วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
คะแนนโหวตรวม: / 0
ไม่น่าสนใจเยี่ยมมาก เคล็ดลับแห่งความสำเร็จ
"การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผลิต หรือนำเข้า เพื่อจำหน่าย ต้องได้รับอนุญาตจากอย. เพื่อประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ก่อน ดังนั้น จึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ที่แสดงฉลากถูกต้อง มีเลขสารบบอาหาร อ่านข้อมูลของผลิตภัณฑ์ จากฉลากที่ได้รับอนุญาต ไม่ควรเชื่อข้อมูลจากการโฆษณาของผู้จำหน่ายที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในฉลาก"


หากท่านเป็นผู้ที่กำลังตัดสินใจว่า จะใช้หรือไม่ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ลองพิจารณาหัวข้อต่อไปนี้ ประกอบการตัดสินใจ


1.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำเป็นหรือไม่?

ถ้าหากในแต่ละวันเราได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ ครบถ้วนเพียงพอ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องได้รับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เนื่องจากการรับประทานสารสกัดเข้มข้น อาจทำให้เราได้รับอันตรายจากผู้บริโภคสารนั้น ในปริมาณ มากเกินไปได้

2.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีประโยชน์จริงหรือ?

การพิจารณาคำถามนี้ ควรยึดหลักที่ว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมิใช่ ยารักษาโรค คุณค่าผลิตภัณฑ์อาจไม่ชัดเจน ดังนั้น ผู้บริโภคต้องดูงานวิจัย และผลการศึกษาทดลองที่เชื่อถือ ได้หากไม่สามารถตัดสินใจตรงนี้ได้ สามารถสอบถามมายังสายด่วน อย. 1556 หรือสอบถามแพทย์ และเภสัชกรได้ บางครั้งการขายตรงทำให้ผู้บริโภค เข้าใจผิดว่า สามารถป้องกันและรักษาโรคได้ ทำให้ละเลยการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง และเสียโอกาสที่จะได้รับการศึกษาอย่างถูกต้องเหมาะสม

3.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปลอด ภัยไหม?

แม้ว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารส่วนใหญ่จะได้มาจากธรรมชาติ แต่อาจให้เกิดการแพ้ หรือมีผลข้างเคียงจากการรับประทานได้ ซึ่งกรณีที่มีผลข้างคียง จะต้องมีคำเตือนระบุไว้ที่ฉลาก เช่น กรณีคำเตือนสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ชนิดน้ำมันปลา คือ ห้ามใช้ในผู้แพ้ปลาทะเล หรือน้ำมันปลา และควรระวังในผู้ที่เลือดแข็งตัวช้า หรือผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือแอสไพริน นอกจากนี้ อาจเกิดจากความไม่ปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน เช่น การปนเปื้อนของโลหะหนัก

4.ราคาเหมาะสมหรือไม่?

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกชนิดอาจมีราคาแพง ดังนั้น ผู้บริโภคจึงต้องประเมินความจำเป็น ในการบริโภค โดยดูความเหมาะสม ประโยชน์ที่ได้รับ กับเงินที่ต้องเสียไป เพราะตามปกติ เราสามารถได้รับสารอาหารจากอาหารหลัก ที่รับประทานประจำวัน โดยรับประทานอาหารให้หลากหลายครบทุกหมู่ อย่างเช่นการรับประทานผักสด ผลไม้สด ก็จะได้คุณค่าที่มาพร้อมกับความอร่อย ในราคาที่ถูกกว่า เมื่อตัดสินใจว่า จะใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ท่านต้องพิจารณาว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดใด โดยมีหลักการเลือกดังนี้ ท่านรู้สึกว่าขาด และ/หรือต้องการสารอาหารตัวใดเพิ่มเติม เช่น ซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมันปลา สำหรับผู้ที่ต้องการกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น โอเมก้า 3 หรือต้องการเพิ่มใยอาหาร เพื่อช่วยเพิ่มกากในระบบขับถ่าย แต่ไม่ทานผักหรือผลไม้ ท่านก็สามารถหา ซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทใยอาหารเสริมได้การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผลิตหรือนำเข้าเพื่อจำหน่าย ต้องได้รับอนุญาตจากอย. เพื่อประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ก่อน ดังนั้น จึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่แสดงฉลากถูกต้องมีเลขสารบบอาหาร อ่านข้อมูลของผลิตภัณฑ์จากฉลากที่ได้รับอนุญาต ไม่ควรเชื่อข้อมูลจากการโฆษณา ของผู้จำหน่ายที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในฉลาก ข้อห้ามใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ท่านต้องศึกษาว่าโรคประจำตัวที่ท่านเป็นอยู่ เป็นข้อห้ามใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ

หรือต้องระมัดระวังการใช้เป็นพิเศษหรือไม่ ผลข้างเคียงที่ระบุไว้ที่ฉลาก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นๆ ท่านรับประทานได้หรือไม่ การบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะต้องบริโภคในปริมาณที่กำหนดไว้ในฉลาก อย่าบริโภคให้มากกว่านั้น และจะต้องไม่ละเลยการดูแลสุขภาพควบคู่ไปด้วย ซึ่งถ้าหากมีโรคประจำตัวอื่นจะต้องไม่ลืมที่จะแจ้งให้แพทย์ทราบ ว่าใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวใดอยู่ เพื่อให้ได้รับการดูแลหรือรักษาโรคอย่างเหมาะสม และได้รับประโยชน์สูงสุด จากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น

