วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การพูดให้ทะลุใจ โดยอ.จอมพล

การพูดให้ทะลุใจ โดยอ.จอมพล

ธุรกิจเครือข่ายคืออะไร คลิกที่นี่

ธุรกิจเครือข่ายคืออะไร คลิกที่นี่

ทำไมต้องทำธุรกิจเครือข่าย

ทำไมต้องทำธุรกิจเครือข่าย คลิกที่นี่

นิทานสร้างท่อส่งเงิน



เรื่องราวต่อไปนี้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการมีรายได้ สำหรับลูกจ้างและคนทำธุรกิจส่วนตัว ที่ต้องการก้าวไปเป็นเจ้าของกิจการหรือนักลงทุน และสำหรับทุกคนที่ต้องการมากกว่า "ความมั่นคงของงาน" นั่นคือ "ความมั่นคงทางการเงิน" นี่ไม่ใช่เส้นทางที่ปูลาดด้วยกลีบกุหลาบ แต่มั่นใจได้ว่าจุดหมายปลายทางนั้น คุ้มค่าแก่ความพยายามยิ่งนัก เพราะสุดทางเส้นนี้คือ "อิสรภาพทางการเงิน"


"เรากำลังลากถังน้ำหรือสร้างท่อน้ำ"
"เรากำลังทำงานอย่างหนักหรืออย่างฉลาด"

หวังว่าคุณคงได้คำตอบจากนิทานเรื่องนี้แล้ว จำไว้ว่าคำตอบนี้สามารถช่วยให้คุณเปลี่ยนแปลง และนำชีวิตของคุณไปสู่การมีอิสรภาพทางการเงินได้จริง ๆ ขอเพียงแต่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตและแนวคิดของตนเอง

เนื้อหาจากนิทานเรื่องนี้เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่กำลังเบื่อกับการ "ลากถัง" และพร้อมที่จะ "สร้างท่อ" เพื่อส่งเงินเข้ากระเป๋า ไม่ใช่ออกจากกระเป๋า และนั่นก็คือเนื้อหาอีกด้านหนึ่งของเรื่องราวในบริบทเดียวกันของ พลังของผู้ซื้อกึ่งผู้ขาย ซึ่งเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของกิจการ และการมีรายได้ที่มั่นคงกว่าการเป็นลูกจ้างและคนทำธุรกิจส่วนตัว โดยการเข้ามาเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับ

ธุรกิจในฝันยุคดอทคอม คลิกที่นี่

ธุรกิจในฝันยุคดอทคอม คลิกที่นี่

สร้างโบสถ์เป็นมหากุศลผลบุญที่ยิ่งใหญ่

บูรณะโบสถ์หลวงพ่อใหญ่
วัดบางระโหง ตำบลบางกร่าง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

**************************
วัดบางระโหง เป็นวัดราษฎร์สังกัดมหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ 44 หมู่9 ต.บางกร่าง
อ.เมือง จ.นนทบุรี บนเนื้อที่ 26 ไร่เศษ หลวงพ่อใหญ่เป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ประจำอุโบสถหลังเก่า ทำด้วยศิลาแลงลงรักปิดทอง ขนาดหน้าตักกว้าง 69 นิ้ว สูง 89 นิ้ว เป็นพระพุทธปางมารวิชัย

หลวงปู่เหรียญอดีตเจ้าอาวาสวัดบางระโหง ที่มีความโด่งดังเรื่องพระปิดตา พญาไก่ เถื่อนและตะกรุดต่างๆ (มีร้านทองแห่งหนึ่งที่เยาวราชนำพญาไก่เถื่อนไปบูชา แล้วคืนหนึ่งมีโจร 3คนเข้ามางัดเพื่อหวังขโมยทองในร้าน ปรากฏว่าไม่สามารถออกจากร้านได้ จนเจ้าของร้านมาเจอใน สภาพนอนหมดสติอยู่หน้าพญาไก่เถื่อน

