วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


การเลือกไคโตซานที่มีคุณภาพดี
     ปัจจุบันนี้มีสินค้าที่ทำจากไคโตซานจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดมากมายหลายบริษัท แต่ละบริษัทก็มีสูตรที่คล้ายกันบ้างหรือบางบริษัทก็มีสูตรที่เฉพาะเจาะจงของบริษัทนั้นๆ แต่พื้นฐานของสินค้าทั้งหมดก็มาจากไคโตซานเหมือนกัน ที่จริงนั้นสินค้าที่ทำจากไคโตซานที่มีคุณภาพดีนั้นต้องมาจาก

1.ขั้นตอนการคัดเลือกวัตถุดิบที่ดี
2.การเลือกใช้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลเหมาะสมกับจุดประสงค์ของแต่ละการใช้งาน
3.วิธีการผสมและความสะอาดของการผลิต



1.ขั้นตอนการคัดเลือกวัตถุดิบที่ดี
       วัตถุดิบที่ดีสำหรับการทำไคโตซานควรจะเป็นของสด เช่นเปลือกกุ้งสด, เปลือกปูสด ระหว่างที่นำมาผลิตต้องเก็บในอุณหภูมิไม่เกิน 4 องศาเซลเซียส ขั้นตอนในการสกัดโปรตีนออกมาต้องสกัดให้หมด เนื่องจากถ้ามีโปรตีนเหลือจะทำให้ไคโตซานเน่าเสียได้เมื่อทำเป็นสารละลาย ต้องสกัดแคลเซี่ยมและแร่ธาตุออกให้หมด เพื่อให้มีปริมาณกากเหลือน้อยที่สุด เพื่อที่จะได้ไคตินที่มีคุณภาพดี เมื่อนำไปผลิตต่อจะได้ไคโตซานคุณภาพดีที่สุด ไคโตซานที่มีคุณภาพดีควรมีค่า DD (DEGREE OF DEACETYLATION) มากกว่า 90 ขึ้นไป ค่า DD เป็นค่าที่แสดงให้เห็นว่าไคโตซานที่มีค่า DD สูงมากจะละลายได้ดีมากมีส่วนที่เป็นกากน้อย สารละลายที่ได้จะมีความใสสะอาดมาก ตรงกันข้ามกับไคโตซานที่มีค่า DD ต่ำจะละลายยากและมีความขุ่นมาก สารละลายที่ได้จะไม่ใสสะอาดเนื่องจากมีกากและส่วนที่ไม่ละลายมาก ไม่เหมาะกับการนำมาใช้ผสมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการคุณภาพ เช่น อาหารคน , อาหารกุ้ง , สารเสริมภูมิคุ้มกันพืชทางใบ แต่สามารถนำไคโตซานที่มีค่า DD ต่ำมาใช้เป็นปุ๋ยผสมดิน , บำบัดน้ำเสียได้เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้ไคโตซานที่มีค่า DD สูงมากนัก
        ดังนั้นไคโตซานที่มีคุณภาพดีจะสังเกตุได้จากค่าDDที่สูง(ถ้าสามารถขอใบรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์จากผู้ขายได้จะดีมาก) มีเนื้อสารละลายที่ใสสะอาด , ไม่มีตะกอนและผลิตมาจากบริษัทที่เชื่อถือได้ว่ามีความชำนาญมีกรรมวิธีการผลิตที่สะอาดได้มาตรฐาน เนื่องจากไคโตซานที่ไม่บริสุทธิ์เมื่อนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจะเน่าเสียเร็ว มีความขุ่นสูง ละลายยากไม่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป



2.การเลือกใช้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลเหมาะสมกับจุดประสงค์ของแต่ละการใช้งาน
      ความต้องการใช้ไคโตซานในแต่ละจุดประสงค์นั้นขึ้นกับน้ำหนักโมเลกุลของไคโตซาน ซึ่งไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลน้อยจะมีสายสั้น ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลมากจะมีสายยาว ในธรรมชาติไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่างๆ จะคัดมาจากแต่ละส่วนของอวัยวะของ กุ้ง,ปู ซึ่งเปลือกของกุ้ง ปู แต่ละส่วนเมื่อทำเป็นไคโตซานเรียบร้อยแล้วจะมีน้ำหนักโมเลกุลไม่เหมือนกันเปลือกกุ้ง ปู ที่ถูกเก็บมาอย่างดีด้วยความเย็นจัดจะให้น้ำหนักโมเลกุลที่สม่ำเสมอมากกว่าเปลือกกุ้งปูตากแห้งที่ไม่ได้เก็บด้วยความเย็น เปลือกที่ตากแห้งจะมีเศษโปรตีนปนเปื้อนมากกว่าเปลือกสดจะทำให้ได้ไคโตซานที่มีคุณภาพต่ำกว่าการใช้เปลือกกุ้ง ปูสดมาผลิต
      จุดประสงค์ในการคัดเลือกไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่างๆมาใช้งาน ก็เพื่อที่จะต้องการให้ไคโตซานมีประสิทธิ์ภาพสูงที่สุดเหมาะกับจุดประสงค์นั้นๆ เช่นเมื่อต้องการใช้เคลือบเม็ดอาหารจะใช้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงและน้ำหนักโมเลกุลปานกลางเป็นส่วนใหญ่ ถ้าต้องการใช้กับพืชจะต้องใช้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำมากๆ หรือต้องนำไคโตซานไปย่อยอีกครั้งให้เป็นหน่วยย่อยระดับโอลิโกเมอร์ เพื่อที่ไคโตซานจะได้ถูกต้นไม้ดูดซึมได้ทางปากใบหรือแทรกซึมเข้าเซลล์ของพืชได้อย่างรวดเร็ว ไคโตซานที่เป็นหน่วยย่อยนี้จะต้องถูกออกแบบให้มีขนาดพอเหมาะที่จะเข้าไปทำงานที่ผนังเซลล์ และหน่วยของไคโตซานที่เล็กมากๆ จะทะลุทะลวงเข้าไปจนถึงนิวเคลียสของเซลล์พืช เพื่อควบคุมการทำงานของระบบสร้างภูมิคุ้มกันของพืชให้สร้างสารต่างๆที่ช่วยป้องกันพืชจากสิ่งรบกวนภายนอกเช่น แมลง แบคทีเรีย และ เชื้อรา ที่เข้ามาทำลายพืชนั้นๆ ถ้าต้องการใช้ไคโตซานในการเคลือบผัก ผลไม้เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาควรจะใช้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงมากๆ เนื่องจากไคโตซานจะกลายเป็นฟิล์มที่มีความเหนียวแน่นสูง เคลือบผักผลไม้ได้ดี ฟิล์มไคโตซานไม่ฉีกขาดง่าย


3. วิธีการผสมและความสะอาดของการผลิต
         ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยไคโตซานในแต่ละสูตรนั้นมีวิธีการผสมที่ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการใช้งานและคุณสมบัติของสารละลายไคโตซานที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ
1) กรดอินทรีย์แต่ละชนิดที่ใช้ทำละลายไคโตซาน
2) กรรมวิธีการละลายไคโตซาน
3) อุณหภูมิที่ใช้ขณะทำการละลาย
4) ภาชนะที่ใช้ทำละลาย
5) การควบคุมไอออนของโลหะในสารละลาย
6) การกำจัดแบคทีเรียและเชื้อราที่ปนเปื้อนในสารละลาย
7) การควบคุมการผสมโดยผู้เชี่ยวชาญ

       สารละลายไคโตซานที่ดีนั้นจะต้องมีความใสสะอาดสูง ปราศจากฝุ่นผงและกากของไคติน ไม่มีกลิ่นเหม็น มีความข้นเหนียวเหมาะสม กระบวนการทำละลายใช้อุณหภูมิที่เหมาะสมในภาชนะปลอดสนิม ใช้น้ำที่ปราศจากไอออนในการทำละลายและผ่านขบวนการการกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียด้วยความร้อน ขั้นตอนทั้งหมดควรถูกควบคุมโดยผู้ผลิตที่เชี่ยวชาญชำนาญและมีประสบการณ์เกี่ยวกับไคโตซานเป็นเวลานาน มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการรับรองมาตราฐานคุณภาพได้อย่างดี
http://www.poodangsiam.com/chitosanpowder.html
คุณสมบัติของไคโตซานที่สำคัญพอจะกล่าวได้ดังนี้