ที่มา : http://www.siamturakij.com

ระบบพีระมิด คือ อะไร

ระบบพีระมิด คือ อะไร
คะแนนโหวตรวม: / 0
ไม่น่าสนใจเยี่ยมมาก เคล็ดลับแห่งความสำเร็จ
ประชาชนจำนวนมากได้ตกเป็นเหยื่อและสูญเสียเงินเป็นจำนวนหลายล้านบาทไปกับระบบพีระมิด เหยื่อหลายรายรู้ว่าตนเองกำลังเล่นการพนัน (แต่หารู้ไม่ว่าตนกำลังจะตกหลุมพรางซึ่งวางไว้ก่อนแล้ว) หลายคนคิดว่าตนกำลังจ่ายเงินในการก่อตั้งธุรกิจเล็กๆ ของตนเอง บุคคลเหล่านี้ถูกหลอกให้เข้าใจผิดว่าระบบพีระมิด ซึ่งเป็นระบบจอมปลอมนั้น เป็นระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย

จุดประสงค์ของบทความนี้ ก็เพื่อช่วยให้ท่านหลีกเลี่ยงจากการตกเป็นเหยื่อของระบบพีระมิด ซึ่งเปรียบเหมือนระบบธุรกิจสุนัขจิ้งจอกในคราบลูกแกะ ที่พรางตัวเพื่อล่อหลอกนักลงทุนและพร้อมกันนั้น ก็หลบเลี่ยงกฎหมายนั่นเอง

>> ระบบพีระมิดคืออะไร

ระบบพีระมิดเป็นระบบที่ผิดกฎหมาย ซึ่งคนเป็นจำนวนมากที่อยู่ระดับฐานพีระมิด จะต้องจ่ายเงินให้กับคนเพียง ไม่กี่คน ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุด และเพื่อจะได้รับกำไรจากการจ่ายเงินของสมาชิกใหม่ที่เพิ่งเข้ามาร่วม

การเข้าร่วมในระบบพีระมิดนี้ ท่านอาจจะต้องจ่ายเงินในการลงทุนพอประ มาณ ไปจนถึงการจ่ายเป็นจำนวนหลายพันบาท สมมติว่า เงินจำนวน 10,000 บาท สามารถซื้อตำแหน่งได้จากฐานของพีระมิดส่วนแบ่ง 5,000 บาท เป็นของโปรโมเตอร์ที่อยู่ในระดับยอดของพีระมิด ถ้ามีผู้เข้าร่วมในระบบเต็มครบ 16 ช่องในระดับฐานของพีระมิด โปรโมเตอร์ก็จะรับเงินเป็นจำนวนถึง 160,000 บาท ส่วนท่านและคนในระดับฐานจะสูญเงินไปคนละ 10,000 บาท เมื่อโปรโมเตอร์ได้รับเงินแล้ว ช่องตำแหน่งของเขาจะหลุดออกไปและช่องในแถวที่สอง ก็จะเลื่อนขึ้นเป็นระดับยอดของพีระมิดแทน ทั้งสองคนนี้ก็จะได้ผลกำไร และเพื่อที่จะจ่ายให้สองคนบนยอดพีระมิดคราวนี้ ผู้ดำเนินธุรกิจจะต้องขยายฐานให้ใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า คือ 32 คน และดำเนินการรับสมาชิกใหม่ต่อไป

ในแต่ละครั้งที่ระดับถัดไปก้าวขึ้นสู่ยอดของพีระมิด ต้องมีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นที่ฐานของพีระมิดเสมอ ซึ่งขนาดของแต่ละระดับจะใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า ถ้ามีผู้เข้าร่วมจำนวนมากพอ ท่านและคนอื่นๆ ที่อยู่ในระดับเดียวกับท่านอีก 15 คน ก็อาจจะก้าวขึ้นสู่จุดยอดของพีระมิด

อย่างไรก็ตาม ท่านจะได้รับผลกำไรก็ต่อเมื่อมีคนใหม่เข้าร่วมอีก 512 คน โดยครึ่ง หนึ่งของคนกลุ่มนี้จะต้องจ่ายเงินกันคนละ 10,000 บาท ระบบพีระมิดนี้มีโอกาสจะล้มละลายลงก่อนที่ท่านจะก้าวขึ้นสู่จุดยอดของพีระมิด การที่จะให้ทุกคนในพีระมิดได้รับผลกำไรนั้นจำเป็นที่จะต้องมีผู้เข้าร่วมอย่างไม่ขาดสาย แต่ความจริงแล้วคนที่จะเข้ามาร่วมระบบด้วยมักจะมีจำนวนจำกัด ดังนั้น ผู้ที่จะเข้าร่วมระบบรายใหม่จึงมีโอกาสน้อยลงในการหาสมาชิกรายใหม่อันหมายถึงโอกาสอย่างสูงที่จะสูญเสียเงินที่จ่ายไปก่อนแล้ว

>> สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับระบบพีระมิด

1.ระบบพีระมิดเป็นระบบสูญเสีย ระบบพีระมิดยึดรากฐานจากการคำนวณอย่างง่ายๆ ผู้สูญเสียเป็นจำนวนมากจ่ายเงินให้กับผู้ได้เพียงไม่กี่คน

2.ระบบพีระมิดเป็นระบบหลอกลวงผู้เข้าร่วมในระบบพีระมิดจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม เป็นผู้ที่กำลังหลอกลวงสมาชิกรายใหม่ที่รับสมัครเข้ามา จะมีคนเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่อาจจะเข้าร่วมระบบถ้าพวกเขาได้รับคำอธิบายให้ทราบถึงข้อเสียเปรียบของระบบนี้

3.ระบบพีระมิดเป็นระบบที่ผิดกฎหมายการดำเนินระบบพีระมิดใดๆ มีการเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

