วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แล้วธุรกิจเครือข่ายมีอะไรบ้าง ต้องทำอย่างไร และรายได้มาจากไหน

แผนธุรกิจขายตรงนั้นมีหลายแผนการตลาดแล้วแต่บริษัทขายตรงนั้นๆ จะเลือกแบบใดมาใช้ ขึ้นอยู่ความพร้อมและความต้องการของตลาดผู้บริโภค มาดูแผนการตลาดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอเมริกา ได้แก่
1. แผนการตลาดแบบไบนารี่ ความนิยม 58% ซึ่งปัจจุบันนี้ในประเทศไทย หลายบริษัทก็ได้นำระบบนี้เข้ามาใช้ในการทำตลาดหลายบริษัทเหมือนกัน
2. แผนการตลาดแบบยูนิลีเลเวล ความนิยม 18%
3. แผนการตลาดแบบแมทริก ความนิยม 10%
4. แผนการตลาดแบบไฮเบิร์ด ความนิยม 8%
5. แผนการตลาดแบบสแตร์ สเต็ป ความนิยม 6% ซึ่งแผนการตลาดแบบนี้ คนไทยจะรู้จักโดยส่วนมาก และประสบความสำเร็จหลายบริษัทที่รู้จักกัน
6. แผนการตลาดแบบปาร์ตี้แพลน ความนิยม 1%
ที่มาของข้อมูลจาก MLM Survey.com และหนังสือพิมพ์ตลาดวิเคราะห์ได้ตีพิมพ์ลงในหนังสือเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2546 เพื่อให้คนไทยได้รับทราบเกี่ยวกับแผนการตลาดที่มีอยู่
ซึ่งในประเทศไทย ณ ปัจจุบันมีการนำแผนการตลาดแบบไบนารี่ ยูนิลีเวล และสแตร์ สเต็ป เข้ามาใช้ แต่คนไทยยังไม่เข้าใจถึงระบบการตลาดที่แท้จริง



เรามารู้ก่อนว่า “ธุรกิจเครือข่ายเขาทำกันอย่างไร? จึงจะประสบความสำเร็จ”
เป็นเรื่องหนึ่งที่คนส่วนมากจะเข้าใจไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำธุรกิจเครือข่าย โดยส่วนใหญ่แล้วจะนึกถึงธุรกิจเครือข่าย คือ “การขายสินค้าเท่านั้น” นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจเท่านั้นเอง ที่จริงแล้วการทำธุรกิจขายตรงนั้นคือ การขยายเครือข่ายผู้บริโภคจากตัวเราเองไปสู่ญาติพี่น้อง เพื่อน คนรู้จัก และคนไม่รู้จักลำดับถัดไป

การขยายเครือข่ายผู้บริโภค คือการแนะนำให้ผู้ที่รู้จัก และไม่รู้จัก ให้มาใช้สินค้าบริษัทขายตรงของตน โดยวิธีการอาจจะนำไปเสนอขายในลำดับแรก และ/หรือการนำเสนอแผนการตลาดและความมั่นคงกับบุคคลเหล่านั้น จนเขาเกิดความประทับใจในสินค้า และ/หรือแผนการตลาด จนในที่สุดก็ได้เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกหรือนักธุรกิจกับเรา หลังจากนั้นบุคคลเหล่านั้นที่เราแนะนำก็จะทำเช่นเดียวกับเรา โดยการไปแนะนำให้กับบุคคลที่รู้จัก และไม่รู้จักต่อไป จนเกิดเป็นเครือข่ายผู้บริโภค
แล้วรายได้หละมาจากไหน

จะขอกล่าวไว้อย่างสั้นๆ ก่อนที่จะยกตัวอย่างแผนการตลาดอย่างละเอียด โดยจะแยกเป็น
แผนการตลาดแบบไบนารี่ จะจ่ายผลตอบแทนให้กับเรา โดยการที่เราไปแนะนำคนเพียง 2 คน เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกและได้ใช้สินค้า ตามแผนการตลาดจะกำหนดให้ผู้สมัครใช้สินค้าถึงระดับหนึ่ง (ตำแหน่งที่จะมีการจ่ายผลตอบแทนเป็นคู่ หรือการแนะนำ 2 คน โดยที่สมัครอยู่ข้างซ้าย และขวาของรหัสเรา) จะมีการจ่ายผลตอบแทนเป็นคู่ (2 คน ซ้าย-ขวา) โดยที่บริษัทอาจจะกำหนดการจ่ายเงินเป็นคู่ๆ ยกตัวอย่างคู่ละ 500 บาท หรือคู่ละ 1000 บาท แล้วแต่แผนการตลาดของบริษัทจะกำหนด นอกจากการจ่ายผลตอบแทนเป็นคู่แล้ว จะมีการจ่ายผลตอบแทนในการซื้อใช้สินค้าซ้ำในรหัสเดิม (หลังจากจ่ายเป็นคู่ไปแล้ว หรือตามแผนการตลาดของบริษัทนั้นจะกำหนด) ซึ่งจะจ่ายรายได้จากส่วนลดรายเดือนของยอดซื้อสินค้ารวมของรหัสที่อยู่ใต้รหัสของเราลงไปทั้งหมด (อาจจะไม่ซื้อซ้ำก็ได้แล้วแต่แผนการตลาดของบริษัทนั้นๆ ตัวอย่างเช่น ส่วนลด 3% จากยอดซื้อสินค้าในเครือข่ายของเราทั้งหมด ซึ่งการจ่ายส่วนลดรายเดือนจะจ่ายเดือนละครั้ง ส่วนการจ่ายเป็นคู่ (2 คน ซ้าย-ขวา) จะจ่ายเป็นรายวัน หรือรายสัปดาห์ แล้วแต่บริษัทนั้นๆ จะกำหนด

แต่ในปัจจุบันได้มีการนำระบบแมชชิ่งเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการจ่ายผลตอบแทน ซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก บริษัทขายตรงส่วนใหญ่จะนำเอาระบบหลายระบบมารวมกัน เพื่อให้ผลตอบแทนต่อสมาชิกให้มากที่สุด เช่น จับคู่จ่าย+ยูนิลิเวล+แมชชิ่ง เป็นต้น
แผนการตลาดแบบสแตร์ สเต็ป จะจ่ายผลตอบแทนเป็นรายเดือนแล้วแต่บริษัทนั้นๆ จะกำหนด โดยการที่เราไปแนะนำคนมาต่อรหัสเรากี่คนก็ได้แล้วให้ซื้อสินค้าใช้ รายได้จะเกิดจากการรวมยอดของเราและยอดรวมของผู้ใช้สินค้าทั้งหมดที่อยู่ในเครือข่ายของเรา (ใต้รหัสเราลงไปไม่จำกัด) แล้วจะนำมาคิดเป็นส่วนลดรายเดือน โดยจะแบ่งการจ่ายผลตอบแทนเป็นขั้นๆ ไป เช่น 3%, 6%, 9%, 12%...... เป็นต้น ขึ้นอยู่กับการวางแผนการตลาดของบริษัทนั้นๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น