วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

7 เคล็ดลับแก้นิสัยขี้ลืมให้หายขาด

7 เคล็ดลับแก้นิสัยขี้ลืมให้หายขาด
1. ตั้งสมาธิ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลงลืมบ่อยเพราะไม่มีสมาธิ หรือมีสารพัดเรื่องเข้ามาแทรกแซงอยู่ตลอดเวลา อย่าให้มีอะไรมากวนสมาธิบ่อยนัก จัดเวลาช่วงหนึ่งงดรับโทรศัพท์และติดป้ายห้ามรบกวนไว้ที่โต๊ะ หาเวลานั่งเงียบๆ หลับตา หายใจเข้าช้าๆ เพื่อให้เกิดความสงบ

2.จดโน้ต ถ้าทำงานที่มีความซับซ้อนหรือมีหลายงาน ควรรีบโน้ตสั้นๆ ว่าจะทำอะไรต่อไป ส่วนที่ชอบลืมแล้วลืมอีกควรจดโน๊ตต่างๆ เพื่อช่วยเตือนความจำอีกที

3. ใส่ใจ การที่คนเราลืมอะไรบ่อยๆ อาจะเป็นเพราะไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนั้น ถ้าใครพูดอะไรด้วยแล้วลืม หรือจำชื่อคนไม่ค่อยได้ ลองหันมาสนใจตั้งใจฟังสักนิด ก็จะช่วยให้จำได้ดีขึ้น

4. ท่องจำ การท่องเป็นวิธีช่วยจำที่ตรงไปตรงมาที่สุด เด็กนักเรียนจำคำศัพท์ต่างๆ ได้ดีขึ้น เพราะท่องจำเนี่ยแหละ ถ้าหมั่นท่องสิ่งที่ต้องทำบ่อยๆ ได้จากการฟัง ได้ดีขึ้น

5. พูดออกเสียง เคยสังเกตไหมว่าเราสามารถจดจำเรื่องต่างๆ ได้จากการฟัง การพูด ออกมาทำให้เราได้ยินเสียงของตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้จำง่ายขึ้น

6. พูดคุยหรือเล่าให้คนอื่นฟัง ก็เป็นการช่วยจำทางหนึ่ง และการเล่าให้คนอื่นฟังรู้เรื่อง ตัวเราเองต้องเข้าใจเรื่องนั้นอย่างดีและจำได้ดี ถ้าอยากจำเรื่องที่ประชุม สัมมนา หรืออบรมได้ดีขึ้นลองพูดคุยหรือเล่าให้เพื่อนฟัง

7. ทำ mind mapping ถ้าจะทำโครงการต่างๆ ลองเริ่มจากการเขียนแผนผังใส่หัวข้อต่างๆ ลงไป มีหัวข้อหลักและรายละเอียดด้วยก็จะทำให้เห็นภาพรวมทั้งหมดและช่วยจำได้ ที่สำคัญนอนหลับให้พอ ถ้านอนเต็มอิ่มก็จะช่วยให้จำดีขึ้น

สารพัดวิธีมองโลกในแง่ดี (ฉบับวัยรุ่น)

สารพัดวิธีมองโลกในแง่ดี (ฉบับวัยรุ่น)



เพื่อนนินทา :
เพื่อนนินทาเรา แสดงว่าเราต้องมีดีอะไรสักอย่าง จนเพื่อนมันอิจฉา อย่างนี้เราน่าจะภูมิใจตัวเองแทนที่จะไปโกรธเพื่อนคนนั้น พูดง่ายๆ เขาไม่มีจุดเด่นเหมือนเราเขาจึงนินทาว่างั้นเหอะ


ส่งยิ้มให้เธอแล้ว ไม่แยแส :
ยังดี..นะเนี่ย ที่เธอไม่ด่ากลับมา นี่แสดงว่าเธอยังมีน้ำใจดีอยู่บ้าง โอ.. ซาบซึ้งเหลือเกิน ถึงเราจะแห้ว..แต่เราก็ยังประทับใจในความดีของหล่อน


โดนแม่ด่าแต่เช้าตรู่ :
แม่ด่าเรา แสดงว่าแม่ยังรักและห่วงใยเราอยู่ โห..ซาบซึ้งมากเลย อีกอย่างหนึ่งในคำด่าของ แม่ต้องมีอะไรดีๆ ซ่อนไว้แน่ ๆ ไม่อย่างนั้นแม่ไม่ด่าซ้ำ ๆ เรื่องเดิม ๆ อย่างนี้หรอก


ครูสอนไม่รู้เรื่องเลย :
ท้าทายมาก ..ท้าทายมาก นี่หมายความว่าคุณครูกำลังท้าทายเรา ว่าถ้าข้าสอนห่วยๆ แบบนี้ เอ็งจะรู้เรื่องหรือเปล่า อย่างนี้ยอมไม่ได้..เราต้องขวนขวายเอาเอง เพื่อพิสูจน์กึ๋น ให้คุณครูรู้ว่าเรานี้ก็ไม่เบาเหมือนกาน..น


เพื่อนหักหลัง :
ไม่เป็นไร..ขอกันกินมากกว่านี้ แต่น่าสงสารนายนะ เพราะนิสัย ของนาย คงจะทำให้นายต้องเสียเพื่อนไปหมดทุกคนในไม่ช้า เพราะคงไม่มีใครหรอกที่จะไว้ใจคนที่หักหลังเพื่อน.


เพื่อนล้อว่าเสี่ยว :
โห..! ตัวเรานี่มีอะไรดีๆ เยอะแยะ แต่พวกนายกลับมองไม่เห็นคุณค่า สงสัยว่าการมองโลกของพวกนายคงจะมีปัญหาแล้วล่ะ เสียใจด้วยนะ.ที่นายคงหมดโอกาสจะได้คบกับคนดี ๆ อย่างเรา


เช็คเมล์เจอแต่จดหมายขยะชวนดูรูปโป๊ :
ทดสอบ ๆ ทดสอบพลังจิต ถ้าเราลบเมล์พวกนี้ทิ้ง แสดงว่าจิตใจของเราเข้มแข็ง ถ้าเปิดดู ก็อ่อนแอ (เผลอ ๆ โดนหลอกให้เปิดไวรัสอีกต่างหาก อิอิ)


วันหยุดการบ้านเพียบ :
สบายมาก..คุณครูกำลังท้าทายความสามารถของเรา(อีกแล้ว) เรารู้ทันหรอกน่า การบ้านเยอะอย่างนี้เราก็ว่าดีนะ เพราะได้ฝึก ตัวเองให้เป็นคนสู้งานหนัก ถ้าเราสู้ไม่ถอยในวันนี้ อนาคตไปโลด


อกหักอีกแหล่ว :
ไม่เป็นไร ได้เรียนรู้ชีวิต นี่ป็นการพิสูจน์สัจจธรรมอีกครั้งว่า รักแท้คือแม่เรา ว่าแต่ตัวเราเอง คอยปรับปรุงตัวเองให้ดีๆ เหอะ ชีวิตดีขึ้นเดี๋ยวก็มีคนมาชอบเราเองแหละ


รถติดหงุดหงิดๆ :
นั่งสมาธิมันเสียเลย จิตใจสว่างไสว เรียนหนังสือจะได้จำแม่น ง่ายจะตาย หลับตาหายใจเข้าออกลึก ๆ นับ 1 2 3 4 5 ดูลมหายใจ เข้าออกเพลิน ๆ ไม่ต้องไปรอคอยอะไร


โห..ใช้เงินเพลิน :
" เงินหมด ก็อดอย่างเสือ" ดีสิ..จะได้ฝึกนิสัยอดทนสักระยะ หมดเรียบเลย ยังมีคนอื่นที่ทุกข์มากกว่าเราเยอะแยะ ทุกข์ของเรามันแค่เรื่องขี้ผง


เพื่อนมีมือถือ แต่เราไม่มี :
โชคดีแล้วล่ะที่ไม่มี มือถือเนี่ยตัวดูดเงินเลย วัยรุ่นบางคน เมาท์จนล้มละลาย อย่าเห่อไปตามกระแสหน่อยเลย ชีวิตนี้ไม่ได้ดีขึ้นเพราะมือถือหรอกนะ