1) Degree of deacetylation (%DD) เป็นตัวบ่งชี้ความเป็นไคติน-ไคโตซาน เนื่องจากไคติน-ไคโตซานเป็นโคโพลิเมอร์ระหว่างสองโมโนเมอร์ของ N-acetyl-D-glucosamine และ D-glucosamine ถ้าสัดส่วนที่อยู่ร่วมกันของโมโนเมอร์แรกมากกว่า คือ มีค่า degree of deacetylaition ต่ำ จะแสดงสมบัติเด่นของไคติน แต่ถ้าสัดส่วนของโมโนเมอร์ที่สองมากกว่า คือมีค่า degree of deacetylation สูง จะแสดงสมบัติเด่นของไคโตซาน ไคโตซานที่มี degree of deacetylaition สูงจะประกอบด้วยหมู่อะมิโนจำนวนมาก ดังนั้นความสามารถในการซึมผ่านของน้ำก็จะสูงไปด้วย
2) Molecular Weight ขนาดหรือน้ำหนักของโมเลกุล
3) Viscosity ความหนืด ซึ่งแปรผันตรงกับ Molecular Weight
4) ASH เถ้า
5) Soluble คุณสมบัติการละลาย
6) Moisture ตวามชื้น
7) Heavy metals and Microbiological

ประสบการณ์การผลิตไคโตซานขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมยา อาหารเสริม เครื่องมือแพทย์ (Edible Chitosan, Medical device grade Chitosan) การผลิตต้องมีการเลือกวัตถุดิบต้นทางที่นำมาผลิตไคติน เพื่อคุมคุมโลหะหนักที่จะปนเปื้อนรวมถึงกระบวนการการผลิต อุปกรณ์การผลิต พนักงาน เพื่อควบคุมการปนเปื้อนของโลหะหนักและการติดเชื้อจุลลินทรีย์ เราเป็นผู้เชี่ยวชาญและโรงงานผลิตไคโตซานขั้นพื้นฐาน ไคโตซานขั้นสูง (Enhance Chitosan) และ Chitosan Application (Medical device)  

http://www.poodangsiam.com/chitosanpowder.html
การพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของ ไคโตซาน 

ประการแรกคือ ที่จะดูว่า ไคโตซาน แท้หรือไม่นั้น ให้ดูที่ลักษณะของสาร ไคโตซานที่แท้หรือบริสุทธิ์นั้นจะต้องใสไม่เหนียวหนืดเกินไป และเมื่อเวลาเปิดขวดหรือภาชนะที่บรรจุไคโตซานจะต้องไม่มีลมออกมาเพราะหากมีลมออกมา ลมที่ออกมาคือการเน่าบูดของสารบางชนิด หรือพูดง่ายๆก็คือกระบวนการสกัดไคโตซานไม่บริสุทธิ์ ถ้านำไปใช้จะทำให้น้ำในบ่อเสียเร็วขึ้นและทำให้สัตว์น้ำติดเชื้อได้ 

ประการที่สองคือ การทดสอบด้วยน้ำยาล้างจาน โดยการหยดน้ำยาล้างจานลงในไคโตซานในปริมาณที่เท่ากัน หากเป็นไคโตซานที่บริสุทธิ์ตัวไคโตซานจะจับตัวกันเหมือนไข่ขาว แต่ถ้าเป็นไคโตซานไม่บริสุทธิ์ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
การใช้ไคโตซานในวงการประมงและอาหารสัตว์ ฯลฯ
ไคโตซาน ในวงการประมงนั้น
ขณะนี้ได้มีการนำไคโตซานมาใช้ประโยชน์ในด้านการยืดอายุการรักษา และเก็บถนอมอาหารที่เป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ และในขั้นต้นนี้ได้สกัดโปรตีนจากหัวกุ้งด้วยกระะบวนการย่อยด้วยแบคทีเรีย กรดแล็คติด (lectic acid bacteria) เพื่อนำโปรตีนนั้นมาใช้ในแง่เป็นสารเสริมคุณค่าอาหารและของว่างที่ทำจากสัตว์น้ำ การปรุงแต่งรส และกลิ่นในอาหารขบเคี้ยวที่เป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ เป็นต้น 


นอกจากนี้ฝ่ายเอกชนหลายแห่งได้นำไคโตซานมาใช้ประโยชน์ในด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำ วิธีการนั้นมีหลายรูปแบบ ได้แก่การคลุกกับอาหารเม็ด ในอัตราส่วนต่างๆกันเพื่อให้กุ้งกิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการไปกระตุ้นภูมิต้านทานโรคในตัวกุ้ง และเพื่อเป็นส่วนไปกระตุ้นการย่อยอาหารและการเจริญเติบโต ประโยชน์อีกด้านหนึ่งที่ผู้ขายโฆษณาไว้ก็คือ การช่วยให้เม็ดอาหารคงรูปอยู่ในน้ำได้นานกว่าโดยการเคลือบสารไคโตซานบนอาหารที่จะหว่านให้กุ้งกิน บางรายก็แนะนำให้เติมลงไปในน้ำเพื่อช่วยปรับสภาพแวดล้อมให้ดีอยู่เสมอ


ไคโตซาน ในด้านอาหารสัตว์ ในไก่เนื้อและสุกร ปัจจุบันไคโตซานใช้เป็นสารเร่งการเจริญเติบโตในไก่เนื้อและสุกร ช่วยลดอัตราการป่วยของไก่และสุกรได้ดี ไก่และสุกรสุขภาพดีแข็งแรง อัตราการป่วยตายของไก่และสุกร ลดลง อีกทั้งยังสามารถช่วยลดต้นทุนในการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มอีกด้วย และการวัดค่า
FCR
ก็ต่ำ ในปัจจุบันได้มีการนำสารไคโตซานนำเอาไปใช้กันอย่างแพร่หลายมากในกลุ่มของเกษตรกรฯลฯ
การใช้ไคโตซานกับพืชผักผลไม้ฯลฯ
ไคโตซานในด้านการเกษตรกรรมนั้น ได้มีการนำไคโตซานมาใช้เป็นอาหารเสริมให้แก่พืชเพื่อช่วยควบคุมการทำงานของพืชผลไม้และต้นไม้ให้ทำงานได้ดีขึ้นคล้ายๆกับการเพิ่มปุ๋ยพิเศษให้แก่พืชผักผลไม้ นอกจากนี้ยังนำไปใช้ในการป้องกันโรคที่เกิดจากจุลินทรีย์ และเชื้อราบางชนิดอีกด้วย ซึ่งตามหลายงานวิจัยบอกไว้ดังนี้
- ช่วยเร่งการเจริญเติบโตและเสริมสร้างความแข็งแรงทุกส่วนของพืช ให้กับพืชทุกชนิด
- ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับ ระบบราก ใบ ดอก และผล
- ช่วยลดการหลุดร่วงของดอกและผล ทำให้ขั้วดอกและผลเหนียวขึ้น ป้องกันผลแตก

- ช่วยให้พืชผักและผลไม้ มีน้ำหนักดีขึ้น 30-80%
- ช่วยกระตุ้นต้นพืชสร้างสารลิกนิน และสร้างภูมิต้านทานโรค
เพื่อป้องกันและต่อต้านการกัดกินของแมลง ฯลฯ
- ช่วยป้องกันและยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคพืช เช่น โรครา ราน้ำค้าง ราสนิม ราแป้ง ใบจุด แอนแทรคโนส แบคทีเรีย ไวรัสที่ก่อโรคพืช เป็นต้น ฯลฯ
- ช่วยป้องกันและยับยั้งการเกิดโรคซึ่งเกิดมาจากเชื้อจุลินทรีย์ในดิน ฯลฯ
- ช่วยปรับสมดุลย์ระบบนิเวศน์ดินและน้ำ ปรับสภาพดินที่เสียให้กลับดีขึ้นเรื่อยๆ ดินอุ้มน้ำได้ดี ร่วนซุย
- ทำให้ผลผลิตสูงขึ้นและมีคุณภาพที่ดีสม่ำเสมอ
- ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานให้แก่เมล็ดพืชที่จะนำไปเพาะขยายพันธุ์ทำให้มีอัตราการขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น และอัตราการงอกดีขึ้น
- ช่วยลดปริมาณ การใช้ปุ๋ยและสารเคมียาฆ่าแมลง ต่ำกว่า 30-50%