อีกเรื่องคือเด็กที่ใส่ตะกรุดพิศมรเกิดจมน้ำแถววัดบางระโหง หลวงปู่เหรียญก็ไปดึงเด็กขึ้นมาจากน้ำได้อย่างปลอดภัย) หลวงปู่เหรียญให้ความเคารพนับถือหลวงพ่อใหญ่เป็น อย่างมาก ท่านเคยบอกว่า มีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจก็ให้ไปขอบุญบารมีหลวงพ่อใหญ่ช่วยเหลือ เคยมีชาย ท่านหนึ่งมาบนบานศาลกล่าวขอให้ขายที่ได้ในราคาที่ต้องการก็ขายได้ สมัยก่อนคนเก่าแก่เล่าว่า พ่อค้า พายเรือขายของเมื่อมาถึงหน้าอุโบสถหลวงพ่อใหญ่ก็จะยกมือไหว้แล้วกวักน้ำพรมสิ่งของ ของก็จะขายดี

ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ของหาย โรคภัยไข้เจ็บ การเกณฑ์ทหาร โชคลาภ หรือเรื่องต่างๆ ก็มีผู้คน จำนวนไม่น้อยที่มาบนบานศาลกล่าว แล้วได้รับบุญบารมีกันไป (แล้วแต่ความเชื่อ)

ปัจจุบันสภาพโบสถ์หลวงพ่อใหญ่มีความชำรุดทรุดโทรมมาก ลวดลายภาพและอักษรบนผนังโบสถ์เริ่มหลุด กร่อน โครงสร้างของโบสถ์อยู่ในสภาพที่ไม่มั่นคง สามารถพังทลายได้ทุกเมื่อ ทางพระครูกิตติสิทธิวัฒน์หรือหลวงพ่อเที่ยงเจ้าอาวาส ณ ปัจจุบัน จึงมีความต้องการที่จะบูรณะโบสถ์หลวงพ่อใหญ่ให้มีสภาพที่ มั่นคงถาวร โดยมีช่างผู้ชำนาญมาเสนองบการบูรณะไว้ประมาณ 9ล้านบาท (ยกโบสถ์ ซ่อมแซมโครง
สร้างและลวดลายที่ผนังทั้งหลัง)

จึงขอความอนุเคราะห์จากผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสมทบทุนการปฏิสังขรณ์วิหารหลวงพ่อใหญ่วัดบางระโหง (สร้างโบสถ์เป็นมหากุศลผลบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด)

โบสถ์หลวงพ่อใหญ่


ชื่อบัญชี พระครูกิตติสิทธิวัฒน์ สาขาบางใหญ่
เลขที่บัญชี 268-1-27521-8 ธ.กรุงศรีอยุธยา สาขาบางใหญ่ จ.นนทบุรี

พระครูกิตติสิทธิวัฒน์ (หลวงพ่อเที่ยง)
วัดบางระโหง 44 หมู่9 ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี
โทร. 02-4474151, 02-4463636


กรุณาโทรแจ้งทางวัดหากมีการโอนเงินร่วมทำบุญ หรือท่านใดที่สามารถไปยังวัดบางระโหงได้ด้วยตนเอง จะเป็นการดีอย่างยิ่ง

ขอให้กุศลผลบุญนี้ส่งไปถึงตัวและครอบครัวของท่านที่ช่วยกันส่งข้อความนี้หรือช่วยทำบุญสมทบทุน ให้ท่านทั้ง หลายจงมีแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปเถิด.. สาธุ ผู้จัดทำ : ครอบครัวนาตนัฐนาคร

Amway ใครว่าของดี ?