เราหน้าตี๋ กลม ๆ เหมือนดวงจันทร์ ..อายจัง :
โด่..หล่อจะตาย สมัยก่อนนู้น เขาคลั่งไคล้มาก ขนาดที่เมืองจีน เวลาปั้นพระพุทธรูป เขายังปั้นให้หน้าอูม ๆ เลย จริงอยู่สมัยนี้ เขานิยมคนหน้าตาแบบลูกครึ่งฝรั่ง แต่อีกหน่อยก็เลิกฮิต เชื่อเหอะ ไม่แน่นะ ในอนาคตแฟชั่นหน้าตี๋อาจจะกลับมานิยมอีกก็ด้าย ...อ้อ ! อีกอย่างสมัยนี้ สาว ๆ ที่ฉลาด เขาชอบคนดีมากกว่าคนหล่อ นะจะบอกให้


ชอบเขา แต่เขาไม่ชอบเราง่ะ :
ธรรมดาเลย.. ปิ๊งใครง่าย ๆ มันก็ต้องกิน"แห้ว"ประจำ ที่จริงชีวิตของเรานั้นมีคุณค่ามากนะ จะปล่อยให้เรื่องเล็กๆ แค่นี้มาทำให้ชีวิตของเราไร้ค่าได้อย่างไร ทำตัวเองให้มีค่า ดีกว่า เดี๋ยวก็มีคนดี ๆ มาชอบเราเองหรอกน้า..า


เฮ้อ ! แฟนดูรูปโป๊ประจำ :
ดูเข้าไปเลย..เห็นพระท่านว่าพวกผู้ชายที่ชอบดูรูปโป๊มาก ๆ ชาติหน้าพวกนี้จะไปเกิดเป็นผู้หญิงกันหมด เพราะจิตใจฝักใฝ่แต่รูปร่างผู้หญิง ดีสม..! ชอบเอา เปรียบกันนัก ไปเกิดเป็นผู้หญิงเองเสียบ้าง จะได้รู้สึก (เขาเรียกว่าไป "ที่ชอบๆ" ฮิ ฮิ)


ผิดหวังผลสอบดูหนังสือแทบตายได้แค่ เกรด B :
เรียนแล้วได้วิชาความรู้ มันก็เหมือนทำงานแล้วได้เงินเดือน การได้เกรด A ก็คล้ายๆ กับว่าเราได้โบนัส ทีนี้ถึงเราจะไม่ได้โบนัส มันก็ไม่น่าจะเสียใจอะไร ก้อเราได้เงินเดือนแล้วนี่นา


เข้าคิวซื้อตั๋วหนังอยู่ดีๆ เพื่อนเล่นแซงคิวหน้าตาเฉย :
โถ.. ! น่าสงสาร ยอมเสียนิสัย เพื่อแลกกับตั๋วหนังเพียงใบเดียว


ข้างห้องเปิดเพลงเสียงดังหนวกหูทั้งวัน :
เสียงภายนอกดังสนั่น แต่เสียงภายในเงียบสนิท ถึงเสียงวิทยุจะดังปานใด แต่ใจฉันก็ไม่เคยหงุดหงิด ฉันยังคงทำงานของฉันไปอย่างมีความสุข


คนชอบมาแซวเราว่า"น้องดำ ดอทคอม" :
ผิวอย่างฉันเขาเรียกว่า "คมขำ" ย่ะ หนุ่มๆ ฝรั่งหลงใหลจะตายไป พวกนายคงโดนโฆษณาหลอกแล้วล่ะ "ฉันคือตัวฉัน" ไม่ต้องให้ใครมาจูงจมูกหรอกนะ


เฮ้อ..! ไม่รู้จะทำอะไรดีเซ็ง..ง ระเบิด ! :
" แอ็คทีฟเข้าไว้เพื่อน อย่าให้ความเซ็งเข้าครอบงำ ทำทุกอย่างด้วยความกระฉับกระเฉง หนึ่ง สอง..ๆๆๆ หาอะไรทำให้มันสนุก หนึ่ง สอง... ๆๆ


รู้สึกว่าตัวเองโง่ โดนคนอื่น หลอกอยู่เรื่อย :
นึกว่าตัวเองโง่ ยังดีกว่านึกว่าตัวเองฉลาด พระท่านว่าคนฉลาดคือคนที่รู้ตัวเองว่าโง่นะ (แต่อย่าเผลอไปโดนเขาหลอกอีกล่ะ อิ อิ)


เพื่อนเห็นแก่ตัว กินไหนกินด้วย แต่ไม่เคยช่วยสักบาท :
เฮ้อ..นึกว่าช่วยชีวิตเพื่อน ให้รอดไปได้สักมื้อก็แล้วกัน ได้บุญดีนะ (แหะๆ....แต่นาน ๆ เจอกันสักที ก็แล้วกัน )


กลุ้มใจจัง ไม่มีคนมาจีบ:

"กลุ้มใจ" ไม่มีใคร มันยังดีกว่า "ช้ำใจ" ที่โดนคนมาหลอก มาจีบ ถ้าอยากจะพบรักแท้ มันก็ต้องอดทนไว้ก่อนนะเธอ


หน้าเป็นสิว ไปไหนมาไหน อายเพื่อน :
วัยรุ่นมีสิวน่ารักจะตายไป เออถ้าคนแก่มีสิวสิ ค่อยน่าอายหน่อย พวกบริษัทขายยาแก้สิวทั้งหลายนี่แหละตัวดี ชอบโฆษณาทำร้ายจิตใจวัยรุ่นดีนัก ระวังตัวใว้ดีๆเหอะ ชาติหน้ากรรมสนอง ไปเกิดเป็น "ท้าวแสนปม" ไม่รู้ด้วย อิอิ


ทำตังค์ตกหาย 500 แง..! :
ไม่เป็นไร..คิดเสียว่าเสียค่าหน่วยกิต วิชา"ละเอียดรอบคอบระมัดระวัง" ก็แล้วกัน นี่ถ้าชีวิตเรามีความรอบคอบมากขึ้น เพราะเงิน หายในคราวนี้ ก็นับว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว


พ่อแม่ชอบเห็นเรา เป็นเด็กตลอดชาติ :
ถึงใครจะมองเราว่าเป็นเด็ก แต่เราก็จะเคารพตัวเอง ว่าเรานั้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผู้ใหญ่คือคนที่ไม่ทำอะไรตามใจตนเอง แต่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ใคร่ครวญด้วยสติปัญญา (เอ...ชักยากแฮะ หรือว่าจะยอมเป็นเด็กเหมือนเดิมดีกว่าม้าง...ง )


อิจฉาเพื่อน แฟนมันสวยอะ :
มีแฟนสวยก็ยินดีด้วย แต่เราว่ามีแฟนนิสัยดี ดูแลเอาใจใส่ดี แบบนี้สุดยอดกว่านะ


รักเธอแต่ว่า ไม่กล้าเอ่ยปาก :
อย่างนี้ต้องซ้อมบอกรักกับคนอื่นให้เกิดความเคยชินเสียก่อน พ่อคับ ผมรักคุณพ่อมากคับ .. แม่คับ ผมรักคุณแม่มากคับ .. ไอ้ตูบ ข้ารักเอ็งมากนะ .. เฮ้ย..เจ้าศักดิ์ เรารักนายจริงๆ ว่ะ .. ฯลฯ อิอิ.. ทีนี้พอพูดคล่องแล้ว จึงค่อยไปบอกรักกะเธอ


ช่วยเพื่อนแทบตาย แต่เพื่อนยังคิดร้าย กะเราอีก :
เฮ้อ..คิดว่าช่วยเสือตกน้ำให้รอดตายสักตัวก็แล้วกัน เสือเนี่ยนะ ถึงเราช่วยมัน แต่ถ้าเราเข้าใกล้มัน มันก็กัดเราอยู่ดี คงต้องปล่อยเข้าป่าไป เจ้าเพื่อนคนนี้ก็เหมือนกัน ฉันช่วยแกแค่เอาบุญ แต่คราวหน้าคงไม่ช่วยแล้วล่ะ ปรับปรุงตัวเอง ให้นิสัยดีกว่านี้ก่อน แล้วค่อยมาว่ากันใหม่