ทุกวันนี้เกษตรกรได้นำเอาผลิตภัณฑ์ไคโตซานไปใช้ประโยชน์กับพืชผักผลไม้หลายชนิดแล้ว เช่น หน่อไม้ฝรั่ง
, ต้นหอม , คะน้า , แตงโม , ข้าว , ถั่ว ,
ข้าวโพด ตลอดจนไม้ดอกไม้ประดับที่มีราคาสูงหลายชนิด เช่น ดอกคาร์เนชั่น ดอกเยอบีร่าพันธุ์นอก ดอกแคดิโอลัสและดอกบานชื่นฝรั่ง เป็นต้น ฯลฯ 
http://www.poodangsiam.com/chitosanpowder.html
รูปแบบของไคโตซานที่ผลิตขึ้นมาจำหน่ายในขณะนี้มี 4 รูปแบบ ได้แก่
1. ไคโตซาน ที่เป็นเกล็ดหรือแผ่นบางเล็กๆ (
flake)

2. ไคโตซาน ที่เป็นผงละเอียดคล้ายแป้ง (
micromilled powder)

3. ไคโตซาน แบบสารละลายเป็นของเหลวหนืด (
solutions)
ซึ่งความเข้มข้นอาจจะแตกต่างกันไปตามความต้องการของผู้สั่งซื้อ
4. ไคโตซาน ที่อยู่ในรูปเม็ดจิ๋วขนาดประมาณ 300-500 ไมโครเมตร (
bead)

ผลิตภัณฑ์ไคโตซานที่อยู่ในรูป
flake , powder , bead
นั้นหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงจะต้องมีความชื้นต่ำมากคือไม่เกิน 5-10 เปอร์เซ็นต์ หากความชื้นสูงกว่านี้ก็อาจจะทำให้เกิดเชื้อราหรือมีสิ่งปนเปื้อนอื่นๆเข้าไปปะปนอยู่ทำให้คุณภาพด้อยลง หรืออาจจะเกิดความเป็นพิษ เนื่องจากเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียหรือสิ่งปนเปื้อนนั้นๆผลิตสารพิษออกมา ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปนเปื้อนของสิ่งไม่พึงประสงค์ในไคโตซานนั้น เนื่องจากวัตถุดิบที่นำมาสกัดนั่นเอง 

รายชื่อศัตรูพืชที่มีการทดสอบแล้วว่าไคโตซานมีศักภาพในการควบคุมได้
  1. การกระตุ้นให้พืชมีความต้านทานแมลง
    -ศัตรูพืช คือ หนอนใยผัก หนอนคืบและอื่น ๆ การใช้ การพ่นทางใบ ลำต้น (ขึ้นกับส่วนที่ศัตรูพืชอาศัยอยู่)
    อัตราการใช้ 10 – 20 ซีซี / น้ำ 20 ลิตร
  2. การยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อสาเหตุโรคพืช
    -
    ไวรัสโรคพืช แบคทีเรีย เช่น แคงเคอร์ ใบจุด
    -
    เชื้อรา เช่น เชื้อไฟทอปธอร่า พิเทียม ฟิวซาเรียม Botrytis cineres Rhizopus stolonifer
    -
    แอนแทรคโนส เมลาโนส ราน้ำค้าง ใบติด ราขาว รากเน่า – โคนเน่า ใบจุด โรคใบสีส้ม ใบลาย
http://www.poodangsiam.com/chitosanpowder.html 

ไคโตซานกับการเกษตรด้านการควบคุมศัตรูพืช
  1. ยับยั้งและสร้างความต้านทานโรคให้กับพืชการยับยั้งเชื้อสาเหตุของโรคพืช ได้แก่ เชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราบางชนิด โดยไคโตซานจะซึมผ่านเข้าทางผิวใบ ลำต้นพืช ช่วยยับยั้งการเกิดโรคพืช ในกรณีที่เกิดเชื้อโรคพืชแล้ว (รักษาโรคพืช) และสร้างความต้านทานโรคให้กับพืชที่ไม่ติดเชื้อ โดยไคโตซานมีคุณสมบัติที่สามารถออกฤทธิ์เป็นตัวกระตุ้น (Elicitor) ต่อพืชได้ จะกระตุ้นระบบป้องกันตัวเองของพืช ทำให้พืชผลิตเอนไซม์และสารเคมีเพื่อป้องกันตนเองหลายชนิด พืชจึงลดโอกาสที่จะถูกคุกคามโดยเชื้อสาเหตุโรคพืชได้

  2. ทำให้เกิดโอกาสการสร้างความต้านทานของพืชต่อแมลงศัตรูพืช
    ไคโตซานจะกระตุ้นให้มีการผลิตสารลิกนินและแทนนินของพืชมากขึ้น พืชสามารถป้องกันตัวเองจากการกัด–ดูด ทำลายของแมลงศัตรูพืช จะสังเกตุว่าต้นพืชที่ได้รับไคโตซานจะมีแวกซ์เคลือบที่ผิวใบ

  3. ช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดินไคโตซานสามารถส่งเสริมการเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน เช่น เชื้อ Actiomycetes sp. Trichoderma spp. ทำให้เกิดการลดปริมาณของจุลินทรีย์ที่เป็นเชื้อโรคพืช เช่น เชื้อ ( Furarium ) Phythophthora spp. ฯลฯ  
แผนรายได้เริ่มต้นง่ายๆ ที่คุณจะได้รับ 

สมมุติ ยกตัวอย่างเช่น 
คุณแนะนำ นาย ก. ลงทุน 3,950 บาท สั่งสินค้า 1 ชุด 1000PV (วางไว้ฝั่งซ้าย)
คุณแนะนำ นาย ข. ลงทุน 3,950 บาท สั่งสินค้า 1 ชุด 1000PV (วางไว้ฝั่งขวา)
คุณจะได้รับเงินโบนัสทันที 500 บาท

แล้วถ้านาย ก. นาย ข. อยากได้เงินเหมือนคุณ เขาก็ไปแนะนำอีกคนละ 2 คน เขาก็ได้เงินเช่นกันนี่คือระบบธุรกิจเครือข่ายแบบใหม่ ที่เมื่อก่อนเราซื้อปุ๋ยยาจากร้านค้าคุณได้แต่สินค้า และจ่ายเงินทุกบาทให้ร้านค้าไปหมด

แต่ยุคนี้ 2012 ระบบธุรกิจมันเปลี่ยนไป วันนี้คุณเพียงแค่เปลี่ยนที่ซื้อ เปลี่ยนมุมมอง ใช้ดีแล้วบอกต่อ คุณก็มีโอกาศสร้างรายได้ให้กับตัวคุณ และครอบครัวได้อย่างแน่นอนครับ 
http://www.poodangsiam.com/marketing.html
โปรโมชั่นท่องเที่ยวภายในประเทศกับปูแดง / 
โปรโมชั่นท่องเที่ยวต่างประเทศกับปูแดง / รางวัลพิเศษสปอนเซอร์สูงสุดกับปูแดง

Fast Start พิเศษ มิถุนายน 
ชั้นลูก จาก 30% เพิ่มเป็น 60% 
เริ่มตั้งแต่ วันที่นี้-สิ้นเดือนนี้ 
น้ำมันบนดินของเมืองไทย คือ สินค้าเกษตร 
เพราะคนกินเงิน กินทองไม่ได้ คนจะอยู่ได้ ไม่ตายต้องกินอาหารครับ สินค้าเกษตรก็คืออาหาร อาหารก็คือน้ำมันบนดินนั่นเอง จงเชื่อมั่น และมั่นใจว่าเรามีน้ำมันแล้วทุกที่บนผื่นแผ่นดินไทย
http://www.youtube.com/watch?v=1xLvJ1k00Dw&feature=related
ข้าวในตลาดโลกจะราคาสูงขึ้นอีกภายใน 3-5 ปี 
เพราะพื้นที่บางส่วนถูกน้ำไปปลูกยางพารา ข้าวโพด ปาร์ม อ้อย 

สรุปแล้วแนวโน้มสินค้าเกษตรที่ราคาจะสูงขึ้นอย่างแน่นอนคือ 
ยางพารา เพราะ จีนต้องการใช้ยางในอุตสาหกรรมอีกมากๆ ข้าวโพด เพราะใช้ทำอาหารสัตว์ และคนบริโภคมากขึ้นปาร์ม อ้อย เพราะใช้ทำน้ำตาล และเปลี่ยนเป็นน้ำมันได้

