วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วันสิ้นโลกในมุม...พุทธศาสนา

คติความเชื่อในพุทธศาสนาเชื่อกันว่า ในภัทรกัปนี้ โลกใบนี้เคยมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติแล้ว ๔ พระองค์ คือ
๑.พระกกุสันธะ
๒.พระโกนาคมนะ
๓.พระกัสสปะ
๔.พระโคดม (พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน)

ส่วนองค์ที่ ๕ จะอุบัติขึ้นหลัง พ.ศ.๕๐๐๐ คือ พระศรีอริยเมตไตรย ในยุคนี้จะมีต้นกัลปพฤกษ์เกิดขึ้นทั้งสี่มุมเมือง อันเป็นต้นไม้สารพัดนึก ทุกคนมีศีลธรรมเป็นยุคที่ศาสนารุ่งเรืองและมีความอุดมสมบูรณ์ นับว่าในยุคศาสนาของพระพุทธเจ้าพระศรีอริยเมตไตรยเป็นศาสนาที่คนพึงปรารถนาจะมาเกิดในศาสนานี้ หลังจากสิ้นยุคของพระศรีอริยเมตไตรย แล้ว โลกก็จะแตกพินาศไป เพราะไฟ (ดวงอาทิตย์เรียงกัน ๗ ดวง )

อย่างไรก็ตาม ใน พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ๒๖. พุทธปกิณณกกัณฑ์ เล่มที่ ๓๓ ข้อ ๑ หน้า ๗๒๑ ได้เขียนไว้ว่า โลกเสื่อมมี ๓ อย่าง คือ
๑.อาโปสังวัฏฏกัป (กัปที่เสื่อมเพราะน้ำ) หมายถึงกัปที่เสื่อมเพราะน้ำนับแต่ชั้นสุภกิณหพรหมลงมา
๒.เตโชสังวัฏฏกัป (กัปที่เสื่อมเพราะไฟ) หมายถึงกัปที่ไฟไหม้ นับแต่ชั้นอาภัสสรพรหมลงมา
๓.วาโยสังวัฏฏกัป (กัปที่เสื่อมเพราะลม) หมายถึงกัปที่ลมพัดทำลาย นับแต่ชั้นเวหัปผลพรหมลงมา หรือหมายถึงช่วงระยะเวลาที่เปลวไฟดับจนถึงมหาเมฆที่ให้กัปพินาศ

นอกจากนี้แล้วพระพุทธเจ้าได้ตรัสเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับโลกและจักรวาลไว้ในพระสูตรต่างๆ ในพระไตรปิฎกหลายพระสูตร เช่น
๑.อัคคัญญสูตร ว่าด้วยเรื่องกำเนิดของโลก กำเนิดของมนุษย์ และวรรณะทั้ง ๔ หน้า ๖๑ เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย
๒.จูฬนีสูตร ว่าด้วยเรื่องจักรวาล หน้า ๑๒๕ เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย
๓.สุริยสูตร ว่าด้วยเรื่องในอนาคต พระอาทิตย์จะเกิดขึ้นครบ ๗ ดวง และการพินาศของโลกหน้า ๘๓ เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย
๔.อุปสถสูตร ว่าด้วยสวรรค์ ๖ ชั้น หน้า ๑๙๕ เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เป็นต้น

"ในฐานะนักดาราศาสตร์ ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน เพราะโลกอยู่มาตั้งหลายพันล้านปี มีสรรพสิ่งเกิดและดับสูญไปตามวัฏจักร วิตกกังวลไปก็เท่านั้น แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น