วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ฝันให้ไกล ไปให้ถึง

ฝันให้ไกล ไปให้ถึง

เมื่อ หลายวันก่อน ผมได้มีโอกาสไปฟังการการบรรยายของบริษัทที่ทำธุรกิจการตลาดเครือข่ายบริษัท หนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทจากต่างประเทศและเข้ามาเปิดดำเนินการได้เพียงประมาณ 1 ปีเท่านั้น และแผนการตลาดแนวใหม่ที่น่าสนใจ ผู้บรรยายก็เป็นผู้แทนจำหน่ายระดับสูงท่านหนึ่ง สิ่งที่บรรยายก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ที่ทำงานด้านการตลาดเครือ ข่าย ผมจึงขอนำมาถ่ายทอดเพื่อเป็นส่วนหนึ่งสำหรับท่านที่สนใจและอาจจะนำไปเป็น ส่วนหนึ่งในแนวทางการทำงานได้

สำหรับผู้ที่สนใจหรือกำลังที่จะเข้า สู่วงการการตลาดเครือข่ายนั้น คงจะต้องทำความเข้าใจซะตั้งแต่ตอนนี้เลยนะครับว่า การทำธุรกิจเครือข่ายนั้นเหมือนกับการที่คุณได้ทำธุรกิจส่วนตัวนะครับ ไม่ใช่เหมือนการเปิดแผงขายสินค้าเล็ก ๆ ดังนั้นถ้าคุณได้ฟังใครพูดว่า “เพียงคุณทำงานวันละ 2-3 ชม. แนะนำคนมาสมัครเดือนละ 2-3 คน ซื้อสินค้าเดือนละ 3-4 พันบาท เพียงไม่กี่เดือนคุณก็จะรวยแล้วก็จะมีอิสระทั้งด้านเวลาและอิสระทางด้านการ เงิน” มันไม่ง่ายอย่างที่ว่าหรอกครับ แต่ก็ไม่ต้องตกใจหรือเสียขวัญจนเลิกล้มความตั้งใจนะครับ มันจะเป็นจริงได้ถ้าคุณมีความตั้งใจที่แน่วแน่และเตรียมตัวเตรียมใจในการทำ งานหนักในช่วงแรก ๆ การตลาดเครือข่ายไม่ใช่เครือง ATM ที่จะสามารถกดเงินด่วนได้ทันใจ

การเตรียมพร้อมเตรียมตัวเตรียมใจก็ เหมือนกับการที่คุณจะออกไปเพื่อแข่งกีฬา หรือทำสงครามเพื่อให้ได้ชัยชนะมาซึ่งก็เหมือนกับเป้าหมายในการพิชิตตำแหน่ง หรือรายได้จากธุรกิจนั่นเอง สิ่งที่คุณต้องพยายามสร้างให้เกิดขึ้นมี 4 ข้อใหญ่ ๆ ดังนี้

1. ฝันใหญ่ เป็นคุณสมบัติที่สำคัญข้อหนึ่งของนักการตลาดเครือข่าย คนเราเกิดมาก็ต้องตายด้วยกันทุกคน ไม่ว่าจะฝันเล็กฝันใหญ่ก็ต้องตายเหมือนกัน เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศการแข่งขันโอลิมปิค ทุกท่านคงไม่พลาดการลุ้นเหรียญทองของน้องอร วีรสตรีไทยเหรียญทองคนแรกของไทย เป็นเพราะเธอมีความฝันที่ยิ่งใหญ่กล้าที่จะเรียกน้ำหนัก กล้าที่จะออกไปสู้กับตัวเองต่อสายตาของคนทั้งโลกและหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ และในที่สุดเธอก็ทำได้ เห็นมั๊ยครับว่าเธอฝันใหญ่ขนาดไหน ข้อดีของการฝันใหญ่อีกประการหนึ่งก็คือ ถ้าคุณมีความฝันที่ใหญ่มาก และคุณทำได้เล็กกว่าที่ฝัน ก็ไม่เสียหายมากนัก แต่ถ้าไม่ฝันเลยก็ไม่ได้อะไรเลยใช่มั๊ยครับ

2. สมาธิและความแน่วแน่ อันนี้ก็สำคัญอีกเหมือนกันครับ ต้องมีความมุ่งมั่นมองไปข้างหน้า เปรียบกับม้าแข่ง ก่อนแข่งก็จะต้องมีการป้องด้านข้างของตาม้าเพื่อให้ม้ามองไปแต่เพียงข้าง หน้าเท่านั้นจะได้ไม่เสียสมาธิ ถ้าเปรียบกับกีฬาก็คงต้องยกตัวอย่างของภราดร นักกีฬาขวัญใจชาวไทยที่ระยะหลังอันดับโลกกำลังร่วงลงเรื่อย ๆ ผลการแข่งขันก็แพ้มากขึ้น ดูเหมือนกับว่าภราดรกำลังเสียสมาธิไป เวลาเล่นส่วนมากก็จะตีเสียเองมากขึ้น นั่นหมายความว่าคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุดของภราดรในตอนนี้ก็คือ ตัวเอง ต้องมีสมาธิและมุ่งมั่นที่จะเอาชนะตัวเองให้ได้ซะก่อน แต่ในขณะที่แทมมารีน นักเทนนิสหญิงของไทยกลับมีผลงานที่ดีขึ้นในระยะนี้ ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะแทมมี่กำลังอยู่ในช่วงที่มีสมาธิและมุ่งมั่นที่จะไปให้ ถึงเป้าหมายให้ได้ ยังไงก็แล้วแต่ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนไปให้ถึงดวงดาวเร็ว ๆ นะครับ เพื่อเป็นขวัญใจให้เด็กไทยได้เป็นตัวอย่างต่อไป

