วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

นรกสวรรค์มีจริงไหม

คำถาม:กราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพครับว่า คนที่ไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์มีจริง เราจะมีวิธีการอธิบายอย่างเป็นเหตุเป็นผลอย่างง่ายๆ ได้อย่างไรครับ

คำตอบ:เรื่องนรกเรื่องสวรรค์เป็นเรื่องที่มีจริง...ก็จริงอยู่ แต่การที่จะอธิบายให้ใครฟัง ให้เขาเชื่อนั้น มันก็ไม่ง่ายนัก เพราะว่า คนที่จะเข้าใจ จะรับฟังได้ง่าย จะต้องเป็นคนที่มีพื้นใจผ่องใสมาพอสมควร

คนที่จะมีใจผ่องใสพอสมควรนั้น ได้แก่

1.เด็ก ตั้งแต่วัยเด็กเล็ก...ตั้งแต่ชั้นอนุบาลเรื่อยขึ้นมา จนกระทั่งชั้น ป.6 เด็กเหล่านี้ยังไม่ได้แปะเปื้อนอะไร ยกเว้นไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่ดี ไปเจอยาเสพติดเสียก่อน อันนั้นก็ย่ำแย่หน่อย ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว เด็กๆใจจะใสตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้นถ้าจะสอนจะสั่งในเรื่องของนรกสวรรค์ เด็กจะรับได้ง่าย

2.ผู้ใหญ่ที่ยังไม่เคยไปแตะต้องอบายมุข คือ ไม่เคยไปจมอยู่ในวงเหล้า ไม่เคยไปท่องกลางค่ำกลางคืน เที่ยวในแหล่งที่ไม่เหมาะสม ไม่เคยไปจมอยู่ในวงไพ่ อะไรทำนองนี้ ผู้ที่ไม่ได้จมอยู่ในวงอบายมุข ถ้าพูดเรื่องนรกเรื่องสวรรค์ ค่อนข้างจะรับได้ง่าย เพราะใจมันยังไม่เปื้อน

อย่างไรก็ตาม ในโลกปัจจุบันนี้ เนื่องจากอบายมุขมันก็แพร่กันเสียเหลือเกินแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของเรา ที่ไม่ว่าใครใจมืด ใจบอด ใจเปื้อนขนาดไหน เราก็มีหน้าที่จะต้องทำความเข้าใจถูกให้เขาให้ได้ ในเรื่องนรกเรื่องสวรรค์ เพราะว่าถึงอย่างไรเขาก็อยู่ร่วมโลกกับเรา บางทีก็เป็นญาติของเรา เป็นเพื่อนของเรา เรารู้เห็นอะไรดีๆ ก็อยากจะให้เขาได้รู้ได้เห็นความดีนั้นๆ ตามเราด้วย จะไปทิ้งเสีย ได้อย่างไร

ด้วยหัวใจของกัลยาณมิตรที่เปี่ยมล้นอย่างนี้ ก็มีข้อคิดฝากพวกเรา คือ ในการที่จะไปอธิบายแก่ใครให้เข้าใจว่า นรกมี สวรรค์มี ต้องถามตัวเราก่อนว่า “เรามีความเชื่อมั่นในเรื่องนรกเรื่องสวรรค์สักขนาดไหน” ถ้าความเชื่อมั่นตรงนี้ของเรา ยังไม่เต็มร้อย มันก็ยากที่จะดึงใครให้เขาเข้าใจถูกในเรื่องนรกสวรรค์

ทีนี้ ถ้าเรามีความเข้าใจในเรื่องนรกสวรรค์เต็มร้อย มั่นใจเต็มที่ ดังนั้นโอกาสที่เราจะชักชวนใคร ให้เหตุผลกับใครมันก็มากขึ้น

เหตุผลที่จะนำมาชักจูงเขา เราจะรู้ได้ด้วยตัวเองก็คือ ถามตัวเองว่า “เมื่อก่อนนี้เราก็ไม่ค่อยจะเชื่อเหมือนกัน แล้วทำไมวันนี้เราจึงได้เชื่อ” ถามตัวเองได้อย่างนี้แล้ว เดี๋ยวคำตอบจะผุดขึ้นมาเองอีกเหมือนกัน

สำหรับหลวงพ่อนั้น เมื่อก่อนนี้ก็สงสัยว่า “นรกมีจริงไหม สวรรค์มีจริงไหม”_ก่อนที่จะบวชนะ เที่ยวตระเวนถามหลวงพ่อ หลวงปู่วัดต่างๆมาเยอะเลยว่า “หลวงพ่อครับ หลวงปู่ครับ นรกสวรรค์มีจริงไหม”

บางรูปท่านก็บอกว่า ท่านก็ไม่รู้เหมือนกัน บางรูปท่านก็บอกว่า มีจริง ยืนยันเลย

เมื่อไปถามท่านคำที่สองว่า “หลงพ่อ หลวงปู่ เคยไปเห็นมาหรือ” ท่านก็จะตอบหลวงพ่อชัดเลย บางรูปตอบว่า “ไม่เคยหรอก” ก็ถามต่อว่า “อ้าว...ไม่เคยแล้วทำไมหลวงพ่อเชื่อว่า...มี” ท่านก็ตอบว่า “เพราะพระไตรปิฎกบอก” เมื่อถามท่านว่า “ทำไมหลวงพ่อเชื่อพระไตรปิฎกขนาดนั้นล่ะ” ท่านก็ตอบหลวงพ่อมาว่า “พระไตรปิฎกที่เขียนเอาไว้นั้น ผู้ที่เขียนที่บันทึก คือ พระอรหันต์หมดกิเลสแล้ว ท่านไม่หลอกเราหรอก ท่านไม่รู้จะหลอกเราทำไม”