พอแฟนเจอคนที่รวยกว่า เธอบอกเลิกกับผมทันที:
อย่างนี้เรียกว่า..โชคดีที่เลิกกัน จริงๆ นะ ..คนที่เห็นเงินทองสำคัญกว่าความรักอย่างเงี้ยะ ขืนได้แต่งงานด้วย รับรองว่าเจอปัญหาตลอดชีวิตแน่ เราโชคดีแล้วล่ะ ที่แคล้วคลาดออกมาได้


เหงามาก ขอบอก :
มองรอบๆ ดู .. อะไรต่ออะไรล้วนแต่เป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือเราทั้งน้าน.น โต๊ะก็เพื่อนเรา เก้าอื้ก็เพื่อนเรา หน้าต่างก็เพื่อนเรา หนังสือก็เพื่อนเรา แก้วน้ำก็เพื่อนเรา ฯลฯ...(สามชั่วโมงผ่านไป) .....ฯลฯ หมาก็เพื่อนเรา ต้นหญ้าก็เพื่อนเรา ท่อระบายน้ำก็เพื่อนเรา ตู้ไปรษณีย์ก็เพื่อนเรา... ฯลฯ .... (ต่อไปอีกห้าชั่วโมง)..... ฯลฯ


เพื่อนกวน ยียวนมาก อยากชกสักที :
โด่..คนกวนๆ แบบนี้ไปที่ไหนก็มีคนอยากชกกันทั้งนั้น เราจะต้องไปชกเองทำไมให้เจ็บมือ เดี๋ยวก็มีคนอื่นชกให้เองแหละ แต่ดูๆแล้วก็น่าสงสารนะ... โถ..! เกิดมาชาตินี้มีแต่คนอยากชก


อยากตัดใจ จากคนรักค่ะ ทรมานใจมาก อยากทำใจให้ไวสุดๆ :
ทุกครั้งที่นึกถึงเขาให้ทำอย่างนี้ดิ " หายใจเข้าลึกๆ นึกถึงเขา(คนนั้น) หายใจออกยาว ๆ สลายภาพของเขาใหัหายไป " แล้วก็พูดในใจว่า "โอ้..! ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ไม่ใช่ของเรา มันเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย " (จับฝึกกรรมฐานเสียเลย อิอิ )


พ่อบังคับผม จะให้สอบเอ็นฯติด ให้ได้..เครียดมาก :
โอเคครับ...ผมจะพยายามเพื่อพ่อ แต่ผมขอเวลาทำอะไรเพื่อตัวผมเองบ้างนะครับ อ้อ..! ถ้าเอ็นฯไม่ติด ก้อไม่ว่ากันนะครับ เพราะสุดฝีมือแล้ว แต่พ่อไม่ต้องห่วงอนาคตของผมหรอกครับ เพราะถึงผมจะเอ็นฯไม่ติด ผมได้เตรียมหนทางของผมไว้แล้ว รับรองไปได้สวยอย่างแน่นอนครับ


นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย :
ฮ้าว..ว (หาว) แล้วส่งกระแสจิตไปยังสัตว์โลกแบบนี้ดิ หนึ่ง.. ฉันรักแมว สอง..ฉันรักหมา สาม..ฉันรักยีราฟ สี่...ฉันรักหนอน ห้า...ฉันรักสิงโต หก...ฉันรักนก เจ็ด.. ฉันรักเม่น.... ฯลฯ ( ส่งความรักไปถึงสัตว์โลกอย่างนี้เรื่อยๆ สักร้อยตัว รับรองประเดี๋ยวก็..คร้อกก..ก)


เพื่อนรักต่อหน้าทำดีกับเรา แต่ลับหลังเผาเรา เซียะไม่มีดี :
ไม่เป็นไร..เราให้อภัย เพราะนายเคยทำดีกะเราไว้เยอะ เอาเป็นว่าถ้านายเลิกนิสัยนี้ได้เมื่อไหร่ เราทั้งสองคน ค่อยมาคบกันใหม่นะ ...สวัสดี ( โห..! เลิกคบเลย )


ท้อใจ อยากโดดตึก : ขืนโดดก็โง่ดิ .. โด่....ชีวิตนี้มันก็แค่แบบฝึกหัดเล่มใหญ่ ปัญหาผ่านมาเดี๋ยวมันก็ผ่านไป มันมาแวะทักทายเราให้ลองแก้ไขดูเท่านั้นเอง แก้ปัญหาไม่ได้ ก็เรียนรู้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอทางออก ยอมแพ้ได้ไง

เพื่อนชอบพูด ข่มเราประจำ : คนมีปมด้อยมาก ๆ ก็อย่างนี้แหละ ชอบข่มคนอื่นให้ด้อย เพื่อตัวเองจะได้เด่น เราไม่ถือสานายหรอก เอาไว้นายเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น นายก็จะรู้เอง

เวลาอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆ รู้สึกประหม่า ๆ ไม่ค่อยเชื่อมั่นในตนเอง : เวลายืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ ให้คิดอย่างนี้ดิ " ฉันคือราชสีห์ผู้สง่างาม ยืนอยู่ท่ามกลาง หมู่สัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย ( ก็เพื่อน ๆ ไง ) นั่น ยีราฟ (คนสูง ๆ ) โน่น ฮิปโป้ (อิ อิ) นู่น เม่น (คนผมแข็ง ๆ) ฯลฯ " ..เดี๋ยวก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมาเองแหละ

เกิดมาจน โธ่ ! คนอย่างเรา : เกิดมาจน ก็ได้เปรียบน่ะสิ เพราะได้มีโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัว ด้วยลำแข้งของตัวเองจริง ๆ ชีวิตจะแข็งแกร่งกว่าคนที่เกิดมาสบาย ๆ ตั้งแต่เด็ก แหม..ได้เปรียบแล้ว ยังมาทำบ่นอีก

เพื่อนจะขายตัวบอกว่าไม่เห็น จะหนักหัวใครเลย : ช่าย..ย ..เราก้อเห็นด้วยกับเธอนะ นั่นไง เจ้า HIV ยังพยักหน้าเห็นด้วยเลย

เรา"นมเล็ก" อยากใหญ่กว่านี้ ทำไงดีอะ : เล็กๆ กระทัดรัด น่ารักนะจะบอกให้ แล้วอีกอย่าง ธรรมชาติของผู้ชายเนี่ย เขาต้องการความอบอุ่น จาก "การดูแลเอาใจใส่" ต่างหาก ไม่ใช่จาก "หน้าอกใหญ่ ๆ "

เรียนหนังสือยังไง ให้เป็นเลิศ และไม่ให้เครียดครับ : คิดอย่างนี้ทุกวัน รับรองเป็นเลิศ "ฉันจะตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง ฉันจะขยันอย่างไม่หยุดหย่อน ฉันจะค้นคว้าด้วยความอยากรู้จริง ๆ และ...ฉันจะไม่แข่งขันกับใคร นอกจากแข่งขันกับตัวเอง "

ไม่รู้เป็นอะไร อยากได้โน่นได้นี่ตลอดเวลาเดียวแต่ไม่มีเงิน แหะๆ : "อยากได้โน่นอยากได้นี่" มีแต่เสียเงินลูก " อยากทำโน่นอยากทำนี่ " ดีกว่า สนุกดี แฮปปี้ตลอดวัน แถมไม่ต้องเสียเงินสักบาท

แง ...เพื่อนไม่สนใจเราเลย ทำดีเอาใจทุกอย่างแล้วนะ: ทำดีเพื่อให้คนอื่นมาสนใจ มันก็เ******่ยวแห้งอย่างนี้แหละเธอเป็นแม่พระดีกว่านะ... ดูแลเพื่อน ๆ เหมือนอย่างกับแม่ที่ดูแลลูก ให้ความอบอุ่นอย่างทั่วถึง แล้วแอบยิ้มอยู่คนเดียวเงียบ ๆ ....เฮ้อ ! เห็นคนอื่นมีความสุข แล้วก้อสบายใจ

