายที่น่าสนใจ"


นอกจากนี้ ผมขอแนะนำให้คุณอ่าน "สิ่งที่ควรคิดพิจารณาเกี่ยวกับNetwork Marketing" ก่อนที่คุณจะยอมรับหรือ ปฏิเสธ ในส่วนตัวผมแล้วผมมีความมั่นใจว่า ธุรกิจเครือข่าย เป็นเหมือนคลื่นลูกใหม่ของโอกาสทางธุรกิจในอนาคต

ในนิตยสาร Fortune เรียก ธุรกิจขายตรงว่า “the best kept secret in business world”และ ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ธุรกิจเครือข่ายนี้ คือ การรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอย นั้นเอง

ผู้คนจำนวนมาก เบื่อหน่ายกับสนามแข่งหนู เกิดความกังวล, การถูกลอยแพ เลิกจ้างงาน จากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ตกต่ำ พวกเขาจำนวนมาก หันมา ให้ความสนใจ มาทำ ธุรกิจเครือข่าย หรือ work at home, หารายได้เสริม, อาชีพเสริมกัน เป็นจำนวนมากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

สำนักข่าว CNN รายงานว่า ในสหรัฐ มีนักธุรกิจอิสระ หน้าใหม่ เกิดขึ้นทุกๆ 11 วินาที ธุรกิจทำงานที่บ้านนี้ เป็นคลื่นลูกใหม่ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และ ธุรกิจเครือข่ายนั้นเป็นหนึ่งในโอกาสทางธุรกิจอิสระ ที่ร้อนแรงที่สุดในขณะนี้

"ตัวอย่างวิเคราะห์ธุรกิจเครือข่ายที่น่าสนใจ" คลิ๊ก link ด้านล่าง
-บริษัทชั้นนำ
-บริษัทน้องใหม่
-บริษัทการบริการโฮสติ้ง(website)
-ธุรกิจเครือข่ายสายพันธ์ใหม่ (จริงหรือลวง)

ใครคือปีศาจสูบเงินจากบัญชีของคุณทั้งในปัจจุบันและอนาคต?

ปีศาจตัวแรก ตัวเเสบที่สุด การเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจ (อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ ฯ)
ปีศาจตัวที่2 ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ เพราะเราจะมีอายุยืนยาวขึ้น
ปีศาจตัวที่3 ภาระที่เพิ่มขึ้นในการดูแลผู้สูงอายุ
ปีศาจตัวที่4 ปัญหาสุขภาพ และ ค่ารักษาพยาบาล
ปีศาจตัวที่5 ความเสี่ยงจากหน้าที่การงาน
ปีศาจตัวที่ 6 ความเสี่ยงจากการออมเงินในธนาคาร

ปีศาจตัวแรก ตัวเเสบที่สุด การเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจ (อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ ฯ)ในปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับนั้น ต่ำกว่า อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งหมายความว่า มูลค่าเงินฝากที่คุณเก็บออมไว้ หรือ แม้ กระทั้งการปรับเงินเดือนประจำปี หรือรายได้ขั้นต่ำนั้น มีมูลค่าเพิ่มขึ้นไม่ทันกับราคาสินค้าที่แพงขึ้น ดังนั้นความมั่งคั่งของคุณกำลังถูกปีศาจตัวนี้ ค่อยๆดูดกินเงินในบัญชีไปโดยไม่รู้สึกตัว จากสถิติของประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2508-2546 มูลค่าของเงินของคุณ จากจำนวน 100 จะเป็นอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป

จากกราฟ คุณจะเห็นว่าถ้าหากคุณเก็บเงินก่อนแรกเมื่อตอนเรียนจบ เมื่ออายุ 22 ปี จำนวน 100 บาทรวมดอกเบี้ยที่คุณได้จากการออม เมื่อเวลาผ่านไป 40 ปี เงินของคุณจะมีมูลค่าเหลือไม่ถึง 20 บาทเท่านั้น เพราะว่าสินค้าทุกประเภทที่จำเป็นต่อการครองชีพ ได้แพงขึ้นจากเดิมไม่น้อยกว่า 5 เท่าตัว ซึ่งจากสถิตินี้ ยังไม่รวมถึง วิกฤตพลังงาน น้ำมันแพง และ สินค้าทุกอย่างปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เงินออมที่ต้องการเพื่ออยู่อย่างพอเพียงดังนั้นถ้าคุณไม่เห็นว่าความรู้ทางการเงินมีความจำเป็นอะไร เพียงแค่ หาเงินมาพอเหลือเก็บก็เอาเงินไปฝากธนาคาร กินดอก ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าคุณคิดอย่างนั้นอยู่อีกไม่นานคุณคงหนีไม่พ้นต้องกลายเป็น “กบแป๊ะซ่ะ” แน่ๆๆ ถ้าพูดถึงดอกเบี้ยเงินฝากใน ปัจจุบันนี้ ด้วยแล้ว ทุกคนคงส่ายหน้า ดอกเบี้ยออมทรัพย์ปัจจุบัน ที่ลดลงมาเหลือ 0.75% อัตราเงินฝากประจำ 2.25% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 3.5-4% เจอเข้าอีแบบนี้ ก็ขาดทุนเสียแล้ว
--------------------------------------------------------------------------------
ปีศาจตัวที่สอง ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ เพราะเราจะมีอายุยืนยาวขึ้น
โอ้วช่างเหมือนจะเป็นข่าวดีที่ปัจจุบันคนเรามีอายุยื่นยาวขึ้น จากตัวเลขการประมาณของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติและสังคมแห่งประเทศไทย แสดงให้เห็นว่า ในอีก 20 ปี ข้างหน้า อายุขัยของชายไทยจะมีอายุ 75 ปี และ หญิงไทย 80 ปี นั่นหมายความว่า คุณจะต้องมีชีวิตหลังเกษียณยาวนานถึง 15-20 ปี แล้วคุณจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ถ้าไม่มีการวางแผนการเงินเพื่อใช้ชีวิตหลังเกษียณ