>> เหตุใดยังมีผู้ยินยอมจ่ายเงินเพื่อเข้าร่วมในระบบพีระมิด

ตัวผู้เป็นต้นความคิดระบบพีระมิดนั้นมีความสามารถในการใช้จิตวิทยาอย่างยิ่งการประชุมรับสมัครสมาชิกใหม่ โปรโมเตอร์จะสร้างบรรยากาศที่เร้าใจอาศัยแรงกดดันภายในกลุ่มและคำสัญญาที่จะให้เงินตอบแทนอย่างง่ายดายโดยใช้ความโลภของมนุษย์และความกลัวที่จะสูญเสียโอกาสงดงามชักนำให้ผู้เข้าร่วมคล้อยตาม โดยโปรโมเตอร์จะพยายามหลีกเลี่ยงการตอบคำถามและข้อคิดเห็นต่างๆ จึงเป็นการยากมากที่ผู้เข้าร่วมประชุมจะรอดพ้นได้ นอกจากท่านจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าเป็นการวางพรางไว้ดักท่านเท่านั้น

>> ระบบพีระมิด สุนัขจิ้งจอกในคราบลูกแกะ

เนื่องจากมีข้อบังคับทางกฎหมายที่ควบคุมอยู่ โปรโมเตอร์ในระบบพีระมิดจึงพยายามจะทำให้ระบบของเขาดูเหมือนว่าเป็นระบบการตลาดหลายชั้น ระบบการตลาดหลายชั้นเป็นการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งใช้เครือข่ายของผู้จำหน่ายอิสระในการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อที่จะให้ดูมีลักษณะคล้ายคลึงกับระบบการตลาดหลายชั้น ระบบพีระมิดจะผลิตสินค้าขึ้นมาประเภทหนึ่ง และอ้างว่าตนเองทำธุรกิจโดยการขายสินค้าประเภทนั้นให้กับผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ระบบพีระมิดจะใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยหรือแทบจะไม่ใช้ความพยายามเลยในการขายสินค้าเหล่านั้น

หากแต่จะได้รับผลกำไรจากการรับสมัครสมาชิกใหม่ และผู้จัดจำหน่ายใหม่จะถูกบังคับหรือชักนำให้ซื้อสินค้าเมื่อเริ่มสมัคร ตัวอย่างเช่น ท่านอาจจะต้องซื้อผลิตภัณฑ์ที่แทบจะไม่มีคุณค่าเลยเป็นจำนวน 10,000 บาท เพื่อที่จะเป็น "ผู้จำหน่าย" โดยผู้ที่รับสมัครท่านเข้ามาจะได้รับเงิน 5,000 บาท (คอมมิสชั่นร้อยละ 50) ส่วนอีก 5,000 บาท จะเป็นของผู้ที่อยู่ในระดับสุดยอดของพีระมิด (ในที่นี้หมายถึง "บริษัท") โปรดสังเกตความคล้ายคลึงกันกับระบบพีระมิดดังได้อธิบาย มาแล้ว ถึงกระนั้นก็ตามก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะเปิดโปงระบบพีระมิดนี้ บ่อยครั้งที่ระบบพีระมิดมักจะเลือกสินค้าที่มีต้นทุนในการผลิตต่ำและไม่มีราคาตลาดที่ชัดเจน เช่นสินค้าที่มีคุณสมบัติเป็นที่น่าอัศจรรย์ผิดธรรมดา หรือมีสรรพคุณในการบำบัดรักษาอันน่าทึ่ง หรือสินค้าบริการ เช่นการบริการ พักผ่อน เมื่อเป็นเช่นนี้จึงยากที่จะบอกได้ว่ามีตลาดสำหรับระบบพีระมิด ก็คือ ท่านเรียนรู้วิธีแสวงหาโอกาสการหารายได้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย

>> ระบบการตลาดหลายชั้น

โอกาสในการหารายได้ที่ถูกต้องตามกฎหมายระบบตลาดหลายชั้น เป็นระบบการ ขายปลีกที่ได้รับความนิยมกันในระบบหนึ่ง ซึ่งเป็นการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยผู้จำหน่ายอิสระผู้หญิงและผู้ชาย โดยปกติแล้วจะจำหน่ายให้ลูกค้าถึงบ้าน มิใช่เป็นการจำหน่ายสินค้าภายในห้างร้านโดยพนักงานขายทั่วไป

ในฐานะที่เป็นผู้จำหน่ายท่านมีโอกาสที่จะจัดเวลาทำงานของตนเอง และได้รับรายได้จากการจำหน่ายสินค้าซึ่งผลิตขึ้นโดยบริษัทที่มีความมั่นคงในโครงสร้างของระบบการตลาดหลายชั้น ท่านยังจะมีโอกาสในการสร้างและบริหารทีมการขายของท่านเองด้วยการรับสมาชิกเพิ่มเติม

การสร้างแรงบันดาลใจ การสร้างเสริม และฝึกอบรมสมาชิกเหล่านั้นในการจำหน่ายสินค้า ดังนั้นค่าตอบแทนของท่านจะรวมถึงเปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมทั้งกลุ่มของท่านและรายได้จากการขายปลีกของท่านเองวิธีการเช่นนี้ทำให้ระบบการตลาดหลายชั้นเป็นที่น่าสนใจสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินเพียงจำนวนเล็กน้อย


ที่มา : http://www.siamturakij.com

ระบบพีระมิด คือ อะไร

ระบบพีระมิด คือ อะไร
คะแนนโหวตรวม: / 0
ไม่น่าสนใจเยี่ยมมาก เคล็ดลับแห่งความสำเร็จ
ประชาชนจำนวนมากได้ตกเป็นเหยื่อและสูญเสียเงินเป็นจำนวนหลายล้านบาทไปกับระบบพีระมิด เหยื่อหลายรายรู้ว่าตนเองกำลังเล่นการพนัน (แต่หารู้ไม่ว่าตนกำลังจะตกหลุมพรางซึ่งวางไว้ก่อนแล้ว) หลายคนคิดว่าตนกำลังจ่ายเงินในการก่อตั้งธุรกิจเล็กๆ ของตนเอง บุคคลเหล่านี้ถูกหลอกให้เข้าใจผิดว่าระบบพีระมิด ซึ่งเป็นระบบจอมปลอมนั้น เป็นระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย

จุดประสงค์ของบทความนี้ ก็เพื่อช่วยให้ท่านหลีกเลี่ยงจากการตกเป็นเหยื่อของระบบพีระมิด ซึ่งเปรียบเหมือนระบบธุรกิจสุนัขจิ้งจอกในคราบลูกแกะ ที่พรางตัวเพื่อล่อหลอกนักลงทุนและพร้อมกันนั้น ก็หลบเลี่ยงกฎหมายนั่นเอง

>> ระบบพีระมิดคืออะไร

ระบบพีระมิดเป็นระบบที่ผิดกฎหมาย ซึ่งคนเป็นจำนวนมากที่อยู่ระดับฐานพีระมิด จะต้องจ่ายเงินให้กับคนเพียง ไม่กี่คน ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุด และเพื่อจะได้รับกำไรจากการจ่ายเงินของสมาชิกใหม่ที่เพิ่งเข้ามาร่วม

การเข้าร่วมในระบบพีระมิดนี้ ท่านอาจจะต้องจ่ายเงินในการลงทุนพอประ มาณ ไปจนถึงการจ่ายเป็นจำนวนหลายพันบาท สมมติว่า เงินจำนวน 10,000 บาท สามารถซื้อตำแหน่งได้จากฐานของพีระมิดส่วนแบ่ง 5,000 บาท เป็นของโปรโมเตอร์ที่อยู่ในระดับยอดของพีระมิด ถ้ามีผู้เข้าร่วมในระบบเต็มครบ 16 ช่องในระดับฐานของพีระมิด โปรโมเตอร์ก็จะรับเงินเป็นจำนวนถึง 160,000 บาท ส่วนท่านและคนในระดับฐานจะสูญเงินไปคนละ 10,000 บาท เมื่อโปรโมเตอร์ได้รับเงินแล้ว ช่องตำแหน่งของเขาจะหลุดออกไปและช่องในแถวที่สอง ก็จะเลื่อนขึ้นเป็นระดับยอดของพีระมิดแทน ทั้งสองคนนี้ก็จะได้ผลกำไร และเพื่อที่จะจ่ายให้สองคนบนยอดพีระมิดคราวนี้ ผู้ดำเนินธุรกิจจะต้องขยายฐานให้ใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า คือ 32 คน และดำเนินการรับสมาชิกใหม่ต่อไป

ในแต่ละครั้งที่ระดับถัดไปก้าวขึ้นสู่ยอดของพีระมิด ต้องมีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นที่ฐานของพีระมิดเสมอ ซึ่งขนาดของแต่ละระดับจะใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า ถ้ามีผู้เข้าร่วมจำนวนมากพอ ท่านและคนอื่นๆ ที่อยู่ในระดับเดียวกับท่านอีก 15 คน ก็อาจจะก้าวขึ้นสู่จุดยอดของพีระมิด

อย่างไรก็ตาม ท่านจะได้รับผลกำไรก็ต่อเมื่อมีคนใหม่เข้าร่วมอีก 512 คน โดยครึ่ง หนึ่งของคนกลุ่มนี้จะต้องจ่ายเงินกันคนละ 10,000 บาท ระบบพีระมิดนี้มีโอกาสจะล้มละลายลงก่อนที่ท่านจะก้าวขึ้นสู่จุดยอดของพีระมิด การที่จะให้ทุกคนในพีระมิดได้รับผลกำไรนั้นจำเป็นที่จะต้องมีผู้เข้าร่วมอย่างไม่ขาดสาย แต่ความจริงแล้วคนที่จะเข้ามาร่วมระบบด้วยมักจะมีจำนวนจำกัด ดังนั้น ผู้ที่จะเข้าร่วมระบบรายใหม่จึงมีโอกาสน้อยลงในการหาสมาชิกรายใหม่อันหมายถึงโอกาสอย่างสูงที่จะสูญเสียเงินที่จ่ายไปก่อนแล้ว

>> สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับระบบพีระมิด

1.ระบบพีระมิดเป็นระบบสูญเสีย ระบบพีระมิดยึดรากฐานจากการคำนวณอย่างง่ายๆ ผู้สูญเสียเป็นจำนวนมากจ่ายเงินให้กับผู้ได้เพียงไม่กี่คน

2.ระบบพีระมิดเป็นระบบหลอกลวงผู้เข้าร่วมในระบบพีระมิดจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม เป็นผู้ที่กำลังหลอกลวงสมาชิกรายใหม่ที่รับสมัครเข้ามา จะมีคนเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่อาจจะเข้าร่วมระบบถ้าพวกเขาได้รับคำอธิบายให้ทราบถึงข้อเสียเปรียบของระบบนี้

3.ระบบพีระมิดเป็นระบบที่ผิดกฎหมายการดำเนินระบบพีระมิดใดๆ มีการเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

>> เหตุใดยังมีผู้ยินยอมจ่ายเงินเพื่อเข้าร่วมในระบบพีระมิด

ตัวผู้เป็นต้นความคิดระบบพีระมิดนั้นมีความสามารถในการใช้จิตวิทยาอย่างยิ่งการประชุมรับสมัครสมาชิกใหม่ โปรโมเตอร์จะสร้างบรรยากาศที่เร้าใจอาศัยแรงกดดันภายในกลุ่มและคำสัญญาที่จะให้เงินตอบแทนอย่างง่ายดายโดยใช้ความโลภของมนุษย์และความกลัวที่จะสูญเสียโอกาสงดงามชักนำให้ผู้เข้าร่วมคล้อยตาม โดยโปรโมเตอร์จะพยายามหลีกเลี่ยงการตอบคำถามและข้อคิดเห็นต่างๆ จึงเป็นการยากมากที่ผู้เข้าร่วมประชุมจะรอดพ้นได้ นอกจากท่านจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าเป็นการวางพรางไว้ดักท่านเท่านั้น

