เครือข่ายผู้ขายตรงโวย สคบ. 2 มาตรฐาน

ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง

วันนี้ (19 ม.ค.) ที่โรงแรมเดอะเอ็มเมอร์รัล นายกาย ไพรินทร์ ประธานกลุ่มพลังเครือข่ายผู้ขายตรงแห่งประเทศไทย แถลงข่าวภายหลังจากที่ในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ประมาณ 100 นาย พร้อมหมายค้น เข้าตรวจค้น บริษัท ปูแดงไคโตซาน (เครือข่าย บริษัท เบสท์ 59) ประกอบธุรกิจเกี่ยวการขายตรงปุ๋ย ย่านเมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ โดยระหว่างการนำกำลังเข้าตรวจค้นได้เกิดการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่กับพนักงาน และสมาชิกบริษัทฯ โดยพนักงานต่างยืนยันว่า บริษัทฯ ไม่มีพฤติกรรมหลอกลวง หรือทำแชร์ลูกโซ่ตามที่ถูกกล่าวหา อีกทั้งบริษัทฯ เพิ่งได้รับรางวัลผู้ประกอบการดีเด่นจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม การตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานใดที่ผิดกฎหมาย เพียงแต่สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น โดยนายกายได้ตอบโต้การบุกตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ว่า ขณะนี้บริษัทขายตรงซึ่งเป็นของคนไทยถูกคุกคามอย่างหนัก โดยสำนักงานคณะกรรมการคุมครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอสุมตรวจค้นบริษัทขายตรง และตั้งข้อหาระดมคน หรือแชร์ลูกโซ่ ส่งผลให้กิจการขายตรงจำต้องปิดกิจการไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวม นายกายตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เหตุใดเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะ สคบ.จึงจ้องจับผิดแต่บริษัทขายตรงที่มีคนไทยเป็นเจ้าของกิจการ แต่กลับไปโอบอุ้มบริษัทยักษใหญ่ของต่างชาติ ทั้งนี้ ตนรู้สึกเคลือบแคลงใจต่อท่าทีของ สคบ.เป็นอย่างมาก "ปัจจุบันธุรกิจขายตรงของคนไทยสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนปีละหลายหมื่นล้านบาท แต่ก็ต้องถูก สคบ.ฆ่าตัดตอน ด้วยการนำเอาข้อกฎหมายมากล่าวหา หรือบุกตรวจค้นเป็นการทำลายเครดิตความน่าเชื่อถือของบริษัท แม้จะไม่พบหลักฐานการกระทำความผิดใดก็ตาม เป็นการทำลายอุตสาหกรรมขายตรงของคนไทย ซึ่งหาก สคบ.มีความจริงใจก็ควรจะชี้แนะ หรือตักเตือน ไม่ใช่อาศัยแต่กฎหมายเป็นเครื่องมือเข่นฆ่าธุรกิจคนไทย จึงทำให้เกิดคำถามว่า สคบ.มีสองมาตรฐานในการดูแลคนไทยกับชาวต่างชาติ เรื่องนี้ คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ตลอดจน คุณพีรพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม น่าจะลงมาดูในรายละเอียด เพื่อปกป้องธุรกิจของคนไทย โดยเฉพาะการขายตรงที่สามารถสร้างงานสร้างเงินให้กับคนยากคนจนได้ลืมตาอ้าปาก ไม่ใช่ปล่อยให้กลไกของรัฐทำร้ายประเทศชาติ โดยวิธีการสองมาตรการเช่นนี้" นายกาย กล่าวทิ้งท้าย. ที่มา : http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=310&contentId=43767