วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ประเภทของรายได้ มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินพยายามอธิบายเพิ่มเติมอย่างน่าสนใจถึงการวัดปริมาณความร่ำรวย จากจำนวนวันที่เรามีชีวิตอยู่ได้ตามปกติ โดยไม่ต้อ

ประเภทของรายได้

มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินพยายามอธิบายเพิ่มเติมอย่างน่าสนใจถึงการวัดปริมาณความร่ำรวย จากจำนวนวันที่เรามีชีวิตอยู่ได้ตามปกติ โดยไม่ต้องทำงาน ผู้ที่จะไปถึงจุดนั้นได้ หมายความถึง ผู้ที่สามารถบริหารกระแสเงินสดให้เป็นบวก (คือ มีรายได้อัตโนมัติมากกว่ารายจ่าย) นั่นเอง

เมื่อเราพินิจพิเคราะห์รายได้ของคนเราในแบบต่างๆ จะพบว่า รายได้มี 2 แบบ คือ

1. Active Income คือ รายได้ที่ได้มาจากการทำงาน ถ้าไม่ทำไม่ได้ เช่น รับเงินเดือน, เจ้าของร้านค้าขนาดเล็ก, นักแสดง, ผู้ใช้แรงงาน, ผู้ขายบริการ, พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด ฯลฯ

2. Passive Income หรือ Recurring income, Residual incomeคือ รายได้ที่มาจากทรัพย์สิน ไม่ได้เกิดจากการทำงานโดยตรง เช่น หุ้น, ตึกให้เช่า, สิทธิบัตร, ลิขสิทธิ์, ค่าการตลาด ฯลฯ รายได้นี้ถ้ามีมาอย่างต่อเนื่องและถ้ามีมากกว่ารายจ่าย จะทำให้เรามีอิสรภาพทางการเงินและชีวิตมีอิสระขึ้น

ตัวอย่าง รายได้เเบบ Passive, Recurring income
1. ลงทุนเป็นหุ้นส่วนบริษัท(หรือลงทุนในตลาดหลักทรัพย์) ถ้ามีบริษัทดีๆ สักแห่ง สนใจเงินลงทุนของคุณ การใช้ "เงินทำงาน" แบบนี้ก็น่าสนใจ วิธีการไม่ยุ่งยากคุณไม่ต้องทำอะไรเลย ปล่อยให้ผู้บริหารอาชีพทำงานให้และคุณรอรับเงินปันผลทุกปีหรือคุณสามารถนำเงินของทุนไปลงทุนใน ตลาดหลักทรัพย์หรือตราสารการเงินต่างๆ

2.ขายลิขสิทธิ์ หากคุณมีไอเดียดีๆ คุณสามารถ มีรายได้ จากเปอร์เซนต์ การจำหน่าย สินค้า บริการ จากไอเดียคุณ โดยไม่คุณไม่จำเป็นต้องลงทุนเอง


3. สร้างอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าหากคุณเป็นเจ้าของที่ดินทำเลดี มีเงินในกระเป๋าสัก 5-20 ล้านบาท (หรือมีเครดิตกู้ธนาคารได้) ธุรกิจนี้น่าสนใจ อพาร์ทเม้นท์ที่สร้างเสร็จจะกลายเป็นทรัพย์สินที่ทำเงินสร้างรายได้ให้คุณ(โดยไม่ต้องทำงานประจำ) หน้าที่ของคุณเพียงบริหารจัดการตามปกติ (Routine) หรือจ้างผู้จัดการสักคน เท่านี้ก็เป็นอิสระ มีรายได้ยาวนานมั่นคงแถมเป็นมรดกให้ลูกหลานอีก

4. ซื้อแฟรนไชส์ มีแฟรนไชส์ดีๆมากมายทั้งขนาดใหญ่เเละเล็ก ใช้เงินที่ลงทุนประมาณ 300,000 ถึง 60 ล้านบาท ที่มีการบริหารจัดการ (Know How) ที่เป็นระบบแบบมืออาชีพ คุณเพียงแค่ลงทุน ศึกษาระบบให้เข้าใจและหาลูกจ้างมาทำงาน แค่นี้รายได้ก็จะหลั่งไหลเข้ามาเหมือนสายน้ำ โดยที่ไม่ต้องเหนื่อยด้วยตัวเอง

5.ทำการตลาดแบบเครือข่าย เป็นการตลาดรูปแบบใหม่ถือกำเนิดมาได้ประมาณ20ปีก่อนเป็นการทำตลาดที่มีการผสมผสานรูปแบบแฟรนไชส์ และ BUZZ Marketing เข้ากับการตลาดแบบหลายชั้น (Multilevel Marketing) เป็นรูปเเบบธุรกิจที่ออกเเบบให้กับผู้ที่มีงบลงทุนน้อย เเละธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่เรียกว่ามีความเสี่ยงต่ำเเต่มี ROI (Return of Investment)หรือผลตอบเเทนคุ้มค่าที่สุด อย่างหนึ่ง

วิธีการทำธุรกิจแบบนี้คือ ต้องมีการศึกษาจุดดีจุดเด่นของบริษัทธุรกิจและสินค้าก่อนเป็นอันดับแรก แล้วจึงสร้างตลาดเครือข่ายผู้บริโภค.....โดยทั่วไปจะใช้การบอกต่อหรือการขายโดยตรงแล้วถ่ายทอดวิธีการ (Know how) ให้กับผู้ที่สนใจทำการตลาดในองค์กรเครือข่ายต่อเนื่องต่อไป เรียกว่าเป็นการใช้พลังของเครือข่ายแบบ

ไมโครแฟรนไชส์ ซึ่งมีข้อดีคือ เงินลงทุนต่ำและไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือประสบการณ์มาก่อน หลังจากสมัครเป็นสมาชิกในองค์เครือข่ายสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือที่ปรึกษาธุรกิจที่มีความรู้ความสามารถจริงๆมาช่วยเหลือถ่ายทอดวิธีการทำธุรกิจ (Know how) ให้จนประสบความสำเร็จ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น