วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การใช้ไคโตซานกับพืชผักผลไม้ฯลฯ
ไคโตซานในด้านการเกษตรกรรมนั้น ได้มีการนำไคโตซานมาใช้เป็นอาหารเสริมให้แก่พืชเพื่อช่วยควบคุมการทำงานของพืชผลไม้และต้นไม้ให้ทำงานได้ดีขึ้นคล้ายๆกับการเพิ่มปุ๋ยพิเศษให้แก่พืชผักผลไม้ นอกจากนี้ยังนำไปใช้ในการป้องกันโรคที่เกิดจากจุลินทรีย์ และเชื้อราบางชนิดอีกด้วย ซึ่งตามหลายงานวิจัยบอกไว้ดังนี้
- ช่วยเร่งการเจริญเติบโตและเสริมสร้างความแข็งแรงทุกส่วนของพืช ให้กับพืชทุกชนิด
- ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับ ระบบราก ใบ ดอก และผล
- ช่วยลดการหลุดร่วงของดอกและผล ทำให้ขั้วดอกและผลเหนียวขึ้น ป้องกันผลแตก

- ช่วยให้พืชผักและผลไม้ มีน้ำหนักดีขึ้น 30-80%
- ช่วยกระตุ้นต้นพืชสร้างสารลิกนิน และสร้างภูมิต้านทานโรค
เพื่อป้องกันและต่อต้านการกัดกินของแมลง ฯลฯ
- ช่วยป้องกันและยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคพืช เช่น โรครา ราน้ำค้าง ราสนิม ราแป้ง ใบจุด แอนแทรคโนส แบคทีเรีย ไวรัสที่ก่อโรคพืช เป็นต้น ฯลฯ
- ช่วยป้องกันและยับยั้งการเกิดโรคซึ่งเกิดมาจากเชื้อจุลินทรีย์ในดิน ฯลฯ
- ช่วยปรับสมดุลย์ระบบนิเวศน์ดินและน้ำ ปรับสภาพดินที่เสียให้กลับดีขึ้นเรื่อยๆ ดินอุ้มน้ำได้ดี ร่วนซุย
- ทำให้ผลผลิตสูงขึ้นและมีคุณภาพที่ดีสม่ำเสมอ
- ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานให้แก่เมล็ดพืชที่จะนำไปเพาะขยายพันธุ์ทำให้มีอัตราการขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น และอัตราการงอกดีขึ้น
- ช่วยลดปริมาณ การใช้ปุ๋ยและสารเคมียาฆ่าแมลง ต่ำกว่า 30-50%

ทุกวันนี้เกษตรกรได้นำเอาผลิตภัณฑ์ไคโตซานไปใช้ประโยชน์กับพืชผักผลไม้หลายชนิดแล้ว เช่น หน่อไม้ฝรั่ง
, ต้นหอม , คะน้า , แตงโม , ข้าว , ถั่ว ,
ข้าวโพด ตลอดจนไม้ดอกไม้ประดับที่มีราคาสูงหลายชนิด เช่น ดอกคาร์เนชั่น ดอกเยอบีร่าพันธุ์นอก ดอกแคดิโอลัสและดอกบานชื่นฝรั่ง เป็นต้น ฯลฯ 
http://www.poodangsiam.com/chitosanpowder.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น