วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วันสิ้นโลกในมุม...พุทธศาสนา

คติความเชื่อในพุทธศาสนาเชื่อกันว่า ในภัทรกัปนี้ โลกใบนี้เคยมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติแล้ว ๔ พระองค์ คือ
๑.พระกกุสันธะ
๒.พระโกนาคมนะ
๓.พระกัสสปะ
๔.พระโคดม (พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน)

ส่วนองค์ที่ ๕ จะอุบัติขึ้นหลัง พ.ศ.๕๐๐๐ คือ พระศรีอริยเมตไตรย ในยุคนี้จะมีต้นกัลปพฤกษ์เกิดขึ้นทั้งสี่มุมเมือง อันเป็นต้นไม้สารพัดนึก ทุกคนมีศีลธรรมเป็นยุคที่ศาสนารุ่งเรืองและมีความอุดมสมบูรณ์ นับว่าในยุคศาสนาของพระพุทธเจ้าพระศรีอริยเมตไตรยเป็นศาสนาที่คนพึงปรารถนาจะมาเกิดในศาสนานี้ หลังจากสิ้นยุคของพระศรีอริยเมตไตรย แล้ว โลกก็จะแตกพินาศไป เพราะไฟ (ดวงอาทิตย์เรียงกัน ๗ ดวง )

อย่างไรก็ตาม ใน พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ๒๖. พุทธปกิณณกกัณฑ์ เล่มที่ ๓๓ ข้อ ๑ หน้า ๗๒๑ ได้เขียนไว้ว่า โลกเสื่อมมี ๓ อย่าง คือ
๑.อาโปสังวัฏฏกัป (กัปที่เสื่อมเพราะน้ำ) หมายถึงกัปที่เสื่อมเพราะน้ำนับแต่ชั้นสุภกิณหพรหมลงมา
๒.เตโชสังวัฏฏกัป (กัปที่เสื่อมเพราะไฟ) หมายถึงกัปที่ไฟไหม้ นับแต่ชั้นอาภัสสรพรหมลงมา
๓.วาโยสังวัฏฏกัป (กัปที่เสื่อมเพราะลม) หมายถึงกัปที่ลมพัดทำลาย นับแต่ชั้นเวหัปผลพรหมลงมา หรือหมายถึงช่วงระยะเวลาที่เปลวไฟดับจนถึงมหาเมฆที่ให้กัปพินาศ

นอกจากนี้แล้วพระพุทธเจ้าได้ตรัสเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับโลกและจักรวาลไว้ในพระสูตรต่างๆ ในพระไตรปิฎกหลายพระสูตร เช่น
๑.อัคคัญญสูตร ว่าด้วยเรื่องกำเนิดของโลก กำเนิดของมนุษย์ และวรรณะทั้ง ๔ หน้า ๖๑ เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย
๒.จูฬนีสูตร ว่าด้วยเรื่องจักรวาล หน้า ๑๒๕ เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย
๓.สุริยสูตร ว่าด้วยเรื่องในอนาคต พระอาทิตย์จะเกิดขึ้นครบ ๗ ดวง และการพินาศของโลกหน้า ๘๓ เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย
๔.อุปสถสูตร ว่าด้วยสวรรค์ ๖ ชั้น หน้า ๑๙๕ เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เป็นต้น

"ในฐานะนักดาราศาสตร์ ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน เพราะโลกอยู่มาตั้งหลายพันล้านปี มีสรรพสิ่งเกิดและดับสูญไปตามวัฏจักร วิตกกังวลไปก็เท่านั้น แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด"

ชุดเครื่องครัว ยาสระผม 10 สิ่งที่ควรถวายพระ และสิ่งที่พระจำเป็นต้องใช้

นิตยสาร "ฉลาดซื้อ" ฉบับประจำเดือน พ.ย. เผย 10 อันดับรายการสินค้าที่ไม่จำเป็น จากการสำรวจชุดสังฆทาน ส่วน 10 รายการที่พุทธศาสนิกชนนึกไม่ถึงว่าพระต้องการ อาทิ ยาสระผม-ชุดเครื่องครัว