ดังนั้นหากต้องการลงทุนในสินค้าเกษตรล่วงหน้า (AFET) ให้เน้าลงทุนในสินค้าเกษตรเหล่านี้คือ ข้าว ข้าวโพด ยางพารา ปาร์ม อ้อย ให้ถือลงทุนระยะยาวได้กำไรแน่นอน จากปัจจัยเหตุและผลดังข้างต้นครับ
สารปรับปรุงดินปูแดง ชนิดเม็ด
 ปรับสภาพดิน เพิ่มแร่ธาตุในดิน ทำให้พืชได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน ทำให้ดินร่วนซุย ลดปุ๋ย ลดยาเคมีทำให้ระบบรากแข็งแรง ฟื้นฟูสภาพดินให้สมบูรณ์ 
สมาชิกราคาลดพิเศษ 10-30%
(รหัสสินค้า A139-A149)

คลิกดูรายละเอียดพิเศษที่นี่http://poodangsiam.com/Soil.html
ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดผง ตรามดบิน (ปุ๋ยปูแดง) 
ประกอบด้วยปริมาณอินทรีย์วัตถุและธาตุอาหาร (OM)20% เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ช่วยให้ดินเก็บธาตุอาหาร ดินอุ้มน้ำได้ดี ดูดซึ่มอาหารได้ดี มีธาตุอาหารเสริมหลักและรอง เหมาะต่อการปลูกพืชทุกชนิด
สมาชิกราคาลดพิเศษ 10-30%
(รหัสสินค้า A4-A5)

คลิกดูรายละเอียดพิเศษที่นี่
http://poodangsiam.com/puimodbin.html
ว่านชักมดลูก ตราปูแดง 
ช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับเสริมหน้าอก 
บำรุงผิวพรรณนวลเนียนให้สดใส 
กระชับช่องคลอด มดลูกเข้าอู่
ช่วยแก้ปัญหามดลูกที่ทรุดตัว 
ลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกชีสต์ 
ลดเนื้องอก ลดปวดประจำเดือน
ลดกลิ่นภายในช่องคลอด
สมาชิกราคาลดพิเศษ 10-30%
(รหัสสินค้า D6-D10)

คลิกดูรายละเอียดพิเศษที่นี่
http://poodangsiam.com/wan.html
ไคโตซานแคปซูล ตราปูแดง
ช่วยดักจับไขมันส่วนเกินจากอาหาร
ช่วยต่อต้านมะเร็ง ช่วยขับสารพิษ
ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรีย 
ลดโคลเลสเตอรอล ลดความดัน
ลดไขมันได้อย่างดี ช่วยการขับถ่าย
กระตุ้นให้เกิดการสร้างกระดูกใหม่
ลดความดันโลหิต ฟื้นฟูสภาพผิวดี 
สมาชิกราคาลดพิเศษ 10-30%
(รหัสสินค้า D11-D14)
คลิกดูรายละเอียดพิเศษที่นี่ 
http://poodangsiam.com/chitosancapsule.html
ปูแดงไคโตซาน ชนิดผง
สูตรพิเศษผสมอาหารเสริมพืช สำหรับพืชทุกชนิด ใช้งานง่าย ช่วยเร่งการเจริญเติบโต พืชโตเร็ว แข็งแรง มีภูมิต้านทาน ช่วยกระตุ้นให้พืชกินปุ๋ยได้ดีเยี่ยม
สมาชิกราคาลดพิเศษ 10-30%
(รหัสสินค้า A10-A17)

คลิกดูรายละเอียดพิเศษที่นี่ 
www.poodangsiam.com/chitosanpowder.html
ปูแดงไคโตซานพืช ชนิดน้ำ
สารไบโอโพลิเมอร์ชีวภาพ 
กระตุ้นให้พืชกินปุ๋ยเจริญเติบโตได้ดี 
ทำให้พืชแข็งแรง มีภูมิต้านทานโรค 
ปลอดสารพิษ 100% ลดการใช้เคมี
สมาชิกราคาลดพิเศษ 10-30%(รหัสสินค้า A18-A23)
คลิกดูรายละเอียดพิเศษที่นี่
http://poodangsiam.com/Chitosan.html
ปูแดง ลูบริแค้นท์ ทรีทเม้นท์ 
Polarized Lubricant Treatment

ช่วยประหยัดน้ำมัน ลดความร้อน
ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ 
เพิ่มความทนทาน เพิ่มอัตราเร่ง
ยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
สมาชิกราคาลดพิเศษ 10-30%
(รหัสสินค้า B12-B14)

คลิกดูรายละเอียดพิเศษที่นี่
http://poodangsiam.com/OilLubricant.html
ซุปเปอร์สมุนไพรปูแดง ชนิดน้ำ
ช่วยไล่แมลงศัตรูพืช ปลอดภัยไม่มีสารพิษตกค้าง ป้องกันศัตรูพืช แมลง หนอน เพลี้ย เชื้อรา ทดแทนการใช้ สารเคมีจากต่างประเทศ
สมาชิกราคาลดพิเศษ 10-30%
(รหัสสินค้า A36-A41)

คลิกดูรายละเอียดพิเศษที่นี่ 
http://poodangsiam.com/Samunpri.html
อินทรีย์ปูแดง ชนิดน้ำ
สารอาหารเสริมพืชทางใบ ขั้วเหนียว ผลดกโตสม่ำเสมอ เร่งใบเขียวเข้ม กิ่งก้านอวบ ป้องกันผลแตกร่วง ทดแทนการใช้ฮอร์โมน
สมาชิกราคาลดพิเศษ 10-30%
(รหัสสินค้า A30-A35)

คลิกดูรายละเอียดพิเศษที่นี่ 
http://poodangsiam.com/Insi.html
ครีมย้อมสีผม สีดำ/น้ำตาล 
โอมาร์ ชารีฟ 60 คัลเลอร์ ครีม Omar Sharif 60 Color Cream ไม่มีกลิ่นฉุน ใช้งานง่าย ติดทนนาน เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผมอย่างรวดเร็ว สีผมสวยเข็ม ติดทนนานเป็นพิเศษ สวยดุจใยไหม ไม่มีส่วนผสมของเคมี ทำจากธรรมชาติ 100% ใช้เวลาเพียง 60 วินาที
สมาชิกราคาลดพิเศษ 10-30%
(รหัสสินค้า C19-C24)

คลิกดูรายละเอียดพิเศษที่นี่ 
http://poodangsiam.com/omarsarif.html
ปูแดงไคโตซานสัตว์ ชนิดน้ำ
สำหรับสัตว์ทุกชนิดช่วยให้การย่อย อาหารดูดซึมได้สมบูรณ์ ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานโรค สัตว์โตเร็ว สมบูรณ์ ได้น้ำหนักดี  สมาชิกราคาลดพิเศษ 10-30%(รหัสสินค้า A24-A29) คลิกดูรายละเอียดพิเศษที่นี่ http://poodangsiam.com/chitosananimal.html

ว่านชักมดลูก ตราปูแดง
ใช้ได้ตั้งแต่สตรีที่เริ่มเป็นประจำเดือน หรือ สตรีวัยแต่งงานหรือมีบุตรแล้ว และสตรีวัยทอง ช่วยให้ไม่มึนหัว หน้ามืด อ่อนเพลีย สำหรับสาวประเภท2 สามารถใช้ได้ทำให้ มีผิวนวล สดใส ลดกลิ่นอับต่างๆ สิว ฝ้า บนใบหน้าจะจางลง และค่อยๆหมดไป

ปัญหาสตรี
1.ปวดท้องเวลามีประจำเดือน
2.ปวดหลัง เนื่องจากประจำเดือนตกค้าง
3.อาการหน้ามืด เวียนหัว ปวดหัว
4.น้ำหนักตัวมาก (หน้าท้องกลมเหมือนคนตั้งท้อง)
5.มีกลิ่นภายใน ติดเชื้อง่าย คัน
6.มีตกขาว
7.มีซีดส์ เนื้องอก
8.มีลมออกช่องคลอด
9.กล้ามเนื้อหย่อนยาน ผิวไม่สวย ผิวหยาบสาก
10.ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และฉี่ไม่สุด
11.ปัสสาวะขัด มดลูกไหลปิดปากช่องคลอด
12.มีสิวเยอะ หน้ามัน หน้าเป็นฝ้าดำ เหยี่ยวรอบตาคล้ำ แก่ก่อนวัย
13.แท้งลูก ติดลูกยาก
14.มีกลิ่นตัวแรง มีกลิ่นปาก ผมร่วง เล็บไม่แข็งแรง
15.หงุดหงิดง่าย ไม่มีอารมณ์ทางเพศ
16.และมีปัญหาการเงิน เงินไม่พอใช้จ่าย