>> ระบบพีระมิด สุนัขจิ้งจอกในคราบลูกแกะ

เนื่องจากมีข้อบังคับทางกฎหมายที่ควบคุมอยู่ โปรโมเตอร์ในระบบพีระมิดจึงพยายามจะทำให้ระบบของเขาดูเหมือนว่าเป็นระบบการตลาดหลายชั้น ระบบการตลาดหลายชั้นเป็นการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งใช้เครือข่ายของผู้จำหน่ายอิสระในการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อที่จะให้ดูมีลักษณะคล้ายคลึงกับระบบการตลาดหลายชั้น ระบบพีระมิดจะผลิตสินค้าขึ้นมาประเภทหนึ่ง และอ้างว่าตนเองทำธุรกิจโดยการขายสินค้าประเภทนั้นให้กับผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ระบบพีระมิดจะใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยหรือแทบจะไม่ใช้ความพยายามเลยในการขายสินค้าเหล่านั้น

หากแต่จะได้รับผลกำไรจากการรับสมัครสมาชิกใหม่ และผู้จัดจำหน่ายใหม่จะถูกบังคับหรือชักนำให้ซื้อสินค้าเมื่อเริ่มสมัคร ตัวอย่างเช่น ท่านอาจจะต้องซื้อผลิตภัณฑ์ที่แทบจะไม่มีคุณค่าเลยเป็นจำนวน 10,000 บาท เพื่อที่จะเป็น "ผู้จำหน่าย" โดยผู้ที่รับสมัครท่านเข้ามาจะได้รับเงิน 5,000 บาท (คอมมิสชั่นร้อยละ 50) ส่วนอีก 5,000 บาท จะเป็นของผู้ที่อยู่ในระดับสุดยอดของพีระมิด (ในที่นี้หมายถึง "บริษัท") โปรดสังเกตความคล้ายคลึงกันกับระบบพีระมิดดังได้อธิบาย มาแล้ว ถึงกระนั้นก็ตามก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะเปิดโปงระบบพีระมิดนี้ บ่อยครั้งที่ระบบพีระมิดมักจะเลือกสินค้าที่มีต้นทุนในการผลิตต่ำและไม่มีราคาตลาดที่ชัดเจน เช่นสินค้าที่มีคุณสมบัติเป็นที่น่าอัศจรรย์ผิดธรรมดา หรือมีสรรพคุณในการบำบัดรักษาอันน่าทึ่ง หรือสินค้าบริการ เช่นการบริการ พักผ่อน เมื่อเป็นเช่นนี้จึงยากที่จะบอกได้ว่ามีตลาดสำหรับระบบพีระมิด ก็คือ ท่านเรียนรู้วิธีแสวงหาโอกาสการหารายได้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย

>> ระบบการตลาดหลายชั้น

โอกาสในการหารายได้ที่ถูกต้องตามกฎหมายระบบตลาดหลายชั้น เป็นระบบการ ขายปลีกที่ได้รับความนิยมกันในระบบหนึ่ง ซึ่งเป็นการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยผู้จำหน่ายอิสระผู้หญิงและผู้ชาย โดยปกติแล้วจะจำหน่ายให้ลูกค้าถึงบ้าน มิใช่เป็นการจำหน่ายสินค้าภายในห้างร้านโดยพนักงานขายทั่วไป

ในฐานะที่เป็นผู้จำหน่ายท่านมีโอกาสที่จะจัดเวลาทำงานของตนเอง และได้รับรายได้จากการจำหน่ายสินค้าซึ่งผลิตขึ้นโดยบริษัทที่มีความมั่นคงในโครงสร้างของระบบการตลาดหลายชั้น ท่านยังจะมีโอกาสในการสร้างและบริหารทีมการขายของท่านเองด้วยการรับสมาชิกเพิ่มเติม

การสร้างแรงบันดาลใจ การสร้างเสริม และฝึกอบรมสมาชิกเหล่านั้นในการจำหน่ายสินค้า ดังนั้นค่าตอบแทนของท่านจะรวมถึงเปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมทั้งกลุ่มของท่านและรายได้จากการขายปลีกของท่านเองวิธีการเช่นนี้ทำให้ระบบการตลาดหลายชั้นเป็นที่น่าสนใจสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินเพียงจำนวนเล็กน้อย


ที่มา : http://www.siamturakij.com


ขายอย่างไร...ให้ลูกค้าอยากซื้อ

ขายอย่างไร...ให้ลูกค้าอยากซื้อ
คะแนนโหวตรวม: / 0
ไม่น่าสนใจเยี่ยมมาก เคล็ดลับแห่งความสำเร็จ
สำหรับกลยุทธ์การขายมีอยู่หลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป สิ่งสำคัญจึงอยู่ที่การนำเอากลยุทธ์ดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของเราได้อย่างไร หลักที่สำคัญอย่างหนึ่งที่พนักงานขายหลายท่านมักจะลืมหรือมองข้ามความสำคัญคือความสับสนระหว่าง "ลักษณะเด่น" กับ "ผลประโยชน์" ของสินค้าหรือบริการ โดยมักจะเน้นเสนอเรื่องลักษณะเด่นของสินค้าและบริการ แต่ลืมที่จะเสนอขายประโยชน์ที่ผู้ซื้อจะได้รับจากลักษณะเด่นนั้นๆ เช่น ถ้าท่านขายถังใส่น้ำที่ทำด้วยสเตนเลส ลักษณะเด่นของสินค้าคือไม่เป็นสนิม แต่ผลประโยชน์ที่ผู้ซื้อจะได้รับคือน้ำสะอาด(ปราศจากสนิม) หรือ อาหารสุขภาพที่ทำด้วยผักปลอดสารพิษ ลักษณะเด่นของสินค้าคือ อาหารที่สะอาดและปลอดภัย แต่ผลประโยชน์ที่ผู้ซื้อจะได้รับคือสุขภาพร่างกายที่ดี อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือ "ประโยชน์ที่เสนอนั้นจะต้องเป็นประโยชน์ที่ลูกค้าต้องการด้วย" ทีนี้เรามาดูกันว่ากลยุทธ์การขายมีอะไรกันบ้างครับ