Amway ใครว่าของดี

1 . แอมเวย์มีสมาชิก...ที่ยังคงอยู่ ประมาณ 7-8 แสนคน (แต่ไม่ต่อสมาชิกแล้วประมาณ 1 เท่าตัว) ซึ่งดูจากหมายเลขสมาชิกปัจจุบัน น่าจะประมาณ 2 ล้านกว่า ๆ โดยแอมเวย์ เก็บเงินค่าสมาชิกปีละ 900 บาท เมื่อคูณด้วยจำนวนสมาชิกราว ๆ 7 แสนคน ก็หมายความว่า แอมเวย์ได้เงิน "ค่าสมาชิก"ไปแล้วประมาณ 600 ล้านบาท การที่แอมเวย์ซื้อพันธบัตรรัฐบาลแค่ 1 ล้าน กับจ่ายเงินให้กองทุนต่าง ๆ เพื่อเอารูปมาลงเป็นการโฆษณา "ความดีงาม" ของตนเองสัก 80 ล้าน (จริง ๆ แล้วไม่ถึง 50 ล้าน) จึงถือว่าจิ๊บจ๊อยมากเมื่อเทียบกับ "เงินกินเปล่า" ที่เก็บไป

2. แอมเวย์ใช้วัสดุรีไซเคิลมาทำเป็นบรรจุห่อ เช่น ขวดต่าง ๆ หรือหลอดยาสีฟันก็ไม่ได้หมายความว่า แอมเวย์ช่วยกำจัดขยะหรือลดขยะ เนื่องจากพัสดุบห่อนั้น ๆ "มาจากอเมริกา" หรือหมายความว่า แอมเวย์ช่วยกำจัดขยะ "จากอเมริกา" ไปไว้ที่ต่าง ๆ ในโลก แอมเวย์ไม่มีโรงงานทำบรรจุภัณฑ์ หรือสั่งซื้อบห่อในประเทศอื่นครับ

3. แอมเวย์มักบอกว่าตัวเอง "ไม่มีโฆษณา" เพื่อลดต้นทุนส่วนที่ไม่จำเป็นให้ผู้ซื้อ แล้ว รูปสาวหน้าหมวย ๆ บีบยาสีฟันครึ่งหน้าของหนังสือพิมพ์หลายฉบับหลายวัน...แปลว่าอะไร โฆษณาใน TV...แปลว่าอะไรล่ะครับ

4. การโฆษณาของแอมเวย์เป็นซอฟท์เซลล์ สร้างความรู้สึกว่าคนใช้แอมเวย์เป็นคนประหยัด...เช่นซื้อรองเท้าเผื่อให้ลูก 1 เบอร์ เลือกเสื้อผ้าตัวใหญ่ ๆ ฯลฯ ...อยากถามว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็น"เฉพาะ"ผู้ใช้แอมเวย์หรือครับ อันที่จริงคนไทยเราก็ทำอย่างนี้มานานตั้งแต่ก่อนแอมเวย์เข้ามาเมืองไทยเสีย อีก เช่น เราใช้ยาสีฟันจนหยดสุดท้าย (แม้แต่แปรงสีฟันยี่ห้อนึงยังออกแบบมาให้ใช้ "รีด" ยาสีฟันได้เสียด้วยซ้ำ...ซึ่งแปรงสีฟันยี่ห้อนั้นก็ไม่ใช่ของแอมเวย์)...อันนี้อยากถามว่าแอมเวย์ "ฉกฉวย" วัฒนธรรมที่มีอยู่ก่อนเก่าไปเป็นของตัวเองรึเปล่า...ไม่มีปัญญาสร้างสรรความ คิดใหม่ ๆ จาก"แอมเวย์" เองบ้างรึไง ?