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. มีรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข ถึงผลการสำรวจรายการสินค้าที่ไม่จำเป็นในชุดสังฆทานโดยนิตยสาร "ฉลาดซื้อ" ฉบับประจำเดือน พ.ย. ว่า จากการสอบถามความคิดเห็นของพระภิกษุสงฆ์ในการใช้ข้าวของที่บรรจุมาในชุด สังฆทาน พบว่าส่วนใหญ่เป็นของที่จำเป็นและมีประโยชน์น้อย โดย 10 อันดับรายการสินค้าที่ไม่จำเป็น ที่พบจากการสำรวจชุดสังฆทาน ประกอบด้วย

1.ใบชา พระสงฆ์ส่วนใหญ่ระบุว่า ปัจจุบันพระสงฆ์ไม่ค่อยฉันน้ำชา ควรเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้แท้ที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพน่าจะดีกว่า เพราะน้ำผลไม้ส่วนใหญ่ที่อยู่ในถังสังฆทาน มักเป็นน้ำผลไม้ที่ไม่มีคุณภาพ ส่วนใหญ่เป็นน้ำหวานแต่งกลิ่น รส หรือ ผงสมุนไพรห่อที่ไม่ค่อยมีคุณภาพนัก
2.ขิงผงสำเร็จรูป เป็นเครื่องดื่มที่คนส่วนใหญ่คิดว่า พระสงฆ์น่าจะชอบฉัน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่
3.ยาจุดกันยุง ส่วนนี้อาจจะจำเป็นสำหรับพระที่จำพรรษาในป่าหรือชนบทไกลๆ
4.นมข้นหวาน
5.กาแฟผงสำเร็จรูป
6.ถัง กล่องสบู่ ขวดน้ำ ขันพลาสติก จากการสำรวจพบว่า อุปกรณ์เหล่านี้ถูกกองไม่ได้ใช้ประโยชน์จนล้นวัด
7.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
8.น้ำดื่มบรรจุขวด
9.ขนมคุ้กกี้ ขนมอบต่างๆและ
10.ธูป เทียน ไม้ขีดไฟ ที่ส่วนใหญ่มักอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถใช้งานได้ ที่สำคัญของเหล่านี้มีจำนวนเกินพอแล้วในวัด

การสำรวจครั้งนี้ยังได้นำเสนอสิ่งของ 10 รายการที่พุทธศาสนิกชนอาจจะนึกไม่ถึงว่ามีความจำเป็นสำหรับการถวายสังฆทาน คือ

1.ยาสระผม คนมักคิดว่าพระไม่มีผมไม่จำเป็นต้องใช้ยาสระผมแต่จริงๆแล้วจำเป็นเพราะส่วน หนึ่งอาจมีคราบไคลและไขมันที่เกาะสกปรกตามหนังศรีษะอยู่บ้าง

2.มีดโกน ใบมีดโกน พระได้ใช้บ่อยแต่ไม่ค่อยมีคนถวาย

3.อุปกรณ์เครื่องครัว เช่นจาน กะทะ หม้อ ช้อน แก้วน้ำ ที่มีคุณภาพ พระสามารถใช้เป็นของส่วนตัวและเอื้อเฟื้อสำหรับญาติโยมที่มาทำบุญได้ด้วย

4.อุปกรณ์ช่าง ค้อน ตะปู ไขควง สว่าน ที่พระมีโอกาสได้ใช้ในการซ่อมแซมต่างๆในวัดและกุฏิ

5.อุปกรณ์ทำความสะอาด ไม้กวาด ไม้ถูพื้น ไม้กวาดแข็ง ที่โกยขยะ เป็นอุปกรณ์จำเป็นแต่ไม่ค่อยมีคนถวาย

6.ข้าวสาร อาหารแห้ง เลือกที่คุณภาพดีไม่ใช่ที่บรรจุในถังสังฆทานที่มักใช้ไม่ได้ ส่วนนี้ จะได้ใช้ในการบริจาคหรือนำไปอุปการะผู้ยากไร้ที่มาพึ่งใบบุญ ของวัดได้ด้วย

7.เครื่องเขียน สมุด ปากกา ดินสอ

8.หนังสือธรรมะ หรือหนังสือแนวทางการดูแลสุขภาพ

9.ผ้าสบง จีวร ผ้าอาบน้ำเลือกที่คุณภาพดี และ

10.ยาสมุนไพร ยารักษาโรค เลือกที่มีคุณภาพมาตรฐานในการผลิตหรือมีตรา องค์การอาหารและยา (อย.) รับรอง