ถ้าหนูจะต้องทำในสิ่ง ที่ตัวเองไม่อยากทำ เช่น ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน (อ้าว ! ) ทำยังไงไม่ให้ขี้เกียจ : ให้คิดดูว่า เราจะได้อะไรจากงานที่ทำนี้บ้าง คิดไปเรื่อย ๆ จนเกิดความรู้สึก "อยากทำ" เช่น "ล้างส้วม" เราได้อะไรบ้าง โห !เยอะแยะ
๑."ได้ออกกำลัง" ดีจังเรายิ่งอ้วน ๆ อยู่ด้วย
๒."ได้เสียสละ" เพื่อพ่อแม่จะได้เข้าห้องน้ำอย่างมีความสุข
๓. "ได้ฝึกอดทน" โตขึ้นเราจะได้แข็งแกร่ง ลุยได้ทุกที่
๔. "ได้บุญ" ใครเห็นห้องน้ำสะอาด เขาก็จะสบายใจ เราก้ออิ่มบุญ
ฯลฯ ..(คิดไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก้อทนไม่ไหว อยากจะไปทำเองแหละ)

ช่วยตัวเองบ่อยมากทำไงให้ลดลง : เบรคตัวเองแรง ๆ ดิ เช่น .. " ไม่คุ้มเลย.. สุขวูบเดียว เพลียไปทั้งวัน ...มันก็แค่อร่อยเหมือนแทะเนื้อติดกระดูก แทะยังไงก็ไม่อิ่ม ... ไม่มีปัญญาคิดสร้างสรรค์ความสุขอื่น ๆ แล้วหรือไง ถึงได้จมอยู่แต่เรื่องพวกนี้ ... เราวุ่นกับมัน มันก็วุ่นกับเรา ไม่เป็นอิสระสักที " ฯลฯ (ถ้าคิดแล้วยังเอาไว้ไม่อยู่ ก็ตามบายเหอะ มันไม่เสียหายอะไรนักหรอก)

คืนนี้ อยู่คนเดียว กลัวผีอะ บรื๋วว..ว์ นี่พวกผี ตอนนี้ฉันกำลังสวดนะโม ตัสสะ ฯ อยู่นะ เตือนไว้ก่อนว่าพระพุทธเจ้าท่านกำลังประทับอยู่ในใจฉัน ผีตัวไหนอย่าอุตริโผล่ขึ้นมาหลอกล่ะ บาปกรรมหัวแตกเป็นเจ็ดเสี่ยงไม่รู้ด้วยนะเออ

คนตามจองล้างจองผลาญ กลั่นแกล้งเราไม่ยอมเลิก : " เจ้ากรรมนายเวร" ภาค ๒ ชัวร์ !! อย่างนี้ยิ่งตอบโต้ยิ่งเกมยาว (ถึงชาติหน้า) เจ๊ากันไปดีกว่า เอาเป็นว่าจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เรื่อยๆ ศัตรูได้ส่วนบุญเยอะ ๆ เดี๋ยวก็เลิกรากันไปเองแหละ

กระเป๋ารถเมล์สายที่นั่งประจำ พูดจาไม่สุภาพ ฟังแล้วไม่สบอารมณ์เลย : น่าเห็นใจนะอาชีพนี้ นี่ถ้าฉันลองไปทำดูบ้าง ฉันก็คงจะเครียด และต้อง แสดงอาการกริยาแบบนี้แหละ

ทำตัวดีไม่เป็นภัยกับใคร แต่กลับถูกใส่ร้ายป้ายสี : ภูผาหินไม่กลัวพายุร้าย เราบริสุทธิ์ใจเสียอย่าง จะไปหวั่นไหวอะไรกะอีแค่ลมปาก เขาพูดป้ายสี สีก็เลอะที่ปากเขาสิ เราไม่เกี่ยว..

ผมเป็นคนจับจด ทำงานอะไรไม่เคยสำเร็จ ชาตินี้จะเอาดีกะเขาได้มั้ยเนี่ย : นึกถึงภาระกิจที่จะต้องทำแล้วคิดด้วยความมั่นใจว่า " เข้ามาเล้ย..ย งานน่ะ ไม่กลัวอยู่แล้ว (ทุบกำปั้นบนฝ่ามือ) เรามั่นใจ ทำได้แน่ ไม่เลี่ยง ไม่หนี ลุยลูกเดียว " (คิดทั้งวันทั้งคืน ชาตินี้จะไม่มีวันเป็นคนจับจด)

นิสัยตัวเองไม่ดี ชอบจ้องจับผิดคนอื่น : " มิน่าเล่า เราถึงไม่มีเพื่อนที่ดีเหลือเลยสักคน จับผิดตัวเองดีกว่า สนุกกว่ากันเยอะเลย "

ติดเกมงอมแงม เสียการเสียงาน อยากเลิก แต่เลิกไม่ได้ : พูดท้าทายตัวเองดิ เช่น " เล่นเกมสนุก แต่ไม่มีสาระ เสียเวลาไปเปล่าๆ ไหนเก่งจริง ลองทำงานให้สนุกเหมือนเกมดูซิ โด่...ทำได้หรือเปล่า มีปัญญาอ๊ะป่าว "

ทำสิ่งที่ไม่ดีบางอย่างมา (ทำอะไรไม่บอกอะ) รู้สึก กังวลและเครียดมาก หายใจไม่ทั่วท้องเลย : หายใจเข้าออกลึก ๆ ให้สุดปอด ตลอดทั้งวัน และบอกกับตัวเองว่า "ถ้ามันไม่ร้ายแรงถึงกับตาย เราก็ไม่ต้องไปกลัว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรารับได้อยู่แล้ว เราแก้ไขปรับปรุงตัวเองได้ สบายมาก "

ถูกขาใหญ่ตบกระโหลกที่หน้าปากซอย ฮึ่ม..แค้นมาก เดี๋ยวจะลากปืนไปยิงมัน : โห..! คิดได้ไงเนี่ย จะเอาเพชรไปแลกกะถ่าน คุ้มจริงๆ นะเพ่

ทำไมโรงเรียนต้องบังคับ นักเรียนชายให้ตัดผมด้วย หมดหล่อเลยเรา เผด็จการชัด ๆ : ลดความหล่อบ้างสักนิดก็ดีนะ สาว ๆ จะได้ไม่กวน ขอบคุณคับคุณครู ที่ช่วยให้ผมได้เรียนหนังสือเต็มที่กับเขาสักที

ไม่สบอารมณ์ คนนั่งข้าง ๆ (ใครหว่า ?) ขอคาถาขับไล่หน่อยสิ : ได้สิ.. " โอมเพี้ยง.. ชิ๊ว ๆ ๆ ไป พวกความคิดที่ไม่ดีทั้งหลาย หายวับกับตาไปให้หมดเดี๋ยวนี้เลย ฉันจะได้ใจเย็นๆ สักที "

ฮือ..ๆๆ เราติดเอดส์ เรากลัวตาย..ฮือๆๆ : เข้มแข็งๆ กล้าหาญไว้ โอ.!.ฉันขอบคุณโรคเอดส์ เพราะมันทำให้ฉันไม่ประมาทในชีวิตอีกต่อไป ฉันจะรักษาสุขภาพกายใจให้ดีๆ อายุจะได้ยืนยาวไปอย่างน้อยอีกสิบปี (ไม่แน่นะ ถึงตอนนั้นอาจจะมียารักษาให้หายแล้วก็ได้ ) ฉันจะทำความดีให้มากๆๆๆ จวบจนวินาทีสุดท้าย เพราะพระท่านว่าคนที่ทำความดีไม่ต้องกลัวโลกหน้า ตายไปเมื่อไหร่จะสุขเหลือล้นจนคนข้างหลังอิจฉาเลยทีเดียวเชียว