5. จำนวน "ผู้ประสบความสำเร็จ" คือตั้งแต่ระดับ DD ขึ้นไปในเมืองไทยมีกี่คน เอ้า...ผมให้ว่ามี 5 หมื่น (ซึ่งจริงแล้วผมรู้ว่ามีไม่ถึงหรอก) 5 หมื่นคน ใน 2 ล้านคน เป็นกี่เปอร์เซนต์ครับ คุณลองเทียบร้อยละหรือปัญญัติไตรยางศ์ดูได้เลยว่า ธุรกิจที่มีคนประสบความสำเร็จแค่ 2-3 เปอร์เซนต์น่ะ...ช่างน่าช่วยกันพัฒนาให้ "สวยงาม" ในประเทศชาตินักนี่ครับ

6. การจะเป็น DD ได้คุณต้องขายของได้เป้า 150,000 PV ใน 6 เดือน เป็นการขายให้ได้เป้าติดกัน 3 เดือน (performanced) ซึ่งหมายถึงว่าคุณต้องขายของให้แอมเวย์ประมาณ 2แสนบาท (รวมทั้งให้สายงานของคุณขายด้วยนั่นล่ะ) ต่อเดือน แปลว่าคุณต้องขายของได้อย่างต่ำ 1 ล้าน 2 แสนบาท ใน 1 ปี (ซึ่งปกติแล้ว...มากกว่านั้น) ...ถ้าคุณมีเซลล์ขายของให้ได้ 1 ล้านกว่าบาทแบบไม่เอาเงินเดือน 1 ปี.. เขาควรจะได้คอมมิสชั่นกว่าแสนบาท โดยในปีต่อ ๆ ไปเขาก็ขายให้ได้บ้าง...ไม่ได้บ้างเนื่องจากเขามี "ลูกค้าเก่า ๆ" สำหรับกิจการของคุณ ทำไมคุณไม่ควรตอบแทนอะไรให้เขาบ้างล่ะ ซึ่งแอมเวย์ก็ให้...ผมรู้ เขาให้เงินเดือน เดือนละประมาณ 18,000 บาทกับคุณ โดยที่คุณต้องเอาเงินนั้นจ่ายค่าน้ำมันรถของคุณเอง จ่ายค่าอบรมสัมมนาเอง (และยังต้องจ่าย "พิเศษ" มากกว่าคนที่ยังไม่เป็น DD) ด้วยเพื่อเลี้ยง "สายงาน" ฯลฯ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้...คุณยอมจ่ายง่ายจังเลยนะ ถ้าคนที่มีปัญญาขายของได้มากกว่าปีละ 1 ล้านบาท เอาเงินโบนัสหรือคอมมิสชั่นที่ได้เก็บไว้ทำเป็นทุน (ไม่ใช่หนี้) แล้วทำกิจการเอง...เขาอาจจะมี "ตัวตน" มากกว่าต้องไปหลบอยู่หลังเงาทะมึนของแอมเวย์...ทั้งตระกูล...ก็ได้

7. เจลอาบน้ำ ซึ่งมักเอามาเปรียบเทียบกับ "ครีมอาบน้ำ" ของ LUX แล้วพบความแตกต่างว่า...ครีมอาบน้ำของ LUX เกิดชั้นไขมัน หรือแตกตัวให้กลิ่นแอมโมเนีย เมื่อผสมกับสบู่ ความเป็นจริงแล้วก็คือ...เจลอาบน้ำ ไม่ใช้สบู่อาบน้ำหรือครีมอาบน้ำ สารตั้งต้นที่ใช้ผลิตต่างกันและวัตถุประสงค์ก็ต่างกันถ้าเอา "เจลอาบน้ำ" ยี่ห้ออื่นมาทดลอง...ก็เหมือนกับแอมเวย์นั่นล่ะ (แต่ราคาถูกกว่า) ในขณะเดียวกันถ้าเอา "สบู่" ของแอมเวย์มาละลายน้ำผสมกับ "เกลือ" (แอมเวย์ใช้แทนเหงื่อ...แต่ใช้ในอัตราเข้มข้นกว่าความเค็มของเหงื่อ จริง ๆ หลายเท่า) ครับ แล้วทดลอง...ก็ให้ผลแบบเดียวกับ LUX ...เรื่องนี้มีข้อขัดแย้งในตัวด้วยครับ เพราะเหงื่อที่คนเราขับออกมาจากร่างกายไม่ได้มีแต่เพียงเหงื่ออย่างเดียว โดยเฉพาะ คุณผู้หญิงด้วยแล้ว เหงื่อที่ขับออกมามี "ไขมัน"มากกว่าซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นตัว "เปรี้ยวๆ" อันเกิดจากการทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับอากาศและการย่อยของแบคทีเรียบริเวณ ผิวหนัง กับ "กรดไขมัน" ที่ร่างกายขับออกมาพร้อมเหงื่อ คนไทยมีเหงื่อมากครับ...ซึ่งก็เป็นปกติ ส่วนการใช้เจลอาบน้ำเหมาะกับคนที่อยู่ในพื้นที่ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำเช่น ในเขตภูมิอากาศอบอุ่นหรืออากาศหนาว (และอยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน) เพราะเค้าต้องรักษาความชื้นที่ผิวหนังและปกติเค้าก็ไม่ค่อยมีเหงื่อครับ