1. การขายเป็นชุด จะเป็นการขายสินค้าหรือบริการหลายรายการรวมกันเป็นชุดในราคารวมที่ถูกกว่าหากแยกขาย เช่นขายอาหารพร้อมเครื่องดื่ม การขายอาหารหลายๆอย่างรวมกันเป็นเซ็ต การขายแชมพูพร้อมครีมนวด ขายมีดโกนหนวดพร้อมครีมโกนหนวด สำหรับในด้านของการบริการก็มีให้ตัวอย่างอยู่มาก เช่น การขายโปรแกรมสปาแบบเป็นแพ็คเกจ การซื้อตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักในราคาที่ถูกกว่า โปรแกรมการเข้าพักของโรงแรมแบบ 2 คืน 3 วันแถมอาหารเช้าและรถรับส่ง เป็นต้น สำหรับการขายเป็นชุดนี้อาจจะใช้เพื่อระบายสินค้าที่ขายยากหรือตกค้างควบคู่ไปกับสินค้าขายดี หรือเป็นการแนะนำสินค้าใหม่โดยแพ็คคู่ไปกับสินค้าที่ขายอยู่แล้วในปัจจุบัน

2. การเสนอขายเป็นกลุ่ม การขายลักษณะนี้เป็นการเสนอขายสินค้าหรือบริการให้ลูกค้าหลายๆคนในเวลาเดียวกัน ถึงแม้นว่ากำไรเฉลี่ยต่อคนจะต่ำกว่าขายทีละคนแต่สามารถสร้างยอดขายได้สูง อีกทั้งเป็นการประหยัดพนักงานขายและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าบริหารจัดการ เวลา ฯลฯ การขายลักษณะนี้เหมาะสำหรับธุรกิจในด้านการบริการ เช่น โรงแรมหากลูกค้าเข้าพักเป็นหมู่คณะจะได้ห้องพักราคาพิเศษ สถาบันกวดวิชาหากนักเรียนสมัครเป็นกลุ่ม 10 คนจะได้เรียนฟรี 1 คน ร้านอาหารที่เสนอขายอาหารทาน 4 ท่าน จ่ายเพียง 3 ท่าน หรือโทรศัพท์มือถือที่ซื้อเบอร์เป็นกลุ่มแล้วจ่ายค่าโทรฯ ในอัตราเหมาจ่าย เป็นต้น

3. การขายโดยการแลกซื้อ กลยุทธ์นี้คือการให้นำสินค้ารุ่นเก่ามาแลกซื้อสินค้ารุ่นใหม่โดยได้รับส่วนลดพิเศษ หรือให้นำชิ้นส่วนของบรรจุภัณฑ์ของสินค้าที่ใช้แล้วมาแลกซื้อสินค้าชิ้นใหม่ได้ในราคาพิเศษ ผู้ประกอบการอาจจะนำเอากลยุทธ์นี้เข้ามาใช้ในการแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดให้เพิ่มขึ้นได้ โดยให้ลูกค้านำสินค้าเก่ายี่ห้อใดก็ได้มาแลกซื้อสินค้าใหม่ของท่านในราคาพิเศษ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าเปลี่ยนไปใช้สินค้าของคู่แข่งและดึงดูดลูกค้าใหม่ให้มาทดลองใช้สินค้าของท่านได้

4. การขายยกโหล การขายในลักษณะนี้เป็นการเสนอขายสินค้าคราวละมากๆ เช่น ขายคราวละ 6 ชิ้น หรือ 12 ชิ้น กลยุทธ์นี้ใช้มากในสินค้าประเภทของกินของใช้ อาทิ สบู่ขายครั้งละ 3 ก้อน หรือครึ่งโหล แปรงสีฟันแพ็ค 6 ด้ามหรือ 12 ด้าม น้ำอัดลมแพ็คละ 6 กระป๋อง สมุดขายยกโหล เป็นต้น สินค้าที่เหมาะกับกลยุทธ์นี้ควรเป็นสินค้าที่ไม่เน่าเสีย หรือล้าสมัยง่าย เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อเก็บไว้ใช้ได้ สำหรับกลยุทธ์นี้บางทีก็นำมาประยุกต์ให้เกิดความน่าสนใจเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกว่าต้องการสะสมได้ เช่น เครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ทำกระป๋องเป็นคอลเลคชั่นรูปนักฟุตบอลในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก หรือการขายของที่ระลึกในงานเทศกาลพิเศษต่างๆที่ขายสินค้าเป็น คอลเลคชั่นให้ลูกค้าได้ซื้อสะสม เป็นต้น

5. การขายโดยให้กลับมาซื้ออีก กลยุทธ์นี้เหมาะกับสินค้าที่ซื้อง่ายขายคล่อง โดยเฉพาะพวกอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้วิธีที่หากลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำจะสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าหรือครึ่งราคา เช่นร้านที่ขายเครื่องดื่มประเภทกาแฟ น้ำอัดลม พร้อมแก้ว (ซึ่งส่วนใหญ่บวกราคาไว้กับเครื่องดื่ม) แล้วให้ลูกค้านำแก้วมาซื้อใหม่ในราคาครึ่งราคา หรืออาจจะนำไปประยุกต์ใช้เมื่อลูกค้ามารับประทานอาหารในร้านโดยถ้าลูกค้าซื้อน้ำอัดลมเหยือกละ 49 บาท สามารถเติมฟรีได้ตลอด หรือบัตรสะสมแต้มเพื่อทานฟรีในครั้งต่อไป เป็นต้น กลยุทธ์นี้ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อใหม่ และมักจะซื้อสินค้าอื่นไปด้วย เป็นการสร้างความผูกพันทางด้านจิตใจให้ลูกค้าต้องกลับมาซื้อซ้ำ