เจอพวกชอบโทร(สาธารณะ)นานแทบจะกางมุ้งนอน: ถ้าไม่กล้าเคาะเตือน ขณะที่เรายืนรอ ลองฝึกสังเกตรอ คนพวกนี้เล่นๆ ก็ได้ สนุกดีนะ เช่น "อึมม์..เจ้าหมอนี่ นุ่งกางเกงยีนส์ปะๆ แต่ว่าซักสะอาด แสดงว่าชอบโชว์ความเก๋า แต่.. เล็บมือด๊ำดำ ว๊า ! หมดท่าเลย สังเกตดูเสื้อ สก๊อตสีน้ำเงินซะด้วย แต่ดูดีๆ ตะเข็บเย็บไม่ประณีต สงสัยจะเป็นเสื้อโหล ชอบยืนพิงตู้โทรคุยแบบนี้ น่าจะเป็นคนขี้เกียจนะ นั่น ๆ มีสมุดเรียนเหน็บที่กระเป๋าหลัง อ๋อ ! เรียนอยู่สถาบันนี้เอง แหวะ .. ทีหลังมีเราลูก เราไม่ส่งเรียนที่นี่หรอก นิสัยไม่ดี ฯลฯ " (บางคนกว่าจะออกจากตู้ สงสัยสังเกตจนเขียนตำราได้หนึ่งเล่ม หุ หุ ) "

เป็นคนขึ้อายมากกกกค่า เวลาคุยกะใคร ม้วนไปม้วนมา : จะคุยกับหนุ่มใช่มั๊ยล่า..า รู้ทันหรอกน่า ให้คิดว่าเขาเป็นลูกชายคนโตของเราดิ แม่รู้สึกยังไงกะลูกล่ะ เอ็นดูใช่มั๊ย สงสารใช่มั๊ย ให้มีเมตตากรุณาต่อผู้ชายทุกคนที่คุยด้วย แต่ไม่หวั่นไหวกะใครง่าย ๆ ความอายจะหายไป ............ทำได้ป่าว

มีคนใส่ร้ายเรา เราโกรธมาก จนนอนไม่หลับ : เขาทำความชั่วเขาก็ได้ผลชั่วของเขาเอง เรามามัวนอนโกรธ จนนอนไม่หลับ อย่างนี้ก็สมใจเขาสิ เปลี่ยนไม่ถือสาหาความ เมตตาเอ็นดูเขาดีกว่า นอนหลับสบาย แถมฝันดีอีกต่างหาก

มีแฟนหลายคน สับหลีกไม่ทันอะ : มีแฟนเยอะ แสดงว่าเรายังไม่เจอรักแท้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะลองแกล้งป่วยดู ถ้าคนไหนมาเยี่ยม แสดงว่าคนนั้นก็ผ่านรอบคัดเลือก เราจะทดสอบกลั่นกรองให้เหลือคนที่ดีที่สุด เพราะรักเดียวใจเดียวคือความสุขที่แท้จริง

ครูสอนน่าเบื่อโดดเรียนดีกว่าเรา : โดดเรียน ได้ผ่อนคลาย มีเสรี จะไปไหนก็ได้ อึมม์...มันก้อดีเหมือนกันนะ แต่ทว่า...มันเป็นการหนีปัญหา เพราะอีกหน่อยเราก็คงต้องหนีเรื่อยไป หนีหน้าคน -หนีการงาน -หนีความรับผิดชอบ ขืนเป็นอย่างนี้ อนาคตของเราคงจะไปไม่รอดแน่ๆ สู้เลย..! จะไปกลัวอะไร ถ้าครูสอนน่าเบื่อ เราก็เรียนให้มันน่าสนุกสิ ง่ายจะตายไป เรื่องอะไรจะหนีเรียนให้เสียชื่อ เราสู้วันนี้ วันหน้าสบายมาก เย.."

ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ ทำไมผู้ใหญ่ชอบบังคับกันเรื่อย : ถ้าไม่อยากให้รู้สึกว่ามีคนมาบังคับ ก็ต้องทำอะไรด้วยเหตุผลของตัวเอง เช่น :-
โรงเรียนบังคับให้ตัดผม เราก็คิดว่า "เราตัดผมไม่ใช่เพราะกลัวลงโทษ แต่เราตัดผมเพราะเราเคารพกฎของโรงเรียนต่างหาก"
แม่สั่งให้เก็บที่นอนทุกเช้า เราก็คิดว่า "ที่เราทำไม่ใช่เพราะกลัวแม่ด่า แต่เพราะเห็นว่ามันเป็นระเบียบเรียบร้อยดีต่างหาก"
พ่อบังคับไม่ให้เราไปเที่ยวไหนในวันหยุด เราก็คิดว่า ที่เราไม่ไปไหน ไม่ใช่เพราะกลัวพ่อดุ แต่เพราะเราต้องการจะฝึกตัวเองให้เข้มแข็งต่างหาก" ฯลฯ

มีครูอยู่วิชาหนึ่ง ไม่ให้เกียรตินักเรียน ชอบพูดสบประมาท เด็กอยู่เรื่อยเลย : ทุกครั้งที่ได้ยินถ้อยคำดูหมิ่น ให้ยิ้มน้อยๆด้วยความเข้าใจและเห็นใจ(ผู้พูด) และ ให้คิดในใจว่า " พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญเราผู้ที่มีความหนักแน่น อดทนต่อถ้อยคำ ประกอบดัวย เมตตา และ ปัญญา ว่าเป็น ผู้ใหญ่ หาใช่ เด็ก ไม่ "
เป็นโรคใจง่าย: เวลาเข้าใกล้คนหล่อเข้าใกล้คนหล่อ ๆทีไร ให้นึกถึงอะไรที่น่าเกลี๊ยดหวั่นไหวทุกที น่าเกลียดภายในตัวของเขาสิ เช่น ขนจมูกของเขา ขี้หูของเขา ขี้ตา... .. รังแค.... อึ ..(แหวะ) คิดอย่างนี้ เดี๋ยวก็หายหวั่นไหวไปเอง ..ไม่เชื่อ ลองดูดิ

เพื่อนๆ ในห้องมีแฟนกันหมดแล้ว มีเหลือแต่เรา "แหง่ว..ว" อยู่คนเดียว : คิดมุมกลับ.. " เพื่อนๆ ในห้องหาเรื่องไปร้อนรนทุรนทุรายกันหมดแล้ว เหลือแต่เราอยู่เย็นเป็นสุขอยู่คนเดียว เย..! "

อยากเที่ยวกลางคืน ให้มันสนุกสุดเหวี่ยงไปเลย : สุดเหวี่ยงจนลงเหวน่ะสิไม่ว่า เที่ยวกลางคืนเนี่ยปากทาง แห่งความเสื่อมเลยนะตัวเอง

ข้างบ้านชอบแต่งตัวโป๊ ขอคาถาข่มใจหน่อยดิ : โอม ! ... ธรรมดาๆๆ ๆ ไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นอะไร เหม็นขี้เหงื่อ เหม็นขี้ไคล ใคร ๆ ที่ไหน ก็เหมือนกัน (ท่องไปจ้องไปนะ )

เพื่อนๆในห้องจับกลุ่มกันไปเที่ยว เราเป็นเด็กเรียน เลยถูกโดดเดี่ยว : ปล่อยเด็ก ๆ เขาไปเหอะ เราน่ะเป็นผู้ใหญ่แล้ว สมัยนี้นะถ้าหาเพื่อนดี ๆ ไม่ได้ อยู่คนเดียวอย่างนี้ดีที่ซู้ด

เขาหล่อจัง..แต่นิสัยไม่ดี คิดยังไงไม่ให้หลงรัก : คิดอย่างนี้ดิ... คนสวยๆ หล่อ ๆ แต่นิสัยไม่ดี มันก็เหมือนกับดอกไม้สวยๆ แต่ส่งกลิ่นเหม็นฉึ่ง ฉันคนหนึ่งล่ะที่ไม่ขอเข้าใกล้

ชอบจิ๊กของตามร้านอะ หนุกตื่นเต้นดี : (ด่าตัวเอง ) โรคจิตนะเรา.. ชอบสะสมนิสัยขโมย ระวังให้ดีเหอะ นิสัยนี้มันจะ พาเราไปเจอะเคราะห์ร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันหนักหนาสาหัสกว่าปรับ ๑๐ เท่าที่ร้านอีกนะจะบอกให้

เราโกรธเก่ง ใครลองพูดไม่ถูกใจ เป็นควันออกหู : พอรู้ตัวว่าโกรธ หายใจลึก ๆ ช้าๆ เข้าออกสักสิบครั้ง แล้วควันจะไม่ออกหูนะ