สำหรับเครื่องสังฆทานถือเป็นสินค้าควบคุมฉลากที่ต้องระบุข้อความ วันเดือนปีที่หมดอายุ หากไม่มีการดำเนินการดังกล่าวอาจมีโทษถึงจำคุก 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

วิธีลดภาวะโลกร้อน

การลดภาวะโลกร้อนเป็นสิ่ง ที่ทุกคนจะต้องช่วยกันทำ เราทุกคนก็ต่างมีส่วนที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้น เพราะเพียงแค่เราหายใจอยู่เฉยๆก็ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาแล้ว ยังไม่รวมถึงกิจกรรมต่างๆมากมายที่เราทำอยู่ทุกๆวัน ถึงเวลาที่เราต้องเลิกคิดว่าภาวะโลกร้อนไม่ใช่ธุระของเรา แล้วหันมาร่วมมือกัน..มาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาโลกร้อนกันเถอะ

ถ้าท่านคิดว่าการลดภาวะโลกร้อนนั้น มันทำได้ยาก หรือคิดว่าท่านคนเดียวช่วยโลกไม่ได้ หรือว่าจะทำตอนนี้มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นแล้ว ท่านกำลังคิดผิด!! ทุกอย่างที่เราทำจะส่งผลดีต่อโลก และมันยังมีเวลาอยู่ ถ้าไม่เริ่มที่ตัวเราก่อนก็ไม่รู้จะให้ไปเริ่มจากตรงไหน แค่เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างของเราทำอยู่ในวันๆหนึ่ง ก็สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้แล้ว ผมจะยกตัวอย่างให้ดูซัก 10 ข้อ ผมเชื่อว่ามันใกล้ตัวทุกท่านมาก และสามารถลงมือทำได้เลยด้วยซ้ำ

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การ ชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำ แบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุง พลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่ แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่าน ไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคน นั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ มนุษย์ ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

กฎที่อ่านแล้วจะบอกว่า เออ...จริงว่ะ?

จริงเหรอ เหตุการณ์รอบตัวบ่อยครั้งทำให้นึกน้อยใจในโชคชะตาเพราะมันมักเลวร้ายกว่าที่ควร เช่น ขับรถมาเป็นสิบปีไม่เคยชนอะไรแต่พอถูกขอร้องให้ถอยรถ เพื่อนออกจากซอยไม่ถึง 30 เมตรกลับชนเสาไฟฟ้าโครมใหญ่เหตุการณ์เลวร้ายเกิดเหมือนสวรรค์แกล้งนี้ เกิดบ่อยกับทุกคน จนมีผู้ตั้งเป็นกฎไว้ เรียกว่า กฎของเมอร์ฟี่ ความว่า ถ้ามันเคยผิดพลาด มันก็จะผิดซ้ำอีก นอกจากกฎของเมอร์ฟี่ยังมีกฎอื่นๆที่มีผู้สังเกตพบมากมาย สมควรรวบรวมไว้ดังนี้

1.กฎความเป็นไปได้
ขนมปังทาเนยที่พลัดตกพื้น จะเอาหน้าด้านที่มีเนยคว่ำลงเสมอ และโอกาสที่เนยตกเปื้อนพรม จะมีมากขึ้นเป็นส่วนกับราคาของพรม

2.การดูดวง
หมอดูมักทายหลายเรื่องทั้งดีและเลวแต่เรื่องที่แม่นที่สุดคือเรื่องที่เลวที่สุด

3.กฎแห่งความแม่นยำ
หากขว้างก้อนหินสะเปะสะปะ มันจะพุ่งตรงเข้าหาวัตถุที่มีราคาแพงที่สุด

4.กฎของหาย
ของใช้ที่เราเห็นทุกวันจะหายต่อเมื่อเราต้องการใช้มัน

5.กฎของเมธี
เลขที่เราไม่ซื้อคือเลขที่จะออกงวดนั้นและหวยที่เราซื้อมักใกล้เคียงกับหวยที่ออกหากได้บวกลบคูณหารด้วยเลขอะไรสักตัว หรือกลับหน้ากลับหลังแต่ถ้าเราซื้อเลขกลับมันจะออกเลขตรงและถ้าเราซื้อทั้งสองแบบมันจะไม่ออกเลย