--------------------------------------------------------------------------------
ปีศาจตัวที่สาม ภาระที่เพิ่มขึ้นในการดูแลผู้สูงอายุ
นอกจากแนวโน้มของอายุขัยที่สูงขึ้นแล้ว ขนาดครอบครัวของสังคมไทยในปัจจุบันยังลดขนาดลงอีกด้วยขนาดของครอบครัวลดลง แล้วมันเกี่ยว กันตรงไหนหล่ะ?? เกี่ยวกันเต็มๆ

คนสมัยรุ่นปู่ย่าตาทวด นั้น ยังสามารถอาศัยลูกหลานจุนเจือได้ เพราะสังคมไทยแต่เดิมนั้นอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่ แต่ในระยะ สิบกว่าปีที่ผ่านมา แนวโน้มขนาดครอบครัวไทยมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ แต่ในขณะที่ สวัสดิการที่คนชราจะได้รับจากรัฐบาลนั้น หวังพึ่งไม่ได้ อย่างที่เราๆรู้กันดีอยู่ การที่แต่ละครอบครัวมีลูกน้อยลงนั้น และการแยกออกไปประกอบอาชีพต่างพื้นที่ ดังนั้น การจะพึ่งพาลูกหลานจึงเป็นสิ้งที่คาดหวังได้ยาก

สภาพสังคมเมืองปัจจุบันนี้ แต่ละครอบครัวมักมีลูกเพียง 1-2 คน ดังนั้น การเลี้ยงดูพ่อแม่ จึงเป็น 1:1 ( ลูกสองคนช่วยกันเลี้ยงดูพ่อแม่) หรือ 1:2 (ลูกหนึ่งคนเลี้ยงดูพ่อแม่สองคน)ดังนั้น จากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ คุณจะเห็นได้ว่า เพียงแค่เงินเดือนเลี้ยงตัวเพียงลำพัง ยังจะแทบหมุนเดือนชนเดือนอยู่แล้ว ใน อีก 20ปี ข้างหน้า ถ้าคุณไม่ได้วางแผนทางการเงินแล้ว การหวังพึ่งลูกหลานนั้น เลือนรางเต็มที เพราะเพียงลำพังตัวของพวกเขาเองแล้วแทบจะเอาตัวไม่รอด

เฮ้อ!! คิดแล้ว เครียด ไม่รู้จะ สงสารลูกหลาน หรือ สงสารตัวเอง ไม่รู้จะสงสารใครดี
--------------------------------------------------------------------------------

ปีศาจตัวที่สี่ ปัญหาสุขภาพ และ ค่ารักษาพยาบาล

เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง มลพิษและสารปนเปื้อน ต่างๆ ปัญหาสุขภาพย่อมตามมา หากเกิดปัญหาสุขภาพ เฉพาะโรคจากกลุ่มระบบไหลเวียนโลหิต ที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสูง จากสถิติประชากรป่วยในกลุ่มโรคนี้ มีมากกว่า 10ล้านคน เช่น โรคหัวใจหรือโรคมะเร็ง หรือ โรคแห่งความเสื่อมเรื้อรังเกิดขึ้นกับตัวคุณ ไม่ว่าก่อนหรือหลังเกษียณ การออมเพื่อการเกษียณของคุณจะต้องประสบปัญหาอย่างแน่นอน