ห้ามใจไม่อยู่ อยากจะ chat chat chat : (เตือนตัวเองแรง ๆ) คุยกันผ่านเน็ต ไม่เราโกหกเขา เขาก็โกหกเรา บางทีเราก็หลอกคนอื่น บางทีเราก็หลอกตัวเอง กลับมาสู่โลกแห่งความจริงดีกว่านะเธอ

ทำไมผมชอบทำไม่ดี ทำแล้วก็เสียใจ เสียใจแต่ก็ทำอีก ทำอีกก็เสียใจอีก ไม่เข็ดสักที (ทำอะไรหว่า ?) : ง่ายจะตายไป ... ตื่นนอนตอนเช้า กราบพระที่หัวหมอน สารภาพผิดว่า... "นะโมตัสสะ ภะคะวะโต..กระผมผิดไปแล้วคร้าบ..บ (ผิดอะไรก็ว่าไป ) ละอายใจจังเลย.. ทีหลังจะไม่ทำอีกแล้วคร้าบ..บ" ทำอย่างนี้ทุก ๆ เช้า ติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งปี (โห ! ) แล้วนิสัยไม่ดีประเภท"ฝังรากลึก" (ใช้ภาษาสุภาพนะเนี่ย) จะค่อยๆ หมดไป

ช่วยเพื่อนทุกอย่าง แต่เพื่อนไม่เคย ขอบใจเราสักคำ : พุทธศาสนาสอนว่า ใครชอบช่วยเหลือผู้อื่น คนๆนั้นจะได้บุญ เอาล่ะ...ถึงนายไม่คิดขอบใจเราก็ไม่เป็นไร เพราะอันที่จริง เราเองต่างหากที่สมควรจะขอบใจนายมากกว่า (ก็เราได้บุญเยอะแยะเพราะนายนี่นา)

ผิดหวังผู้ใหญ่ในบ้านเรา ไม่ยอมแก้ไขปัญหาเลย : อย่าไปหวัง... แค่นี้ก็หมดเรื่อง มั่นใจไว้เลย... ปัญหาทุกอย่างจะหมดไป ถ้าทุกคนลงมือแก้ไข โดยไม่คิดหวังพึ่งใคร (อันนี้เป็นคติธรรมประจำใจ"พระมหาชนก"เลยทีเดียวนะ)

เกลียดคนโกหกตอแหลที่สุด :เกลียด "คำพูดโกหก" น่ะดีแล้ว แต่อย่าถึงกับเกลียด "คนโกหก"เลย เพราะคนโกหกเขาย่อมได้รับความเดือดร้อน จากคำพูดของเขาเองทั้งยามหลับและยามตื่น น่าสงสารจะตายไป

ทำไมแฟนถึงชอบพูด ดูถูกหนูต่อหน้าเพื่อนๆ : ถ้าเขาชอบพูดดูหมิ่นเราต่อหน้าเพื่อน เราก็ควรทำสิ่งตรงกันข้ามด้วยการ "พูดยกย่องเขาต่อหน้าเพื่อนๆ เป็นประจำ" ทำอย่างนี้บ่อยๆ บางทีเขาอาจจะละอายใจ นิสัยดีขึ้นมาบ้างก็ได้นะ




"..แท้ที่จริงพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุด คือให้วิธีคิดผมเองชอบอ่านพระไตรปิฎก เมื่ออ่านไปแล้วก็สะดุด และเห็นชัดเลยว่าวิธีคิดในพระไตรปิฎกไม่เหมือนที่คิดกันในสังคมทั่วไป ทั้งในสังคมไทยด้วย สังคมทั่วโลกด้วยแต่ว่าเรามักไม่เอาวิธีคิดมาพูดกัน เรายึดเนื้อหามาพูด ที่จริงเนื้อหาบางอย่างจะล้าสมัย แต่ถ้าเป็นวิธีคิดที่ถูกต้องจะเชื่อมโยงกันไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด "

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ระบบ 3G คืออะไร / เทคโนโลยี 3G หมายถึง / ความเร็ว 3G

ระบบ 3G คืออะไร / เทคโนโลยี 3G หมายถึง / ความเร็ว 3G
เทคโนโลยี 3G พัฒนามาจากอะไร ระบบ 3G คืออะไร และมี ความเร็ว เท่าไร

ระบบ 3G ( UMTS ) นั้นคือการนำเอาข้อดีของ ระบบ CDMA มาปรับใช้กับ GSM เรียกว่า W-CDMA ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท NTT DoCoMo ของญี่ปุ่น

สำหรับเมืองไทยนั้น ระบบ 3G จะเป็น เทคโนโลยีแบบ HSPA ซึ่งแยกย่อยได้เป็น HSDPA , HSUPA และ HSPA+

HSDPAนั้นจะสามารถ รับส่งข้อมูลได้สูงสุดที่ Download 14.4 Mbps / Upload 384 Kbps. ( ปัจจุบันผู้ให้บริการทั่วโลกยังให้บริการอยู่ที่ Download 7.2Mbps เท่านั้น )
HSUPAจะเหมือนกับ HSDPA ทุกอย่างแต่การ Upload ข้อมูลจะวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 5.76 Mbps
HSPA+ เป็นระบบในอนาคต การ Download ข้อมูลจะอยู่ที่ 42 Mbps / Upload 22 Mbps

สำหรับในเมืองไทยนั้น ระบบ 3G ( HSPA ) ที่ Operator AIS หรือ DTAC นำมาใช้จะเป็น HSDPA โดยการ Download จะอยู่ที่ 7.2Mbps ซึ่งน่าจะได้ใช้กันในไม่ช้า

ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ AirCard แบบที่รองรับ 3G คลื่นความถี่ 3G ที่ใช้กันทั่วโลก จะใช้อยู่ 3 ความถี่ที่เป็นมาตราฐานคือ 850 , 1900 และ 2100 ซึ่งเมืองไทยจะแบ่งเป็นดังนี้

คลื่นความถี่ ( band ) 850 จะถูกพัฒนาโดย Dtac และ True
คลื่นความถี่ ( band ) 900 จะถูกพัฒนาโดย AIS (ใช้ชั่วคราวที่เชียงใหม่ และ Central World)
คลื่นความถี่ ( band ) 2100 กำลังรอ กทช. ทำการประมูลเพื่อจัดสรรคลื่นความถี่
คลื่นความถี่ ( band ) 1900 จะถูกพัฒนาโดย TOT

ดังนั้นการเลือกซื้อ AirCard , Router หรือ โทรศัพท์มือถือ และต้องการให้รอบรับ 3G ควร check ให้ดีก่อนว่าสามารถรองรับได้ทั้ง 3 คลื่นหรือเพียงบางคลื่นเท่านั้น

บทความโดย AirCardShop.com 17 เมษายน 2552, 23:49 | ข้อมูล AirCard

สถิติของหนังสือพ่อรวยสอนลูก เมื่อเราอายุ 65 เราจะเป็นอย่างไร

ข้อแตกต่างระบบการตลาดทั่วไปกับการตลาดแบบเครือข่าย

แนวคิดของมหาเศรษฐีโลก

กลยุทธ์นำไปสู่ความสำเร็จ " หัวใจ K A S H " 3S 1M

กลยุทธ์นำไปสู่ความสำเร็จ

ก่อนอื่น ถามตนเองก่อนว่า "ต้องการประสบความสำเร็จ และร่ำรวยหรือไม่? " "ประมาณ 95% ของประชากรทั้งโลกที่ล้มเหลวและยากจน.....่มีเพียง 5% เท่านั้นที่ ระสบความสำเร็จและ ร่ำรวย" ◦ คุณอยู่ 95% หรือ 5% ? ถ้าเลือกได้คุณอยากอยู่ 95% หรือ 5% ?

ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ 95% คุณไม่ต้องทำอะไร เพียงคุณอยู่เฉย ๆ คุณก็ประสบความสำเร็จอย่างที่คุณต้อง การ! แต่...ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ 5% นั่นแสดงว่าคุณ "ต้องการประสบความสำเร็จ" คุณ "ต้องทำ" ดังนี้

1. สำรวจตัวเองว่าคุณมีสิ่งเหล่านี้หรือไม่? หากคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จ คุณต้องมี " หัวใจ K A S H "

1. K = Knowledge = ความรู้ โดยคุณต้องมีความรู้ในเรื่อง บริษัท สินค้า แผนการตลาด และวิธีการทำงาน
2. A = Attitude = ทัศนคติ โดยคุณต้องมีทัศนคติที่เป็นบวกต่อ บริษัท, ผู้บริหาร, ตัวเอง, Upline, Downline, เพื่อนร่วม องค์กร, ผลิตภัณฑ์, แผนการตลาด
3. S = Skill = ทักษะ โดยคุณต้องมีทักษะในการทำงาน ต้องชำนาญในกระบวนการทำธุรกิจ
4. H = Habit = นิสัย ความเคยชิน

โดยคุณต้องสร้างระเบียบวินัยในการทำงานของตนเองจนเป็นความเคยชินของคุณเอง
ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง มีแผนการทำงานที่ดี มีเป้าหมายในความสำเร็จ ยึดมั่นในเป้าหมาย กระทำอย่างต่อเนื่อง นี่คือ "หัวใจแห่งความสำเร็จ" ที่ถูกพิสูจน์มาแล้วทั่วโลกกับทุก ๆ ธุรกิจ "จงตรวจสอบตนเองว่า มีอะไรในตัวคุณที่ขาด...จงเติมให้เต็ม แล้วคุณจะประสบความสำเร็จ"

....บางคนอาจยังไม่มีครบทั้ง 4 ข้อ ของ " หัวใจ K A S H "
2. ใช้ หรือบริโภคผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น
3. ขายผลิตภัณฑ์ เพื่อ
-สร้างผลกำไรในการทำธุรกิจ
-เป็นช่องทางส่งเสริมให้ลูกค้าบริโภคซ้ำอย่างต่อเนื่อง
-เป็นช่องทางในการขยายสมาชิก
4. ศึกษาวิธีทำธุรกิจ โดยเข้าอบรมทุกหลักสูตรที่บริษัทจัด
-Silver Start เป็นหลักสูตรแรกที่จะนำพาท่านไปสู่ความสำเร็จ
-ศิลปะการพูด เป็นหลักสูตรที่จะพัฒนาท่านให้เข้าใจวิธีการพูด เพื่อนำไปสู่การบริหารงานสู่ความสำเร็จขององค์กร
-การรับฟังการแชร์ประสบการณ์ผู้ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในธุรกิจ
-การเข้าร่วมงานสัมมนาระบบค่าย ตลอดจนการพาลูกทีมเข้าร่วมกิจการดังกล่าว

1 แนวทางสู่ความสำเร็จ (3S 1M)
1.ต้องขายเอง (Sell) เป็นงานพื้นฐานที่ต้องทำ เพราะ
1.1 ขายเพื่อสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจของตนเอง
1.2 ขายเพื่อเป็นช่องทางส่งเสริมให้ลูกค้าบริโภคซ้ำอย่างต่อเนื่อง
1.3 ขายเพื่อเป็นบทนำก่อนการแนะนำค้นหาสมาชิกใหม่เข้าสู่เครืือข่าย
2.ต้องขยายสายงาน (Sponsor) เป็นภาระหลักที่ต้องทำ เพราะ
2.1 เพื่อสร้างธุรกิจของตัวเองให้เติบโต ประสบความสำเร็จอย่างมั่นคง
2.2 เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและแบ่งปันสิ่งดีในเรื่องสุขภาพ รายได้ ได้พัฒนาคุณภาพชีวิต ความสำเร็จให้กับตนเอง และผู้อื่น
3.ต้องบริการ (Service) เป็นหัวใจของการทำธุรกิจ เพราะ
3.1 บริการที่ดีจำนำมาซึ่งความประทับใจ ความไว้วางใจ ความเชื่่อมั่นในตัวเราและธุรกิจ
3.2 เป็นการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดี มีส่วนทำให้ธุรกิจเติบโตอย่่างมั่นคงและถาวร
4.ต้องประชุม/อบรม (Meeting) ถือเป็นเลือดที่หล่อเลี้ยงธุรกิจ เพราะ
4.1 เป็นการพัฒนาความรู้่ ประสบการณ์ ทักษะการทำงาน ตลอดจนแนวทางในการทำธุรกิจ
4.2 เป็นการกระตุ้นให้กำลังใจ และสร้างแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

ทำไมต้องเครือข่าย

ทำไมต้องเครือข่าย

จุดเด่นของธุรกิจเครือข่าย

- ทำร่วมกับงานประจำได้โดยไม่รบกวนงานประจำ
- ได้เป็นเจ้าของกิจการที่ลงทุนน้อยและไม่ต้องเสียง
- ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ หรือประสบการณ์ ทำได้แม้ไม่ถนัดงานขาย
- มีรายได้ทันที ต่อเนื่อง เป็นมรดก

เพื่อ ให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น เราจะขอเปรียบเทียบการตลาดทั่วไป ที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ระบบการตลาดแบบเดิมที่เราต้องกินต้องใช้กันทุกวันที่ผ่านมา ผู้ผลิตเอากำไร 40% ในส่วนของค้าส่งค้าปลีกกำไรรวมกัน 60% โดยที่เราซึ่งเป็นผู้บริโภคต้องจ่าย 100% เต็ม โดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ด้วยการตลาดแบบนี้ทำให้คนบางกลุ่มร่ำรวยจากการตลาดแบบเดิม คงไม่ต้องพูดถึงนะครับว่าเป็นคนกลุ่มใด

การ ตลาดเครือข่าย เป็นการตัดวงจรการค้าส่งค้าปลีกออก เปิดโอกาสให้เราซึ่งเป็นลูกค้าหรือผู้บริโภค ซื้อตรงจากผู้ผลิตโดยไม่ต้องผ่านระบบพ่อค้าคนกลาง โดยเปิดโอกาสให้เป็นสมาชิกจะได้ส่วนลด 25% นอกจากนี้ยังสามารถทำการค้าส่งค้าปลีกได้ด้วยการใช้ดีแล้วบอกต่อเรียกว่า การสร้างเครือข่าย มูลค่าจากการสร้างเครือข่าย 35% รวมเป็น 60% เป็นตัวเลขเดียวกับที่เราเคยสูญเสียไปในช่องทางค้าส่งค้าปลีก โดยจะออกมาในรูปแบบของเงินปันผล

4Cs กลยุทธ์การตลาดแนวใหม่ ในยุคทองของอินเทอร์เน็ต

* ถ้าบอกว่าสูตรสำเร็จด้วยวิธีการทางการตลาดแบบ 4Ps ที่มี Product, price, Place, Promotion นั้นไม่
เพียงพออีกต่อไปแล้วก็ว่าได้ ที่เป็นอย่างนั้นเพราะวิวัฒนาการของโลก ได้เปลี่ยนแปลงไปไกล กว่ายุคเดิมหลายช่วงตัว ว่าไปแล้วสิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คือเครื่องมือสื่อสารยุคใหม่เข้า มามีบทบาทสำคัญ นั่นคือ อินเทอร์เน็ต

* หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วมีใครคิดบ้างว่าอินเทอร์เน็ตจะมีบทบาทได้ถึงเพียงนี้ เพราะตอนนั้นมันถูกใช้อยู่ในวงจำกัด ถ้าเป็นเมืองไทยก็ใช้เฉพาะนักวิชาการ นักวิจัย และองค์กรข้ามชาติบางรายเท่านั้น แต่พอถึงยุคนี้ อินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นเครื่องมือจำเป็นอย่างหนึ่งในการประกอบธุรกิจไปแล้ว

* เมื่อสำคัญเช่นนี้ อินเทอร์เน็ตจึงจัดให้อยู่ในระดับสำคัญมากในภาคการตลาดและการสื่อสารการตลาด และแล้วก็เป็นที่มาของการเกิดกลยุทธ์ใหม่ที่นำมาใช้ร่วมควบคู่ไปกับ 4Ps นั่นคือ 4Cs หรือ บางสูตรว่า 4Cs เข้าไปแทนที่ 4Ps

* 4Cs ประกอบด้วย Consumer, Cost, Convenience, Communications ทั้ง 4 มีหัวใจรวมศูนย์ที่ให้ ความสำคัญต่อลูกค้า หรือ โฟกัสลูกค้าเป็นสำคัญ