8. ยาสีฟันกลิสเตอร์ "ข้นกว่า" และไม่มีสารขัดฟันหยาบ ๆ เมื่อเทียบกับ "พาโรดอนแท็กส์" เพราะ ว่ายาสีฟัน กลิสเตอร์เป็น "ครีมทำความสะอาด" ไม่ใช่ยา "สี(ขัดสี)ฟัน"ความข้นในตัวมันเองเกิดจากมวลสารที่มีขนาดเล็ก ๆ ซึ่งไม่แยกตัวง่าย ๆ เมื่อมีการให้พลังงานเข้าไปเฉกเช่นยาสีฟันที่ใช้ "สารขัดฟัน" เป็นหลักแล้วใช้โมเลกุลอื่น ๆ ที่เล็กกว่าเป็นตัวยึดเหนี่ยวหรือผสมผสานยาสีฟันกลิสเตอร์มักพูดถึงความเข้มข้น (ซึ่งความจริงแล้วคือ "การไม่แยกตัว") โดยทำเป็นลืม ๆ เรื่องคุณภาพการ "ขัดฟัน" โดยโยนให้เป็นเรื่องของแปรงกับวิธีการสีฟันของผู้ใช้แทน

9. น้ำยาล้างจาน LOC ยาสระผม ...ฯลฯ ของแอมเวย์ใช้สารตั้งต้นในหมู่อนุพันธ์ "Loreth sulfate"(คนไทยเรียก "หัวแชมพู") ซึ่งเป็นสารเคมีราคาถูก ๆ และกำลังอยู่ในขั้นวิจัยว่าเป็นส่วนก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ซึ่งแชมพูสระผมในเมืองไทยหลายยี่ห้อเลิกใช้ไปแล้ว