6.กฎแรงโน้มถ่วง
วัตถุ 2 ชิ้นน้ำหนักไม่เท่ากันจะตกถึงพื้นด้วยความเร็วขนาดที่ทำลายทรัพย์สินได้มากที่สุด เท่าๆกัน

7.ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อหนังสือ
หนังสือปกสวย เนื้อในมักห่วย หนังสือปกขี้เหร่ เนื้อในห่วยกว่า

8.กฎห้ามพูด
คนไทยรู้จักกฎนี้ดี จนมีสุภาษิตว่า เข้าป่าอย่าเรียกหาเสือกฎมีว่า ทันทีที่คุณพูดแสดงความคาดหวังถ้าหวังสิ่งเลวสิ่งเลวจะมาหาและถ้าหวังสิ่งดี สิ่งเลวก็จะมาหา

9.กฎของโฮว์
มนุษย์ทุกคนมักจะทำอะไรไม่สำเร็จ

10.กฎของไซเมอร์กี้
ถ้าคุณรื้อชิ้นส่วนออกมาประกอบใหม่จะมีน็อตเหลือเสมอ

11.ข้อสังเกตของอีตัวร์
รถเลนข้างๆ มักเคลื่อนตัวดีกว่าเลนของเรา

12. กฎการแก้ปัญหา
ในปัญหาใหญ่ๆ ที่เป็นอุปสรรคให้เราแก้ มักมีปัญหาเล็กๆอยู่ภายในซึ่งพร้อมจะขยายตัวแทนที่ทันทีที่ปัญหาใหญ่ได้รับการ แก้ไขลุล่วง

13. กฎทอง
คนมีทองคือคนออกกฎ

14. ธรรมชาติของมนุษย์
มนุษย์เรามีสองประเภทประเภทแรก คือ คนที่ชอบแยกคนเป็นสองจำพวกประเภทที่สอง คือ คนที่รังเกียจพวกแรก

15. กฎยิ่งน้อยยิ่งดีของซีกัล
คนที่มีนาฬิกาเรือนเดียว จะรู้เวลาแน่นอน คนที่มีนาฬิกาเพิ่มมาอีกเรือน จะไม่แน่ใจว่า เวลาใดถูกต้อง

16.กฎการใช้เวลาเหลื่อมล้ำ
การเริ่มต้นงานเป็นสิ่งยากเพราะงาน 90 % แรก จะกินเวลาไปถึง 90% ของเวลาในโครงการ ส่วนงาน 10% ที่เหลือจะกินเวลาอีก 90% ของเวลาในโครงการ

17.กฎของโอ รีลลี
สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในโลกนี้ คือ การทำโต๊ะทำงานให้สะอาด

18. กฎของลีเบอร์แมน
นักการเมืองทุกคนโกหก แต่ไม่เป็นไรเพราะไม่มีใครฟังใคร

19. กฎน้ำพริกถ้วยเก่า
เสื้อผ้าตัวเก่งจะเก่าซอมซ่อทันทีที่เราได้ตัวใหม่

20. ข้อเท็จจริงขององค์กร
ในทุกหน่วยงานมักมีพนักงานคนหนึ่งและคนเดียวที่มองเห ็นปัญหาที่แท้จริงขององค์กรและคนๆ นี้จะถูกไล่ออกเสมอ

21. กฎการโต้เถียง
คนที่พูดน้อยคือคนที่รู้มาก

22. กฎการทำงานเป็นทีม
เมื่องานยุ่งยาก ทุกคนผละหนี

23. กฎการมองโลก
มนุษย์ สามสิบคนในร้อยคน ชอบมองโลกในแง่ร้าย ที่เหลือมองร้ายกว่า

24. กฎการประกันภัย
เวลาขับรถ มักจะเจออุบัติเหตุรถชน ในวันที่ประกันชั้น 1 หมดอายุได้ 1 วัน

แถมอีกอัน ไม่รู้ทำไม เวลาหนังสือร่วงใส่เท้าต้องร่วงโดนใส่หัวแม่เท้าเสมอ ไม่เคยปรากฎว่าร่วงใส่นิ้วก้อยมั่ง
อีกอันนะ เสียงโทรศัพท์ กริ้งสุดท้ายคือจะดับไปก่อนที่เราจะรับทัน1ก้าวเสมอ
ขอบคุณบทความจาก ชุมชนการเรียนรู้