ยาว่านชักมดลูก ตราปูแดง 
ราคาสมาชิก 580 บาท ราคาปลีกข้างกล่อง 680 บาท (คะแนน 100PV)

สรรพคุณข้างกล่อง : 
แก้ปวดท้องประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่ปกติ หน้าอกเต่งตึง ก้นกระชับ ช่องคลอดกระชับ ผิวใส เนียนเรียบเต่งตึง ขับเลือดตกค้างและของเสียภายในมดลูก ช๊อคโกแลตซี๊ด หน้าท้องเล็กลง,แก้ปัญหามดลูกผิดปกติ มดลูกต่ำ ,ระดูตกขาว กลิ่นในช่องคลอด ขับน้ำคาวปลา เราช่วยคุณได้ค่ะ !!! ด้วยผลิตภัณฑ์จากบริษัทชื่อดังอย่าง ปูแดงโคไตซาน การันตีคุณภาพได้เลยค่ะ ว่าคุณภาพต้องมาก่อนอย่างแน่นอนเพื่อคุณลูกค้าผู้หญิง

ส่วนประกอบสำคัญข้างกล่อง: ว่านชักมดลูก ว่านมหาเมฆ โกฐเชียง เอี้ยะบ้อเช่า เมล็ดพริกไทยดำ และตัวยาตัวอื่น ๆ ทะเบียนยาเลขที่ G670/54 ยาว่านชักมดลูก ตราปูแดง 1 ขวด บรรจุ 30 แคปซูล

คำเตือน: สตรีมีครรภ์ หรือ ให้นมบุตรไม่ควรรับประทาน ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ และของหมักดอง 

ว่านชักมดลูก สรรพคุณ
ตามตำรายาแผนโบราณว่า เหง้า รสฝาดเฝื่อน ชักมดลูกให้เข้าอู่ แก้มดลูกพิการ แก้ปวดมดลูก แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ขับน้ำคาวปลา แก้ธาตุพิการอาหารไม่ยอย แก้ริดสีดวงทวาร แก้ไส้เลื่อน ปรุงยาแก้โรคกระเพาะอาหาร ลำไส้ แก้โรคมะเร็ง และฝีภายในต่างๆ

ว่านมหาเมฆ สรรพคุณ
ช่วยรัดมดลูก กระชับช่องคลอด สมานแผลหลังผ่าตัดคลอดลูก ปรับสภาพมดลูกให้มีโอกาสตั้งครรภ์ บำรุงเต้านมให้เต่งตึง แก้ปวดมดลูก แก้มดลูกอักเสบ ขับระดูขาว แก้ฝ้าหน้าดำ ขับน้ำคาวปลาแทนการอยู่ไฟ เพิ่มน้ำนมสำหรับเลี้ยงทารก บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง

โกฐเชียง หรือ ตังกุย สรรพคุณ
มีรสเผ็ดอมหวาน อุ่น มีฤทธิ์บำรุงเลือด ทำให้เลือดหมุนเวียน รักษาโรคที่เลือดในระบบหัวใจและตับพร่อง (มีอาการหน้าซีดเหลือง วิงเวียน ใจสั่น) การไหลเวียนของเลือดติดขัด (มีอาการประจำเดือนไม่ปกติ ปวดประจำเดือน ประจำเดือนไม่มา) เลือดพร่องต่าง ๆ เช่น การไหลเวียนของเลือดติดขัดและมีความเย็นจับ (มีอาการเลือดคั่ง ฟกช้ำ ช้ำใน ปวดไขข้อ ไขข้ออักเสบ) ให้ความชุ่มชื้นกับลำไส้ (ลำไส้แห้ง ร้อน ท้องผูก) และมีฤทธิ์ระงับปวด รักษาโรคแผลฝีหนอง ลดอาการบวม แก้ปวด เป็นต้น นอกจากนี้แพทย์แผนจีนนิยมใช้ในตำรับยาเกี่ยวกับโรคทางนรีเวช เช่น ใช้เป็นยาขับระดู แก้รกตี ขึ้น ขับรกและแก้ไข้ในเรือนไฟ ยาเกี่ยวกับอาการเลือดออกทุกชนิด แก้หวัด แก้ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ ตกมูก เลือด

เอี้ยะบ้อเช่า สรรพคุณ
มีสรรพคุณช่วยให้เลือดเวียนดีขึ้น ปรับประจำเดือน ขับปัสสาวะ บรรเทาอาการบวม ช่วยกระตุ้นและเสริมแรงหดตัวคลายตัวของมดลูก และยังทำให้มดลูกหดตัวเร็วขึ้นด้วย จึงใช้สำหรับการช่วยให้มดลูกเข้าอู่หลังคลอดและลดน้ำคาวปลา ทั้งยังใช้บำรุงครรภ์และขับทารกที่เสียชีวิตในครรภ์ ขจัดอาการห้อเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นและช่วยปรับประจำเดือนในสตรี

เมล็ดพริกไทยดำ สรรพคุณ
แก้ลมจุกเสียด แน่น ท้องอืดเฟ้อ ช่วยขับลม ขับเสมหะ ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ บำรุงธาตุแก้อาการอาหารไม่ย่อย ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ระงับอาเจียน ผ่อนคลายอาการไม่สบายจากอาหารเป็นพิษจากอาหารทะเลและเนื้อสัตว์

http://www.poodangsiam.com/wan.html



การเลือกไคโตซานที่มีคุณภาพดี

ปัจจุบันนี้มีสินค้าที่ทำจากไคโตซานจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดมากมายหลายบริษัท แต่ละบริษัทก็มีสูตรที่คล้ายกันบ้างหรือบางบริษัทก็มีสูตรที่เฉพาะเจาะจงของบริษัทนั้นๆ แต่พื้นฐานของสินค้าทั้งหมดก็มาจากไคโตซานเหมือนกัน ที่จริงนั้นสินค้าที่ทำจากไคโตซานที่มีคุณภาพดีนั้นต้องมาจาก
1.ขั้นตอนการคัดเลือกวัตถุดิบที่ดี
2.การเลือกใช้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลเหมาะสมกับจุดประสงค์ของแต่ละการใช้งาน
3.วิธีการผสมและความสะอาดของการผลิต

1.ขั้นตอนการคัดเลือกวัตถุดิบที่ดี
วัตถุดิบที่ดีสำหรับการทำไคโตซานควรจะเป็นของสด เช่นเปลือกกุ้งสด, เปลือกปูสด ระหว่างที่นำมาผลิตต้องเก็บในอุณหภูมิไม่เกิน4 องศาเซลเซียส ขั้นตอนในการสกัดโปรตีนออกมาต้องสกัดให้หมด เนื่องจากถ้ามีโปรตีนเหลือจะทำให้ไคโตซานเน่าเสียได้เมื่อทำเป็นสารละลาย ต้องสกัดแคลเซี่ยมและแร่ธาตุออกให้หมดเพื่อให้มีปริมาณกากเหลือน้อยที่สุดเพื่อที่จะได้ไคตินที่มีคุณภาพดี เมื่อนำไปผลิตต่อจะได้ไคโตซานคุณภาพดีที่สุด ไคโตซานที่มีคุณภาพดีควรมีค่า DD (DEGREE OF DEACETYLATION) มากกว่า90ขึ้นไป ค่าDDเป็นค่าที่แสดงให้เห็นว่าไคโตซานที่มีค่าDDสูงมากจะละลายได้ดีมากมีส่วนที่เป็นกากน้อย สารละลายที่ได้จะมีความใสสะอาดมาก ตรงกันข้ามกับไคโตซานที่มีค่าDDต่ำจะละลายยากและมีความขุ่นมาก สารละลายที่ได้จะไม่ใสสะอาดเนื่องจากมีกากและส่วนที่ไม่ละลายมาก ไม่เหมาะกับการนำมาใช้ผสมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการคุณภาพ เช่น อาหารคน , อาหารกุ้ง , สารเสริมภูมิคุ้มกันพืชทางใบ แต่สามารถนำไคโตซานที่มีค่าDDต่ำมาใช้เป็นปุ๋ยผสมดิน , บำบัดน้ำเสียได้เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้ไคโตซานที่มีค่าDDสูงนัก
ดังนั้นไคโตซานที่มีคุณภาพดีจะสังเกตุได้จากค่าDDที่สูง(ถ้าสามารถขอใบรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์จากผู้ขายได้จะดีมาก) มีเนื้อสารละลายที่ใสสะอาด , ไม่มีตะกอนและผลิตมาจากบริษัทที่เชื่อถือได้ว่ามีความชำนาญมีกรรมวิธีการผลิตที่สะอาดได้มาตรฐาน เนื่องจากไคโตซานที่ไม่บริสุทธิ์เมื่อนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจะเน่าเสียเร็ว มีความขุ่นสูง ละลายยากไม่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป

2.การเลือกใช้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลเหมาะสมกับจุดประสงค์ของแต่ละการใช้งานความต้องการใช้ไคโตซานในแต่ละจุดประสงค์นั้นขึ้นกับน้ำหนักโมเลกุลของไคโตซานซึ่งไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลน้อยจะมีสายสั้น ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลมากจะมีสายยาว ในธรรมชาติไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่างๆจะคัดมาจากแต่ละส่วนของอวัยวะของกุ้ง,ปู ซึ่งเปลือกของกุ้ง ปูแต่ละส่วนเมื่อทำเป็นไคโตซานเรียบร้อยแล้วจะมีน้ำหนักโมเลกุลไม่เหมือนกันเปลือกกุ้ง ปูที่ถูกเก็บมาอย่างดีด้วยความเย็นจัดจะให้น้ำหนักโมเลกุลที่สม่ำเสมอมากกว่าเปลือกกุ้งปูตากแห้งที่ไม่ได้เก็บด้วยความเย็น เปลือกที่ตากแห้งจะมีเศษโปรตีนปนเปื้อนมากกว่าเปลือกสดจะทำให้ได้ไคโตซานที่มีคุณภาพต่ำกว่าการใช้เปลือกกุ้ง ปูสดมาผลิต

จุดประสงค์ในการคัดเลือกไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่างๆมาใช้งานก็เพื่อที่จะต้องการให้ไคโตซานมีประสิทธิ์ภาพสูงที่สุดเหมาะกับจุดประสงค์นั้นๆเช่นเมื่อต้องการใช้เคลือบเม็ดอาหารจะใช้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงและน้ำหนักโมเลกุลปานกลางเป็นส่วนใหญ่ ถ้าต้องการใช้กับพืชจะต้องใช้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำมากๆหรือต้องนำไคโตซานไปย่อยอีกครั้งให้เป็นหน่วยย่อยระดับโอลิโกเมอร์เพื่อที่ไคโตซานจะได้ถูกต้นไม้ดูดซึมได้ทางปากใบหรือแทรกซึมเข้าเซลล์ของพืชได้อย่างรวดเร็ว ไคโตซานที่เป็นหน่วยย่อยนี้จะต้องถูกออกแบบให้มีขนาดพอเหมาะที่จะเข้าไปทำงานที่ผนังเซลล์และหน่วยของไคโตซานที่เล็กมากๆจะทะลุทะลวงเข้าไปจนถึงนิวเคลียสของเซลล์พืชเพื่อควบคุมการทำงานของระบบสร้างภูมิคุ้มกันของพืชให้สร้างสารต่างๆที่ช่วยป้องกันพืชจากสิ่งรบกวนภายนอกเช่น แมลง แบคทีเรีย และ เชื้อรา ที่เข้ามาทำลายพืชนั้นๆ ถ้าต้องการใช้ไคโตซานในการเคลือบผัก ผลไม้เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาควรจะใช้ไคโตซานที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงมากๆเนื่องจากไคโตซานจะกลายเป็นฟิล์มที่มีความเหนียวแน่นสูง เคลือบผักผลไม้ได้ดี ฟิล์มไคโตซานไม่ฉีกขาดง่าย

3. วิธีการผสมและความสะอาดของการผลิต
ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยไคโตซานในแต่ละสูตรนั้นมีวิธีการผสมที่ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการใช้งานและคุณสมบัติของสารละลายไคโตซานที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับ
1) กรดอินทรีย์แต่ละชนิดที่ใช้ทำละลายไคโตซาน
2) กรรมวิธีการละลายไคโตซาน
3) อุณหภูมิที่ใช้ขณะทำการละลาย
4) ภาชนะที่ใช้ทำละลาย
5) การควบคุมไอออนของโลหะในสารละลาย
6) การกำจัดแบคทีเรียและเชื้อราที่ปนเปื้อนในสารละลาย
7) การควบคุมการผสมโดยผู้เชี่ยวชาญ

สารละลายไคโตซานที่ดีนั้นจะต้องมีความใสสะอาดสูง ปราศจากฝุ่นผงและกากของไคติน ไม่มีกลิ่นเหม็น มีความข้นเหนียวเหมาะสม กระบวนการทำละลายใช้อุณหภูมิที่เหมาะสมในภาชนะปลอดสนิม ใช้น้ำที่ปราศจากไอออนในการทำละลายและผ่านขบวนการการกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียด้วยความร้อน ขั้นตอนทั้งหมดควรถูกควบคุมโดยผู้ผลิตที่เชี่ยวชาญชำนาญและมีประสบการณ์เกี่ยวกับไคโตซานเป็นเวลานาน

http://www.poodangsiam.com/whatis.html
ไคโตซาน คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และนำไปใช้ในอุตสาหกรรมใดได้บ้าง
ไคโตซาน เป็นไบโอโพลิเมอร์ธรรมชาติอย่างหนึ่ง ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญในรูปของ D – glucosamine สามารถพบเจอได้จากธรรมชาติ ซึ่งเป็นองค์ประกอบอยู่ในเปลือกนอกของสัตว์พวก กุ้ง ปู แมลง และเชื้อรา และ เป็นสารธรรมชาติที่ มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว คือ เป็นวัสดุชีวภาพ ( Biometerials ) สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติ ซึ่งมีความปลอดภัยในการนำมาใช้กับมนุษย์โดยไม่เกิดผลเสียและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เกิดอาการแพ้ ไม่เป็นวัตถุไวไฟและไม่เป็นพิษต ( non – phytotoxic ) ต่อพืช นอกจากนี้ยังส่งเสริมการเพิ่มปริมาณของสิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ต่อพืชและสัตว์

ไคโตซาน เป็นสารอาหารเข้มข้นชนิดน้ำ เป็นสารไบโอโพลีเมอร์ชีวภาพ ที่สกัดมาจากธรรมชาติ 100% ไร้สารเคมี และเป็นสารปรับสภาพดินและน้ำ ซึ่งช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืช ช่วยเพิ่มผลผลิตพืชทุกชนิด และช่วยเร่งการเจริญเติบโตของสัตว์เลี้ยง และสัตว์ทุกชนิด ข้อดีคือ ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ หรือผู้บริโภค ไม่มีพิษตกค้าง และอีกทั้ง ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับ นาข้าว พืชไร่ พืชผัก ไม้ผล ไม้ยืนต้น กล้วยไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ ฯลฯ และสัตว์ทุกๆชนิด

http://www.poodangsiam.com/whatis.html
ประโยชน์ที่เด่นชัดของไคโตซานสำหรับสัตว์

1. ใช้คลุกเคล้าอาหารสัตว์ โดยในกรณีการคลุกกับอาหารสัตว์น้ำเพื่อนำไปหว่านในบ่อ จะทำให้อาหารละลายช้า ทำให้ลดอัตราการให้อาหารและความถี่ลงได้ ทำให้บ่อเน่าเหม็นช้าลง
2. ดักจับสารพิษและหยุดยั้งฤทธิ์ของเชื้อโรคที่ปนเปื้อนในอาหารสัตว์ลง รวมทั้งน้ำในบ่อน้ำที่ใช้เลี้ยงสัตว์น้ำด้วย
3. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยอาหารของทั้งสัตว์น้ำและสัตว์บก
4. เสริมสร้างภูมิต้านทานโรค สัตว์กินแล้วแข็งแรงไม่ป่วยง่าย ลดการใช้ยาปฏิชีวนะ วัคซีนและสารเคมี
5. สัตว์กินไคโตซานแล้ว อัตราการเจริญเติบโตจะสูงขึ้น สุขภาพดี เนื้อแน่น ผิวสวย สะอาด น้ำหนักดี เป็นที่ต้องการของตลาดและผู้บริโภค ที่สำคัญคือปลอดสารพิษและปลอดภัย 100%
6. ในกรณีสัตว์น้ำ จะช่วยบำบัดน้ำเสียไปด้วย ช่วยให้น้ำใสสะอาด สัตว์น้ำมีสุขภาพแข็งแรง ผิวสะอาด ไม่มีกลิ่นโคลนตม อัตราการรอดเยอะ
7. ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของสัตว์ และลดอาการท้องเสียของสัตว์ทุกชนิด เช่น ไก่, เป็ด, สุกร, วัว, แพะ, แกะ, ม้า, กบ, เต่า, ตะพาบน้ำ เป็นต้น

http://www.poodangsiam.com/chitosananimal.html
ปุ๋ย หมายถึง สารที่ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน 
และกล่าวในภาพรวมว่า ปุ๋ย คือสารอนินทรีย์ หรือ สารอินทรีย์ ซึ่งมีธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืช สารนี้จะมาจากธรรมชาติหรือเป็นสารสังเคราะห์ก็ได้