10. เครื่องกรองน้ำของแอมเวย์ แพงกว่าเครื่องกรองน้ำที่มีขายในเมืองไทย 2 เท่า โดยค่าอะหลั่ยก็แพงกว่า 3-4 เท่า แอมเวย์มักเอาเครื่องกรองน้ำของตนเปรียบเทียบกับสินค้าคุณภาพต่ำกว่า หรือ "ไม่ตรงจุดประสงค์" ของผู้ออกแบบ เช่นเอาสารกรองซึ่งก็คือ activated carbon ไปเปรียบเทียบกับ resin ทั้ง ๆ ที่ resin มีไว้เพื่อกำจัดความกระด้างของน้ำ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าที่คุณภาพสูงกว่า (และราคาถูกกว่า) เช่น เครื่องกรองน้ำระบบ RO ก็อ้างว่าน้ำจากระบบ RO" กรองทุกอย่างออกไปหมด" แม้แต่ "สารที่มีประโยชน์" โดยแอมเวย์ไม่ได้บอกว่า "สารที่มีประโยชน์" ที่เครื่องกรองน้ำแอมเวย์กรองไว้ไม่ได้มีอะไรบ้าง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว...เครื่องกรองน้ำแอมเวย์มีเพียงการกรอง 3 ขั้น ขั้นแรกเป็นการกรองแบบเลวมาก ๆ ด้วยชั้นกรอง PP บางจ๋อย จนเทียบกับไส้กรอง PP หรือไส้กรองเซรามิก ในท้องตลาดไม่ได้ ขั้นที่สองเป็นความภูมิใจของแอมเวย์และมักพูดกับผู้ซื้อราวกับแอมเวย์เท่า นั้นที่ ทำสิ่งนี้ (ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วมีการคิดค้น-ใช้งานก่อนแอมเวย์ทำเครื่องกรองน้ำเอง หลายปี) คือ Activated carbon แต่เมื่อเทียบกับไส้กรอง AC ในท้องตลาดแบบมาตรฐาน...ซึ่งใช้กันทั่วไปแม้ในอเมริกา (ของกันนั่นล่ะ) จะพบว่าราคาของแอมเวย์แพงกว่า 3 เท่าตัวจนท่านสามารถซึ้อของยี่ห้ออื่นมาต่อ แบบอนุกรมได้ 2 เท่า...ซึ่งให้คุณภาพการกรองดีกว่า...ในราคาที่ต่ำกว่า ขั้นที่ 3 การกำจัดเชื้อ หรือระบบ Ultra violet สินค้าของแอมเวย์เป็นหลอดรังสีที่ให้ค่า Lux ต่ำกว่าของที่ขายยี่ห้ออื่น ๆ ...แต่อ้างว่าออกแบบให้มีการหมุนวนภายในระบบเพื่อเพิ่มระยะเวลา retaintion time ) ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วค่าเวลาดังกล่าว วัดจาก"อัตราการไหล" ที่ Input -Output เนื่องจากทางวิศวกรรมถือว่าเป็น " ระบบปิด" แล้วจึงวัดที่ขนาดของระบบ V= Q / A แม้ว่าภายในระบบจะจัดให้น้ำหมุนวนเป็น "กระแส" อย่างไรก็ตามถ้าลำของกระแสนั้นเล็กมาก ( A ต่ำ ) V หรือความเร็วในการไหล ก็จะสูงขึ้น เพราะ Q หรืออัตรา น้ำก็เท่า ๆ กัน ดังนั้นทำไมไม่เลือกตัวจ่ายรังสีที่เฉียบขาดกว่าในการฆ่าเชื้อล่ะ ? ...ถ้าแอมเวย์จะอ้างว่ารังสีมากก็อันตรายมาก...ก็พาไปหา "สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค"ได้เลย เพราะขนาดของรังสีที่ใช้ในสินค้ายี่ห้ออื่นก็ผ่านมาตรฐานทั้งนั้น (มักเป็นสินค้ากัน...เช่นเดียวกัน) นอกจาก นั้นแล้ว...เครื่องกรองน้ำของแอมเวย์ก็ใช้กรองน้ำบาดาลหรือน้ำกร่อยไม่ได้ ครับ...ใช้ได้แต่การกรองน้ำประปาที่ปกติก็ดื่มได้อยู่แล้ว...เท่านั้น