6. การขายโดยเพิ่มบริการเข้าไปเพื่อให้ราคาขายสูงขึ้น กลยุทธ์นี้คล้ายๆ กับการขายเป็นชุด แต่ผู้ซื้อจะไม่ค่อยรู้สึกว่าจ่ายเพิ่มมากนัก ทั้งนี้บริการที่บวกเพิ่มเข้าไปต้องสอดคล้องเหมาะสมกับสินค้านั้นๆ ผมเชื่อว่าลูกค้าหลายๆท่านเลือกเข้าพักโรงแรมที่มีการบริการที่ดีหากราคาห้องพักต่อคืนต่างกันไม่มากนัก แต่บริการและมาตรฐานห้องพักต่างกันมาก หรืออย่างการเลือกซื้อรถยนต์ก็เช่นเดียวกันการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย รวมทั้งบริการตรวจเช็คและซ่อมบำรุงก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการพิจารณาเลือกซื้อรถยนต์ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งเสมอ อีกตัวอย่างที่น่าสนใจก็คือธุรกิจประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองด้านอุบัติเหตุ ลูกค้ายินดีจ่ายเพิ่มมากขึ้นหากได้รับการบริการที่ดี รวดเร็ว มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น

ทั้งนี้สำหรับธุรกิจ SME การบริการที่ดีก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเพราะสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างท่านและคู่แข่งได้เป็นอย่างดี หากบริการดีและมีความจริงใจให้กับลูกค้าแล้วเชื่อเถอะครับว่า...ลูกค้าสามารถรับรู้ความตั้งใจและความจริงใจของท่านอย่างแน่นอน แล้วลูกค้าก็จะกลับมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากท่านอีกครับ

7. การขายโดยเสนอราคาต่ำหรือต่ำกว่าทุน กลยุทธ์แบบนี้ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่นิยมใช้ในการแข่งขันกันมาก โดยนำสินค้าบางรายการมาขายในราคาต่ำมากๆ (แต่มีจำนวนจำกัด) เพื่อล่อใจให้ลูกค้าเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าโดยหวังยอดขายและกำไรจากสินค้าอื่นๆ หรืออย่างร้านฟาสต์ฟู้ดแฮมเบอร์เกอร์รายหนึ่งที่เคยขายแฮมเบอร์เกอร์บางรายการเพียง 19 บาทหรือไอศกรีมในราคาเพียง 7 บาท เมื่อลูกค้าสั่งเมนูดังกล่าว พนักงานขายก็จะเชียร์ให้ซื้อสินค้าอื่นเพิ่มเติม เช่น น้ำอัดลม มันฝรั่งทอดเพื่อให้ทางร้านมียอดขายและกำไรเพิ่มขึ้น สำหรับท่านที่ทำธุรกิจขายอาหารอาจจะนำ กลยุทธ์นี้มาปรับใช้ได้เช่น ขายบุฟเฟ่ติ่มซำราคา 199 บาท แต่ขายเครื่องดื่มราคาสูง หรือขายสเต็กในราคา 49 บาทแล้วขายเครื่องดื่มในราคาแก้วละ 15 บาท (เครื่องดื่มได้กำไรมากกว่าเท่าตัว) หรือขายน้ำอัดลมแก้วใหญ่ในราคา 35 บาท แล้วให้เติมได้ไม่จำกัด ซึ่งอย่างมากก็เติมได้อีกคนละ 2-3 แก้ว เพราะฉะนั้นอย่างไรก็ไม่ขาดทุน

8. การขายโดยให้จ่ายมัดจำล่วงหน้า กลยุทธ์นี้ทำให้ทราบยอดขายล่วงหน้าเพื่อที่จะได้ผลิตสินค้าให้ได้ทันและครบตามจำนวนที่ต้องการ ไม่เหลือค้างสต๊อก และที่สำคัญเป็นการประกันการชำระเงินจากลูกค้าได้อีกด้วย กลยุทธ์นี้จะใช้ได้ผลดีหากสินค้านั้นมีราคาสูงหรือเป็นสินค้ารุ่นพิเศษ เช่นรถยนต์รุ่นใหม่ สินค้าเทคโนโลยี เป็นต้น

9. การขายโดยให้ผู้ซื้อได้ร่วมทำกุศล กลยุทธ์นี้นอกจากจะสามารถสร้างยอดขายได้แล้วยังเป็นการสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับสินค้าและบริษัทอีกด้วย เช่น การบริจาคเงินจำนวนหนึ่งจากการขายให้องค์กรกุศลต่างๆ หรือกาแฟทุกแก้วที่ลูกค้าดื่มจะเป็นการช่วยบริจาคเงิน 1 บาทเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวเขา หรือย่างเช่นบริษัทน้ำมันหรือบริษัทผลิตปูนซีเมนต์มักจะใช้ กลยุทธ์นี้บ่อยๆ เช่น แคมเปญร่วมสร้างฝายกั้นน้ำ แคมเปญร่วมปลูกป่า เป็นต้น

ท่านผู้อ่านคงจะเห็นแล้วนะครับว่ากลยุทธ์การขายมีหลากหลายรูปแบบและสามารถพลิกแพลงประยุกต์ใช้ได้อีกมากมาย โดยท่านอาจจะใช้มากกว่าหนึ่งกลยุทธ์ร่วมกันตามแต่สถานการณ์ ขอเพียงแต่ให้อ่านความต้องการของลูกค้าให้ออก และดูจังหวะการโต้ตอบจากคู่แข่งให้ดี ก็จะสามารถรักษาฐานลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้าใหม่ได้อย่างแน่นอนครับ