การจำแนกปุ๋ยตามชนิดสารประกอบ
ปุ๋ยเคมี 
คือ ปุ๋ยที่เป็นอินทรีย์สาร อาจเป็นปุ๋ยเชิงเดี่ยว ปุ๋ยเชิงผสมและปุ๋ยเชิงประกอบ ตัวอย่างปุ๋ยเคมีได้แก่ ยูเรีย,ปุ๋ยเม็ด 16-20-0 แต่ไม่รวมถึงสารที่ใช้สำหรับปรับปรุงดิน เช่น ซีโอไลต์ ,ภูไมท์ และ สารต่างๆที่มีคุณสมบัติโครงสร้างทางฟิสิกส์ของดินให้ดีขึ้น

ปุ๋ยอินทรีย์ 
คือ ปุ๋ยที่ทำมาจากอินทรียวัตถุโดยกรรมวิธีทำให้ชื้น สับ บด หมัก ร่อน หรือวิธีการอื่นๆ แต่ไม่ไช่ปุ๋ยเคมี และ ปุ๋ยชีวภาพืซื่งเน้นไปในเรื่องของปุ๋ยหมัก

ปุ๋ยชีวภาพ 
คือ การนำจุลินทรีย์ที่มีชีวิต มาใช้เพื่อเพิ่มปริมาณธาตุอาหาร หรือ เพิ่มความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารในดิน ปุ๋ยชีวภาพอาจมีบทบาทในการปรับปรุงบำรุงดินทางชิวภาพ ทางกายภาพและทางชีวเคมี และปุ๋ยชีวภาพยังหมายความรวมถึง หัวเชื้อจุลินทรีย์

การจำแนกปุ๋ยตามชนิดของธาตุอาหาร 
ปุ๋ยธาตุหลัก คือ ปุ๋ยที่มีธาตุหลักเป็นองค์ประกอบ ซึ่งแบ่งเป็น ปุ๋ยไนโตรเจน ปุ๋ยฟอสฟอรัส ปุ๋ยโพแทสเซียม และปุ๋ยที่มีธาตุหลักมากกว่า 1 ธาตุ
ปุ๋ยธาตุรอง คือ ปุ๋ยที่มีธาตุรองหนึ่งธาตุหรือมากกว่าหนึ่งธาตุ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม กำมะถัน

ปุ๋ยธาตุอาหารเสริม คือ ปุ๋ยที่มีจุลธาตุเป็นองค์ประกอบ มี 2 ประเภท
- ปุ๋ยจุลธาตุอนินทรีย์ คือ สารประกอบอนินทรีย์ที่ให้จุลธาตุ เช่น สังกะสี เหล็ก ทองแดง
- ปุ๋ยคีเลต คือ สารคีเลตที่มีจุลธาตุพวกโลหะเป็นองค์ประกอบ เช่น เหล็ก

การจำแนกจากจำนวนธาตุหลัก
ปุ๋ยเชิงเดี่ยว คือ ปุ๋ยเคมีที่มีธาตุอาหารหลักเพียงธาตุเดียว ได้แก่ ปุ๋ยไนโตรเจน,ปุ๋ยฟอสเฟต,ปุ๋ยโพแทช
ปุ๋ยเชิงผสม คือ ปุ๋ยเคมีได้ที่จากการผสม ปุ๋ยชนิดต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ธาตุอาหารตามต้องการ
ปุ๋ยเชิงประกอบ คือ ปุ๋ยเคมีที่ทำขึ้นด้วยวิธีทางเคมี และ มีธาตุอาหารหลักอย่างน้อยสองธาตุขึ้นไป

http://www.poodangsiam.com/Soil.html
ฮิวมิค (สมบัติทางกายภาพ) 
ฮิวมิค จะช่วยทำให้ดินให้อุ้มนํ้าและระบายอากาศได้ดี ช่วยทำให้ดินที่มีแรงยึดเหนี่ยวสูงทำให้ระบบรากของพืชที่จะดูดซึมแร่ธาตุอาหารได้ยาก ฮิวมิค จำไปทำ ลายแรงยึดเหนี่ยว ซึ่งก็จะทำ ให้ชั้นดินมีความโปร่งขึ้น ส่งผลให้นํ้าและอากาศหมุนเวียนถ่ายเทได้ดีขึ้นนอกจากนั้น ฮิวมิค สามารถป้องกันไม่ให้นํ้าระเหยไปจากดิน ซึ่งเป็นผลดีสำหรับดินที่มีความเป็นดินเหนียวตํ่า ดินทราย และดินในพื้นที่แห้งแล้ง ที่ไม่สามารถจะดูดซับนํ้าไว้ได้เมื่อดินที่มีลักษณะดังกล่าวมีนํ้าผ่านเข้า มา นํ้าก็จะระเหยออกจากดินน้อยลงหรือสามารถอุ้มนํ้าได้มากขึ้น

ฮิวมิค (สมบัติทางเคมี) 
ฮิวมิค มีประสิทธิภาพในการดูดซับธาตุอาหารและปลดปล่อยธาตุอาหารเหล่านั้นให้แก่พืช อย่างช้าๆเพื่อให้พืชได้นำมาใช้ประโยชน์ในด้านการเจริญเติบโต การออกดอกออกผล และฮิวมิค ยังสามารถดูดประจุบวกของธาตุอาหารเสริมและจะปลดปล่อยธาตุอาหารเมื่อ ฮิวมิค อยู่ใกล้บริเวณรากของพืช ธาตุอาหารเสริมเหล่านั้นก็จะถูกปล่อยออกมาจาก ฮิวมิค เข้าไปสู่ระบบรากเพื่อที่จะได้ลำเลียงไปยังส่วนต่างๆของพืชต่อไป

ประโยชน์ ฮิวมิค 
- มีความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุสูง ช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารต่างๆได้ดี
-ช่วยเพิ่มปริมาณธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืช อาหารรองค่อนข้างครบถ้วน
- ช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ในดินที่เป็นประโยชน์กับพืชให้มากขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช
- ช่วยป้องกันการชะล้างหน้าดิน ทำให้ดินร่วนซุย ไม่อัดตัวแน่นเกินไป
------------------------------------------
http://www.poodangsiam.com/puimodbin.html
"ไคโตซาน" เป็นไบโอโพลิเมอร์ธรรมชาติอย่างหนึ่ง ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญในรูปของ D – glucosamine พบได้ในธรรมชาติ 
โดยเป็นองค์ประกอบอยู่ในเปลือกนอกของสัตว์พวก กุ้ง ปู แมลง และเชื้อรา เป็นสารธรรมชาติที่มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว คือ ที่เป็นวัสดุชีวภาพ ( Biometerials ) ย่อยสลายตามธรรมชาติ ไคโตซาน มีความปลอดภัยในการนำมาใช้กับมนุษย์ ไม่เกิดผลเสียและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ไคโตซาน ไม่เกิดการแพ้ ไม่ไวไฟและไม่เป็นพิษ ( non – phytotoxic ) ต่อพืช นอกจากนี้ยังส่งเสริมการเพิ่มปริมาณของสิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์