11. เครื่องฟอกอากาศของแอมเวย์ "แพงมาก ๆ" ราคาเท่ารถมอเตอร์ไซค์ 1 คันหรือแพงกว่า เครื่องปรับ อากาศขนาด 1 ตัน 2 เท่า ทั้งที่ระบบการกรองเป็นแบบ 3 ขั้นตอนที่ไม่มีเทคโนโลยี่อะไรมากมาย คือกรองหยาบด้วยตะแกรง กำจัดกลิ่นด้วย Activated carbon และดัก mist ด้วยไส้กรอง เฮพปา ตัวนี้ในเมืองไทยยังผลิตเองไม่ได้ แต่นำเข้ามาตัด พับได้ เช่น ของ 3M) ในท้องตลาดมีสินค้าที่ มีระบบ เช่นเดียวกันนี้ 2-3 ยี่ห้อ โดยราคาถูกกว่า 8-10 เท่า แม้ว่ามีอัตราการไหลผ่าน (ขนาด) เล็กกว่า ก็เล็กกว่าไม่ถึง 3 เท่า ดังนั้น...ซื้อตัวเล็ก ๆ สัก 3 ตัวก็ยังถูกตังค์กว่าเยอะปกติแล้วระบบฟอกอากาศที่ใช้กันทั่วไป มักเป็นระบบที่ใช้ไฟฟ้าสถิตย์ (ความเป็นจริงคือการใช้สนามไฟฟ้าในการดีด แล้วจับฝุ่นละออง) ซึ่งเราสามารถ "ถอดล้างทำความสะอาด" ได้ ไม่ต้องซื้อใหม่กันตะบี้ตะบัน คุณภาพการกำจัดฝุ่นของระบบ "EP" อยู่ที่ประมาณ 90 % ( ส่วนแฮพปา อยู่ที่ 95 % ) โดยวัดที่ "ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำกว่าความชื้นสัมพัทธ์ในเมืองไทย" และระบบแฮพปานั้นจะมีปัญหาทันทีถ้าความชื้นสัมพัทธ์สูงๆ ...ซึ่งก็หมายความว่าเครื่องฟอกอากาศของ แอมเวย์ใช้ได้เฉพาะในห้องแอร์ (เพื่อคงไว้ซึ่งคุณภาพตามคำบรรยาย) ...เท่านั้นครับ

12. เรื่องผงซักฟอก SA8 ของแอมเวย์ที่อ้างถึง "การรักษาสภาพแวดล้อม" เนื่องจากย่อยสลายได้... ผงซักฟอกทุกชนิด - ทุกยี่ห้อที่ขายในเมืองไทยต้องไม่ผสมสารที่ก่อให้เกิดฟอสเฟตในอัตราที่เป็น อันตรายครับ เนื่องจากผงซักฟอกเป็น "มาตรฐานบังคับ" ของสำนักงานมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) การกล่าวอ้างว่าผงซักฟอกอื่น "ทำลาย" สิ่งแวดล้อมจึงเป็นการสบประมาทเจ้าหน้าที่ (หรือกฎหมายของบ้านเมือง)ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (มาตรฐาน "บังคับ"เป็นมาตรฐานที่ "ต้อง" ทำให้ได้ ถ้าจะขายสินค้านั้น ๆ)...ถ้าพบใครพูดเช่นนั้นหรือทำนองนั้น...ก็บอกเค้าด้วยว่า...อาจเข้าข่าย หมิ่นประมาทครับ (จำคุก 1- 3 ปี...ถ้าผมจำไม่ผิด)

วิทยากรของทางแอมเวย์ส่วนใหญ่ล้วน สร้างประวัติของตนเท็จเพื่อสร้างความเชื่อมั่นไม่ว่าทั้งเรื่องการงาน การศึกษา และแรงจูงใจแก่ผู้ร่วมงานด้วยกัน (ไม่เชื่อลองไปเช็คดูได้)