แม้โดยทั่วไปแล้วผู้ป่วยโรคดังกล่าวจะไม่ต้องนอนโรงพยาบาล แต่ในกรณีที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอย่างมหาศาล ค่าใช้จ่ายสำหรับการผ่าตัดเพื่อขยายหลอดเลือดหัวใจนั้นอาจสูงถึง 1 ล้านบาท และถ้าจำเป็นต้องขยายเวลาในการเข้ารับการรักษาในห้อง ไอ ซี ยู อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกหลายร้อยหลายพันบาท ต่อคืน ทั้งหมดนี้ยังไม่ต้องกล่าวถึงบุคคลที่คุณจะต้องดูแล >>>(อ่านต่อเพิ่มเติม) เมื่อคุณหมอไม่รู้จักอาหารเสริมบำบัดโรคการรักษาอาจฆ่าคุณ

แม้การประกันสุขภาพจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาโรค แต่นโยบายของบริษัทประกันชีวิตส่วนใหญ่จะไม่ทำสัญญากรมธรรม์ให้กับผู้ที่วัย 65 ปีขึ้นไปทั้งที่เป็นวัยที่ต้องการการประกันสุขภาพมากที่สุด อาจมีนายจ้างบางส่วนที่ทำประกันชีวิตกลุ่มให้แก่ลูกจ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วมักไม่เป็นเช่นนั้น

ดังนั้น หากนายจ้างของท่านมิได้มีนโยบายการทำประกันสุขภาพ ก็เป็นการสมควรอย่างยิ่งที่ท่านจะต้องทำประกันสุขภาพเอง แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะสูงก็ตาม นอกจากนี้ ประกันชีวิตมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการออมเพื่อการเกษียณ คุณจะรับมือกับปีศาจตัวนี้อย่างไร? หรือจะปล่อยให้มัน ทำให้คุณหรือครอบครัวของคุณ ต้องตกอยู่ในสภาวะล้มลาย

--------------------------------------------------------------------------------

ปีศาจตัวที่ห้า ความเสี่ยงจากหน้าที่การงาน
ในยุคของการค้าเสรี โลกที่ไร้พรมแดน ปัจจัยที่เกิดกับประเทศหนึ่ง ย่อมส่งผลกระทบไปยังประเทศต่างๆได้อย่างกว้างขวาง จากตัวอย่าง พิษเศรษฐกิจค่าเงินบาท ปี 40 บริษัทต่างๆต้องปิดตัวอย่างใบไม้ร่วง และการที่ธุรกิจมีการแข่งขันที่สูงขึ้น ย่อมทำให้บริษัทห้างร้านต่างๆปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และแน่นอน กลยุทธ์ ที่ทุกบริษัทใช้กันยามเกิดภาวะวิกฤตคือ การลดขนาดองค์กร ดังนั้น ความมั่นคงทางอาชีพของคุณ ที่ว่าแน่นอน อาจไม่แน่นอนในวันหนึ่งก็ได้

--------------------------------------------------------------------------------
ปีศาจตัวที่6 ความเสี่ยงจากการออมเงินในธนาคาร

เป็นงง ละซิ?ฝากเงินในธนาคารจะเสี่ยงได้อย่างไร?ความเสี่ยงนี้ยังไม่เฉพาะผลกระทบ จากอัตรา เงินเฟ้อ ที่สูงกว่าอัตรา ดอกเบี้ย หลายคนคิดว่าการฝากเงินกับธนาคารไม่มีความเสี่ยงเพราะในเมื่อ รัฐบาลบอกว่า รัฐค้ำประกันให้ทั้งต้นทั้งดอก 100%

แต่คุณทราบหรือไม่ว่า สภาวะการเปลี่ยนเเปลงของเศรษฐกิจโลก กำลังไล่ล่าคุณ……ในขณะนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งรัฐยังคงกดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากให้ต่ำติดดินไปอีกนาน เพื่อบีบให้ผู้ฝากเงินนำเงินออกไปลงทุน

และคุณทราบหรือไม่ว่า ขณะนี้ พรบ สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ได้ผ่านการ อนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสถาบันประกันเงินฝากนี้ จะทำหน้าที่แทนการค้ำประกันโดนรัฐบาล ซึ่ง สถาบันดังกล่าวจะไม่ค้ำประกันเงินฝากเต็มจำนวน 100% เหมือนกับอดีตที่ผ่านมา แล้วคุณจะรับมือกับ เกมส์การเงินนี้อย่างไรหล่ะ!!!ถ้าคุณไม่รู้จักมันเลย …………………………..


จากที่กล่าวมานี้ คุณอาจเริ่มรู้สึกวิตกกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นใครก็ตามที่มัวแต่ปิดกั้นความคิดอยู่แต่ในโลกของตนเอง ทำงานกินเงินเดือนไปวันๆ ย่อมตามไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลงอันน่าสะพรึงกลัว และไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนี้ได้ และในที่สุด ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงกับเหตุการณ์อันน่าหวาดผวาในอนาคตที่จะต้องเกิดขึ้นกับคุณในไม่ช้า