ไคโตซาน กับการเกษตรด้านการควบคุมศัตรูพืช
1. ยับยั้งและสร้างความต้านทานโรคให้กับพืช 
การยับยั้งเชื้อสาเหตุของโรคพืช ได้แก่ เชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราบางชนิด โดย ไคโตซาน จะซึมผ่านเข้าทางผิวใบ ลำต้นพืช ช่วยยับยั้งการเกิดโรคพืชในกรณีที่เกิดเชื่อโรคพืชแล้ว (รักษาโรคพืช) และสร้างความต้านทานโรคให้กับพืชที่ไม่ติดเชื้อ โดย ไคโตซาน มีคุณสมบัติที่สามารถออกฤทธิ์เป็นตัวกระตุ้น (elicitor) ต่อพืชได้ จะกระตุ้นระบบป้องกันตัวเองของพืช ทำให้พืชผลิตเอนไซม์และสารเคมีเพื่อป้องกันตนเองหลายชนิดพืชจึงลดโอกาสที่จะ ถูกคุกคามโดยเชื่อสาเหตุโรคพืชได้

2. ทำให้เกิดโอกาสการสร้างความต้านทานของพืชต่อแมลงศัตรูพืช 
ไค โตซาน จะกระตุ้นให้มีการผลิตสารลิกนินและแทนนินของพืชมากขึ้น พืชสามารถป้องกันตัวเองจากการกัด – ดูด ทำลายของแมลงศัตรูพืช จะสังเกตุว่าต้นพืชที่ได้รับ ไคโตซาน จะมีแวกซ์เคลือบที่ผิวใบ

3. ช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน 
ไคโตซาน สามารถส่งเสริมการเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน เช่น เชื้อ Actiomycetes sp. Trichoderma spp. ทำให้เกิดการลดปริมาณของจุลินทรีย์ที่เป็นเชื้อโรคพืช เช่น เชื้อ ( Furarium ) Phythophthora spp. ฯลฯ

รายชื่อศัตรูพืชที่มีการทดสอบแล้วว่าไคโตซานมีศักภาพในการควบคุม
1. การกระตุ้นให้พืชมีความต้านทานแมลง
ศัตรูพืช คือ หนอนใยผัก หนอนคืบและอื่น ๆ
การใช้ การพ่นทางใบ ลำต้น (ขึ้นกับส่วนที่ศัตรูพืชอาศัยอยู่)
อัตราการใช้ 10 – 20 ซีซี / น้ำ 20 ลิตร2.

2. การยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อสาเหตุโรคพืช 
- ไวรัสโรคพืช และ แบคทีเรีย เช่น แคงเคอร์ ใบจุด
- เชื้อรา เช่น เชื้อไฟทอปธอร่า พิเทียม ฟิวซาเรียม Botrytis cineres Rhizopus stolonifer
- แอนแทรคโนส เมลาโนส ราน้ำค้าง ใบติด ราขาว รากเน่า โคนเน่า ใบจุด โรคใบสีส้ม ใบลาย
------------------------------------------------------
ไคโตซานน้ำ
http://www.poodangsiam.com/Chitosan.html
ไคโตซานผง
http://www.poodangsiam.com/chitosanpowder.html
แร่ภูเขาไฟ หรือ ชื่อในทางภาษาวิชาการเรียกกันว่า แร่ภูเขาไฟ หรือ ซีโอไลท์ คือกลุ่มของหินเดือด
, หินที่ผ่านความร้อนเป็นล้าน ๆ องศา หินที่ผ่านความร้อนจนสุกและพองขยายตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่หินที่ระเบิดออกมาจากภูเขาแล้วนำมาบดขายกัน ซึ่งหินดังกล่าวนี้จะไม่ค่อยได้คุณภาพ แต่ก็มักจะกล่าวอ้างกันว่า เช่น ซีโอไลท์ เนื้อเบา (Diatomite) บ้าง ซีโอไลท์ เนื้อหนัก (Kaolinite) บ้าง หินดิบเหล่านี้ไม่มีความสามารถในการจับหรือแลกเปลี่ยนประจุบวกได้ เพราะไม่มีความโปร่งพรุน ทำให้ไม่สามารถที่จะจับตรึงปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกให้เป็นปุ๋ยละลายช้าได้ (Slow release Fertilizer) และยังมี ซิลิก้า, ซิลิคอน, หรือ ซิลิสิค แอซิด ที่ละลายน้ำได้ในปริมาณที่น้อยมาก ๆ จึงไม่เพียงพอที่จะนำไปเป็นประโยชน์ต่อพืช

แร่ภูเขาไฟ หินลาวา ซีโอไลท์ หรือ หินเดือด มีแร่ธาตุที่ละลายน้ำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซิลิก้าที่มีโครงสร้างเคมีอยู่ในรูปของ H4sio4 จึงเป็นประโยชน์ที่สำคัญอย่างยิ่งกับพืช

ประโยชน์
1.ใช้ฉีดพ่นเพื่อทำให้พืชแข็งแรง ซีโอไลท์ ผง ประมาณ 200-300 กรัมละลายในน้ำ 20 ลิตร ทิ้งไว้หนึ่งคืนแล้วกรองแยกตะกอนไปใส่ต้นไม้ เอาแต่น้ำมาฉีดพ่นพืชให้เปียกทั่วถึงทุกส่วน
2.ใช้หว่านลงดินก่อนปลูก ให้พืชที่จะปลูกบนดินได้รับ ซิลิก้า ตั้งแต่เริ่มดูดน้ำหรือเริ่มการเจริญ หรือเริ่มงอก ใช้ หว่านลงผิวดินแล้วพรวนกลบ หรือจะหว่านลงในแปลงนาทำการลูบหรือคราดให้จมแล้วจึงหว่านเมล็ด หรือใส่รองก้นหลุม เคล้ากับดิน แล้วจึง ปลูกพืช หรือ หยอดเมล็ด
3.ใช้ใส่หลังปลูก ใช้วิธีโรยเป็นแถวข้าง ๆ ต้น เช่นข้าวโพด หรือหว่านบริเวณใต้ทรงพุ่มต้นของพืช พืชผักต้นเล็กปลูกติดกันแน่นให้หว่านด้วยชนิดเม็ด
4.ใช้คลุกผสมใส่ลงไปพร้อมกับ ปุ๋ย โดยใช้ปุ๋ยเคมี 5 ส่วนพรมน้ำพอชื้น แล้วเอา แร่ภูเขาไฟ หรือ ซีโอไลท์ คลุกผสมให้ผงติดเม็ดปุ๋ยทุกเม็ด จะช่วยทำให้ปุ๋ยกลายเป็นปุ๋ยละลายช้า

5. ลดการสูญเสียปุ๋ย ปรกติปุ๋ยเคมีที่ขายในไทยถูกกำหนดให้ละลายทันทีทั้ง 100 % ดังนั้นถ้าฝนตกมาก รดน้ำมาก ปุ๋ยละลายออกมา สารจะมีความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุบวก จะจับปุ๋ยไว้ทั้งแอมโมเนียม และโปแตสเซียมให้กลายเป็นปุ๋ยละลายช้า
6. ทำลายสารพิษในดินและในน้ำ สารพิษตกค้างที่มีผลในการลดการเจริญของพืชมักเป็นสารกำจัดวัชพืช
7. เพิ่มคุณภาพผลผลิต จาการมีซิลิก้าที่ผิวพืชมากขึ้นทำให้พืชผัก แข็ง กรอบ อร่อยขึ้น เก็บรอการขายได้นานขึ้น ช้ำน้อย คุณภาพสูงขึ้นแทบทุกด้าน ยกเกรดของสินค้าให้สูงขึ้น ราคาก็ดีขึ้นด้วย.แม้ผลไม้ก็มีคุณภาพดีขึ้นเช่นกัน
8. ลดแมลงและไส้เดือนฝอยในดิน หว่านบาง ๆ ลงบนดินบริเวณที่มีมด ปลวก เสี้ยนดิน ตัวอ่อนของด้วง หมัดกระโดด ไส้เดือน ไส้เดือนฝอย หอยบก ก็จะลดน้อยลง
9.ใช้ทำลายสารพิษตกค้างในอาหารสัตว์ ผสมให้สัตว์กินตามปรกติ อัตราการตายของ หมู เป็ด ไก่ ลดลง มีการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
10.ใช้เพิ่มผลผลิตเห็ด ใช้ ผสมในขี้เลื่อยหรือวัสดุดิบเพาะ ไม่ต้องใช้จิบซั่มและปูนขาว นำไปเพาะเห็ดตามปรกติ รดบนกองและดินรอบกองจนเปียกชุ่ม จะลดไรเห็ดลง มด ปลวก ไส้เดือนฝอย และกลิ่นลงได้ ผลผลิตเห็ดเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและคุณภาพ
------------------------------------------------------
http://www.poodangsiam.com/Soil.html