ส่วนคนที่รักแอมเวย์ ก็คล้ายๆ คนโดนซื้อสิทธิ์ละครับ ได้ผลประโยชน์ได้จากเขามา แล้วก็ทำเป็นรักเขาโดยไม่มองภาพรวม อีกอย่างแอมเวย์เป็นจิตวิทยาที่ซับซ้อน คนที่ไม่ประสบความสำเร็จในสังคมปกติ+ มีปัญหาอะไรบางอย่างทางด้านพื้นฐาน จะเป็นเหยื่อได้ง่ายมาก ตอนนี้แอมเวย์รุกกลุ่มใหม่แล้วคือนักศึกษา เหล่าคนที่อยากรวยแต่ไม่อยากทำอะไร+ไร้ประสบการณ์ เป็นขุมวัตถุดิบชั้นยอดของมันเลย แอมเวย์บางคนเกลี้ยกล่อม คนที่กำลังเขวว่า อย่าไปสนกระแสสังคม มันหมายความว่าไง คือ คนที่ข้ามจุดๆนึง ไป (เราเคยยืนจุดนั่นมาแล้วแต่ไม่ได้ข้าม) จะมีทัศนะคติที่ต่างไป ดังนี้

ในขั้นแรกที่สมัคร เขาจะบอกว่า ไม่ต้องเดินขาย ไม่ต้องง้อใคร อยู่ๆก็ได้เงินเองแค่สร้างเครือข่าย
หลังจากนั้น ก็จะพาเราไปอบรม จากวิทยากร + พบสังคมของเขา วันๆก็มีแต่ แอมเวย์ๆ โดยคนพาไป จะกระตุ้นตลอด พออบรมไประยะ ก็จะเกิดอารมณ์อยากทำ เห็นทางสว่าง เริ่มฝัน ทั้งๆที่ลืมตัวไป ว่าเราไปขาย+ชักจูงเสียแล้ว พอทำไประยะนึง ก็จะถึงจุดสำคัญ คือ ความคิดที่ว่า จะเอาต่อเป็นมนุษย์แอมเวย์ที่รวยแต่คนทั่วไปเจอแล้วรังเกียจ(เจ้าตัวไม่แคร์) หรือจะกลับไปเป็น มนุษย์ในสังคมปกติ

ในระยะนี้ จะมีการเสริมแรง ยุยงสารพัด ทั้ง CD เทป หนังสือ อบรมต่างๆ นานา สื่อเหล่านี้ล้วนนำนักจิตวิทยา มาพูดเพื่อให้เข้าถึงส่วนลึกของสมองหรือที่เรียกได้ว่าสะกดจิตนั่นเอง

คนที่เลือกข้ามไปเป็นมนุษย์แอมเวย์ ก็จะเริ่มเกิดอาการเข้ากระแสเลือด อยากอบรม อยากหาคน อยากขาย พอมีคนไปเตือนไปพูดก็จะยกคำคมมา ปัดป้องได้หมด ขนาดที่ว่า เป็นนายกยังสู้ขายแอมเวย์ไม่ได้ ผลที่ตามมาคือ แตกต่าง + ออกห่างจากสังคมปกติอย่างชัดเจน บุคลิก + ลักษณะ อารมณ์จิตใจเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แล้วยังจ่ายเงิน อบรมทีละ 1-3 พันบาทอย่างหน้าตาเฉย ขอชิ้นเป็นหมื่นๆก็ซื้อหน้าตาเฉย

บทสรุปของคนที่ข้ามไป ส่วนใหญ่เป็นเหยื่อให้คนบนๆ กิน กิน กิน + เสียความเป็นมนุษย์ แล้วก็จบลงด้วยการไม่เหลืออะไร แต่ก็ยังดันทุรังทำไม่หยุด ส่วนน้อย ผันตัวเอง เป็นวิทยากร + นักชักจูงตัวยง หรือแมลงสาบที่พวกเราๆรังเกียจนั่นเอง ส่วนที่แทบไม่ถึงส่วนน้อยมาก ประสบความสำเร็จ แต่ผมบอกตรงๆ คุณรวยคุณมี แต่ไม่มีใครยอมรับคุณ ก็แค่กลุ่มของคุณเท่านั้น


******ไม่ได้โจมตีครับ แต่อยากบอกความจริงให้รู้.......
ข้อมูลจาก Forword Mail