**************************

บทความโดย รัฐวิทย์ ทองภักดี จากเว็บไซต์ www.smethailandclub.com

อัพเดทสุขภาพกับ 17 ความรู้ HOT HOT

อุณหภูมิ และสภาพอากาศในช่วงฤดูร้อนส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่าที่เราเคยคาดคิด และนี่คือความจริงรวมทั้งวิธีรักษาสุขภาพ

อัพเดทสุขภาพกับ 17 ความรู้ HOT HOT

1. ป้องกันอาการขาดน้ำด้วยการดื่มน้ำเปล่าที่สุกแล้ว หรือแบบปรุงแต่งด้วยน้ำตาล เกลือแร่ สมุนไพร เยอะๆ เพราะหน้าร้อนร่างกายภายในจะมีอุณหภูมิสูง และขับเหงื่อออกมามาก จนอาจทำให้คุณช็อกหมดสติ

2. หลีกเลี่ยงน้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัด เพราะอาจทำให้อุณหภูมิในร่างกายเปลี่ยนแปลงเร็วจนไม่สบาย

3. ไม่ควรนอนให้ลมหรือความเย็นโกรก ความร้อนจากแดดทำให้เสียเหงื่อ เสียพลัง เมื่อนอนหลับตากลมในขณะเหงื่อออก จะทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง ถ้าอุณหภูมิภายนอกยังสูงอยู่ แล้วเหงื่อไม่สามารถระบายออกมาได้ จะมีความร้อนสะสมอยู่ข้างใน ทำให้เวียนหัว รู้สึกหนักหัว ไม่สดชื่นแจ่มใส อาจทำให้เป็นหวัดได้

4. อย่างดอาหารเช้า เพราะร่างกายต้องการอาหารเพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญ ซึ่งจะช่วยควบคุมน้ำหนัก ควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้ง ของทอด ของมัน

5. หญิงตั้งครรภ์ ต้องสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด เพื่อป้องกันการกระทบกับความเย็น อาหารที่กินต้องสะอาด ไม่ควรนอนบนสื่อที่เย็น และห่มผ้าคลุมกายเสมอ ระวังอย่าให้เป็นหวัด ห้ามอาบน้ำร้อนจัดหรือเย็นจัดจนเกินไป

6. คนสูงอายุมักมีระบบย่อยที่ไม่ดี และคนที่มีม้ามบกพร่อง ถ้าดื่มน้ำเย็นมากเกินไป จะเกิดความชื้นสะสมในร่างกาย ทำให้ท้องเสีย ติดเชื้อราง่าย ขี้หนาว ปวดหัว ตัวร้อน

7. เลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของ Mexoryl และ Tinosorb เพราะสามารถกรองรังสียูวีเอและยูวีบี ได้ดี เช่น Vichy, Nivea และ Ambre Solaire จาก Garnier

8. หากผิวแสบร้อนจากการโดนแดด บรรเทาได้ด้วยการกินยาแอสไพริน แล้วแช่ตัวในอ่างน้ำอุณหภูมิห้อง ผสม Bath Oil จากนั้นบำรุงผิวด้วยโลชั่นที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ และหลีกเลี่ยงแดดในวันถัดไป

9. ทำสเปรย์บรรเทาผิวไหม้เกรียมอย่างง่ายๆ ด้วย น้ำกรองบริสุทธิ์ 2 ออนซ์ ใส่เอสเซนเชียลออยล์กลิ่นลาเวนเดอร์ 9 หยด กลิ่นเปปเปอร์มินต์ 2 หยด และสเปียร์มินต์ 1 หยด ผสมรวมกันแล้วใส่ในขวดสเปรย์ พกติดตัวและฉีดพรมเมื่อมีอาการ

10. เลือกเครื่องสำอางแบบครีม ที่มีเนื้อแห้งเหมือนแป้ง หากหน้ามันปัดทับด้วยบรอนเซอร์หรือแป้งฝุ่น

11. ควรเลือกใส่เสื้อผ้าเนื้อเบาสบาย ระบายอากาศได้ดีอย่างผ้าฝ้ายธรรมชาติ ที่หลวม ไม่กระชับตัว

12. หลีกเลี่ยงอาหารที่ให้น้ำตาลสูง อย่างอาหารจำพวกแป้ง คาร์โบไฮเดรต และผลไม้รสหวานจัด เพื่อควบคุมระดับพลังงานที่มากเกินไปจนส่งผลต่ออุณหภูมิสูงจากภายในของร่างกาย

13. ป้องกันแมลงกัดต่อยซึ่งมีชุกชุมในฤดูร้อน ด้วยการเลือกทาผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากพืชสมุนไพรธรรมชาติ

14. เลือกแว่นกันแดดขนาดใหญ่ที่ให้การปกปิดมิดชิด กระชับใบหน้า เพื่อป้องกันรังสียูวีบีจากการเกิดต้อกระจกในดวงตา และผิวไหม้เกรียม ริ้วรอยรอบดวงตา

15. อย่าเข้าใจผิดว่ายิ่งเข้มยิ่งดี สีของเลนส์ในแว่นกันแดดไม่ได้ช่วยในการปกป้องรังสี เพราะประสิทธิภาพสำคัญเกิดจากสารเคมีที่เคลือบเพื่อสะท้อนรังสี

16. คอนแทคเลนส์ไม่ช่วยอะไร โดยเฉพาะรุ่นที่เคลมว่าสามารถดูดซับรังสีได้ เพราะอย่างไรก็ด้อยประสิทธิภาพกว่าแว่นกันแดด ดังนั้นจึงไม่อาจใช้แทนกันได้

17. ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่น่าเลือกมากที่สุดในปัจจุบัน ควรมีคุณสมบัติบางเบา ซึมซาบไว ติดทนนาน และมีส่วนผสมของสารประกอบจากไทเทเนียม หรือซิงค์ออกไซด์

ที่มาข้อมูล : นิตยสาร Women Plus