3. ทีมเวิร์ค อันนี้ก็สำคัญอีกแล้วครับท่าน การตลาดเครือข่ายนั้นผู้ที่เข้ามาใหม่นั้นก็เหมือนกับเด็ก อัพไลน์มีหน้าที่ที่จะต้องช่วยเหลือในช่วงแรก ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีมเวิร์คเหมือนกับเครืองจักรที่ต้องมีฟันเฟืองที่ต้อง หมุนไปพร้อม ๆ กันถึงจะทำงานได้ ถ้าเปรียบกับโอลิมปิคก็ต้องเปรียบกับการแข่งขันกระโดดน้ำคู่ ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ยากมาก ลองคิดดูสิครับกระโดดคนเดียวก็ยากแล้ว นี่ต้องกระโดดพร้อมกันสองคนและต้องให้พร้อมกันอีกด้วยยากมั๊ก...มากครับ นักกีฬาชาติอื่นเช่นพวกยุโรปต่างก็พยายามที่จะใช้ท่ายากเพื่อให้ได้คะแนน ความยากมาก ๆ เมื่อท่าที่ใช้ยากการกระโดดเพื่อให้พร้อมกันก็ยากตามไปด้วย และรูปร่างก็ไม่ค่อยจะเท่ากันสักเท่าไหร่ ยิ่งไปกันใหญ่ ในขณะที่นักกีฬาจีนมีความพร้อมและวางแผนมาดีกว่า คือ รูปร่างก็เลือกขนาดที่ใกล้เคียงกันทั้งความสูงและน้ำหนัก ท่าที่ใช้โดดก็เลือกที่ไม่ยากเกินไปคะแนนความยากถึงจะไม่มากนักแต่อาศัยความ พร้อมตั้งแต่การเดินออกมาเตรียมพร้อมที่กระดาน และความพร้อมในการกระโดด และก็ทำได้ดีด้วยนะครับ จนชนะใจกรรมการได้เหรียญทอง เห็นมั๊ยครับว่าทีมเวิร์คสำคัญเพียงใด

4. เล่นไม่เลิก กัดไม่ปล่อย อันนี้ก็สำคัญอีกแล้วหล่ะครับท่าน เราก็ทราบกันอยู่แล้วนะครับว่าธุรกิจนี้ไม่ใช่เรื่องหมู ๆ เพราะฉะนั้นความไม่ย่อท้อสำคัญมากต้องไม่เลิกล้มความตั้งใจง่าย ๆ เหมือนจักรพรรดิ์มองโกลท่านหนึ่งที่แผ่อำนาจจากทะเลดำไปถึงตอนเหนือของแม่ น้ำคงคา ก่อนที่จะยิ่งใหญ่ก็เคยแพ้ข้าศึกมาก่อน อาณาจักรถึงกับล่มสลายจนตัวเองก็ต้องหนีไปซ่อนตัวอยู่ในรางหญ้าเพื่อหลบข้า ศึกไม่มีความกล้าหลงเหลือ มีอยู่วันหนึ่งก็เห็นมดตัวหนึ่งกำลังคาบเมล็ดข้าวโพดเพื่อที่จะข้ามสันดิน เล็ก ๆ แต่สำหรับมดแล้วก็เหมือนกำแพงสูงพอสมควร จักรพรรดิองค์นั้นก็มองดูอยู่ว่าเจ้ามดตัวนั้นจะทำอย่างไร มันคาบเมล็ดข้าวโพดนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่สำเร็จ คุณทราบมั๊ยครับว่ามันคาบไปแบบที่ไม่สำเร็จกี่ครั้ง ทั้งหมด 69 ครั้ง จนจักรพรรดิเอาใจช่วยลุ้นเต็มที่ในครั้งที่ 70 และแล้วก็สำเร็จครับ มันคาบผ่านไปได้ จักรพรรดิดีใจแทนมันจนกระโดดตัวลอย และก็ได้กลับมาคิดว่าแม้แต่เจ้ามดตัวนิดเดียวมันยังไม่คิดที่ยอมแพ้แม้ว่า มันจะล้มเหลวมาแล้วกี่ครั้งก็ตาม จึงได้ลุกขึ้นรวบรวมลูกน้อง แล้วก็กลับไปรบเพื่อชิงอำนาจและบ้านเมืองกลับคืน และก็ทำสำเร็จจนเป็นจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ต่อไป

แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณ จะต้องล้มเหลวมากมายเหมือนเจ้ามดนั่นนะครับ ผมมั่นใจครับว่าถ้าคุณมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ มีสมาธิและความมุ่งมั่นแน่วแน่ มีการทำงานแบบทีมเวิร์คที่ยอดเยี่ยม และเล่นไม่เลิก กัดไม่ปล่อย แล้วหล่ะก็ ไม่นานคุณจะต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จตามฝันแน่นอนครับท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น