Consumer เน้นความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก หรือหากบอกให้ตรงใจ คือเข้าถึงใจผู้บริโภค ให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้า หรือที่เรียกว่า CRM Customer Relation Management)โดยต้องยึดหลักการสรรค์สร้างสินค้าและบริการให้ตรงใจลูกค้าใน ทุกๆ กลุ่ม
Cost ทำให้ต้นทุนต่ำที่สุดเพื่อให้จะได้กำหนดราคาขายถึงมือผู้บริโภคต่ำไปด้วย ซึ่งจะเป็นที่ได้เปรียบในการแข่งขัน ด้านราคากับคู่แข่ง
Convenience ช่องทางการจัดจำหน่ายต้องอำนวยให้ผู้บริโภคสะดวกซื้อมากที่สุด ยิ่งมีช่องทาง หรือหน้าร้าน มากเท่าไร โอกาสที่ผู้บริโภคจะซื้อมากเท่านั้น เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันมิได้ยึดติดกับสถานที่เดิม สักเท่าไร
Communications เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง และมีองค์ประกอบหลายด้าน จากความหมายตรงตัวที่แปลว่าการสื่อสาร จึงรวมตั้งแต่การติดต่อสื่อสารที่ต้องสะดวก ง่าย รวดเร็วการสื่อสารที่สร้างความรับรู้ให้ ผู้บริโภคและตลาด ซึ่งได้แก่การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย รวมถึงสื่อสารแบบกระตุ้นตลาด ได้แก่การจัดงานแสดงสินค้าการจัดนิทรรศการงานโชว์การตลาดเชิงรุกหรือการตลาดแบบตรงและเข้าถึงลูกค้ารายตัว

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ หากนำไปผนวกรวมกับกลยุทธ์ 4Ps เดิมก็จะยิ่งเสริมให้การตลาดแข็งแกร่งยิ่งขึ้นแต่ที่ขาดไม่ได้ของกลยุทธ์โฉมใหม่ทั้ง 4 เรื่องหลัง (4Cs) จะต้องมีตัวช่วย ตัวช่วยนั้นคือสื่อยุคใหม่ หรืออินเทอร์เน็ต เพราะอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้เจ้าของผลิตภัณฑ์ใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดอันจะแจกแจงได้ว่าอินเทอร์เน็ตช่วยในแต่ละ C อย่างไรบ้าง

o Consumer อินเทอร์เน็ตช่วยลดความห่างระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภคให้น้อยลง
ตัวอย่าง เช่นผู้บริโภคสามารถส่ง Comment ถึงตรงผู้ประกอบการได้ึ่งตรงนี้จะเป็นข้อมูล
สำคัญเพื่อนำไปปรับปรุง แก้ไขในสิ่งที่ลูกค้าบอกว่าได้ส่่วนผู้ประกอบการเองก็สามารถ
เข้าถึงใจผู้บริโภคได้มากขึ้น
o Cost ต้นทุนดำเนินการลดลงได้หากใช้อินเทอร์เน็ต เช่นใช้อีเมลล์แทนการส่งแฟกซ์/ส่ง
รูปต่างๆ เหล่านี้ ล้วนมีส่วนลดค่าดำเนินการทั้งสิ้น
o Convenience อินเทอร์เน็ตช่วยให้สะดวกขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายผู้สั่งซื้อ หรือผู้เสนอ
ขาย หลายท่านคุ้นเคยการสั่งซื้อของผ่านช่องทางนี้
o Communications หัวข้อนี้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำคัญ ทั้งการโฆษณาประชา
สัมพันธ์ ที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อได้เป็นอย่างดี การส่งเสริมการขายก็สามารถทำผ่าน
อินเทอร์เน็ตได้ ข้อดีของอินเทอร์เน็ตคือทำให้การโฆษณาประชาสัมพันธ์การส่งเสริม
การขายนั้นจะแผ่ขยายวงการออกไปไม่เฉพาะที่ใดที่หนึ่ง สื่อใดสื่อหนึ่ง แต่หมายถึง
สร้างความรับรู้ได้ทั่วโลกเลยในคราเดียว

* สุดท้ายขอทิ้งท้ายว่าแท้จริงแล้วอินเทอร์เน็ตเป็นทั้งตัวทำให้เกิดกลยุทธ์ใหม่ขึ้นมา และในเวลา
เดียวกัน อินเทอร์เน็ตอีกนั่นแหละ ที่เป็นเครื่องมือให้ผู้ประกอบการก้าวไปใช้กลยุทธ์ 4Cs ได้อย่าง
สำเร็จ

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สองมหาเศรษฐีของสหรัฐอเมริกา ที่แนะนำให้ทำธุรกิจเครือข่าย










สองมหาเศรษฐีของ สหรัฐอเมริกา ทางซ้ายมือ คือ
Mr. Robert Kiyosaki เศรษฐีระดับ 100 ล้านเหรียญดอลลาร์ และทางด้านขวามือ คือ Mr. Donald Trump รวยระดับ 10,000 ล้านเหรียญดอลลาร์ ได้ร่วมกันแต่งหนังสือ Why We Recommend Network Marketing ซึ่งเนื้อหาในหนังสือจะกล่าวถึงว่า ทำไมทั้งสองท่านนี้ จึงได้แนะนำให้คนทั่วไป ที่คิดจะทำธุรกิจ ได้ทำ "ธุรกิจเครือข่าย"












งานประจำ ไม่ทำให้ร่ำรวยได้ มีแต่หนี้ ถ้าต้องการความสำเร็จ ต้องเป็นเจ้าของธุรกิจ ธุรกิจมี 2 ประเภท คือ รวยแต่หยุดทำไม่ได้ กับรวยแล้วพักได้โดยรายได้ไม่หยุด

1. กิจการใหญ่ (ซีพี , AIS)
2. เจ้าของแฟรนไชส์ (แมคโดนัลด์ , 7-11)
3. ธุรกิจเครือข่าย

- การตลาดเครือข่าย เป็นเสมือนโรงเรียนสอนนักธุรกิจ ที่ช่วยให้คุณย้ายฝั่งได้ง่าย ได้ผล และปลอดภัยที่สุด

- บริษัทเครือข่ายการตลาดที่ดีจะต้องมีระบบพัฒนาตัวคุณอย่างสมบูรณ์แบบ (โดยสอนให้คุณเป็นนักธุรกิจ เพื่อเป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่ใช่สอนให้คุณเป็นเซลส์แมนหรือเพียงทำให้คุณมีรายได้ไปวันๆ บนความมั่นคงที่ไม่แน่นอน)

คนที่รวยที่สุดในโลกล้วนแสวงหา การสร้างเครือข่าย ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่กำลังหางานทำ หากคุณมีความคิดสร้างสรรอันยิ่งใหญ่ หรือสินค้าอันดีเยี่ยมปานใดก็ตาม มีเพียงหนทางเดียวที่จะนำท่านสู่ความสำเร็จ คือ การใช้เครือข่ายการประชาสัมพันธ์ และเครือข่ายการ จัดจำหน่ายสินค้า เหล่านั้นสู่มือผู้บริโภคอย่างได้ผล


ข้อเปรียบเทียบระหว่างธุรกิจทั่วไปกับธุรกิจเครือข่าย

ธุรกิจทั่วไป

ข้อเปรียบเทียบ

ธุรกิจปูแดงเบสท์59

สูง

เงินลงทุน

ต่ำ

สูง

ความเสี่ยง

ต่ำ

จำเป็นมาก

ความรู้ - ประสบการณ์

ไม่จำเป็น

จำเป็นมาก

ทำเล

ไม่จำเป็น

ทุ่มเทอย่างมาก

เวลา

อิสระ หรือ part-time ได้

ต้องลงทุนเพิ่ม

เมื่อขยายธุรกิจ

ไม่จำเป็น

มีขีดจำกัด

ศักยภาพทางรายได้

ไม่มีขีดจำกัด

เป็นไปได้ยาก

ขยายธุรกิจไปต่างประเทศ

ทำได้ทันที

ไม่มี

เป็นมรดกตกทอด

เป็นมรดกตกทอด

ไม่มี

รายได้แบบลิขสิทธิ์

มีรายได้แบบลิขสิทธิ์