ก็เป็นเหตุผลที่น่าเชื่อได้ระดับหนึ่ง แต่ลึกๆหลวงพ่อเองก็ยังเชื่อไม่เต็มร้อย เพราะท่านเองท่านก็ไม่เคยไปเห็นมา

จนกระทั่ง อยู่มาวันหนึ่ง มาเจอคุณยายอาจารย์ของเรา คุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อ ของพวกเรา ครั้งแรกที่หลวงพ่อไปเจอ ยังเป็นฆราวาสอยู่ ยังเป็นนักศึกษาอยู่ หลวงพ่อได้โอกาสก็ถามคุณยายว่า “คุณยาย นรกสวรรค์นี่มีจริงไหม” คุณยายตอบชัดเจนเลย “มีซิคุณ” แล้วหลวงพ่อยังไม่ทันถามต่อเลย ท่านตอบเสร็จ มองหน้าอย่างกับรู้ใจ “มีซิคุณ เมื่อยายเข้าถึงธรรมกายใหม่ๆเลย องค์พระชัดใส ยายนี่เข้าธรรมกายไป ไปเยี่ยมพ่อยาย ยายก็อาราธนาพระธรรมกายให้ศีลแก่พ่อ เนื่องจากไฟนรกมันดับชั่วคราว”

“พอพ่อยายตั้งใจรับศีลเท่านั้น บุญที่เคยทำมาในอดีตชาติ เคยรักษาศีลมา บุญนั้นก็ตามมา บุญที่เกิดจากการให้ทาน การรักษาศีล การทำภาวนา ข้ามภพข้ามชาติตั้งแต่ชาติก่อนๆโน้น มันตามมาทัน พอนึกถึงบุญเก่าออก แล้วก็ตั้งใจรับศีลจากพระธรรมกายใหม่เท่านั้น บุญเก่าบุญใหม่มาประจบกัน บุญนั้นพาพ่อยายพ้นนรกได้”

“และเนื่องจากทำบุญทำทานอย่างอื่นไว้บ้างอยู่เหมือนกัน ก็มีวิมานเก่าๆ อยู่ในสวรรค์ชั้นต้น พ่อยายก็ได้ไปอยู่บนสวรรค์กับเขาได้เหมือนกัน”

หลวงพ่อได้ยินคุณยายว่าอย่างนี้ นี่เป็นผู้มีศีล แล้วตั้งใจปฏิบัติจริง แล้วไปรู้ไปเห็นมาจริง หลวงพ่อเชื่อท่าน

จึงถามคุณยายต่อ “ยาย...ถ้าอย่างนั้น อย่างผมนี่ จะมีโอกาสไปรู้ไปเห็นนรกสวรรค์อย่างยายบ้างไหม” คุณยายตอบชัด “ได้ซิคุณ” ท่านสร้างความมั่นใจให้ หลวงพ่อจึงถามท่านว่า “ทำไมจึงได้ล่ะยาย” คุณยายก็บอกว่า “ยายน่ะ...อ่านก็ไม่ออก เขียนก็ไม่ได้ หนังสือไม่ได้เรียน แต่ว่าเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการฝึกสมาธิกับหลวงปู่วัดปากน้ำ พระมงคลเทพมุนี ยายเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการฝึกสมาธิ ในที่สุดยายก็เห็นนรกได้ เห็นสวรรค์ได้ คุณน่ะยังหนุ่มยังแน่น การศึกษาทางโลกก็มี เพราะฉะนั้นถ้าคุณตั้งใจฝึกจริงๆ ทำไมจะไม่ได้ เดี๋ยวคุณก็ได้”

ได้ผู้ที่สามารถเห็นนรกสวรรค์มายืนยัน แล้วยังให้กำลังใจอีก หลวงพ่อเชื่อ แต่เชื่อก็เชื่อ 99% ไม่ครบร้อย แล้วทำยังไงจะครบร้อย ก็มีทางเดียว ลงมือฝึก ทำภาวนาอย่างจริงๆจังๆ แล้วให้ตัวเราเองไปเห็นเท่านั้น มันจึงจะครบร้อย ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่ครบอีกอยู่ดี

แล้วตั้งแต่นั้นมา หลวงพ่อก็ตั้งใจฝึกภาวนาของหลวงพ่อเรื่อยมา จบการศึกษาแล้วหลวงพ่อก็เลยมาบวช นี่ก็ 33-34พรรษาเข้ามาแล้ว ยิ่งบวชยิ่งสนุก ยิ่งบวชยิ่งมั่นใจว่า “นรกมี สวรรค์มี”

แต่ว่านั่นแหละ สำหรับใครที่เขายังไม่เชื่อ มันก็คือยังไม่เชื่อ แต่ว่าอย่างน้อยที่สุดสำหรับพวกเราที่จะไปชวนใคร เราก็ต้องฝึกให้ได้ที่นะ แม้ที่สุดยังไม่เห็นนรก ไม่เห็นสวรรค์ แต่ว่าฝึกแล้วได้ความสว่างข้างใน เราก็พอจะรู้แล้วว่า ถ้าจะไปเห็นนรก เห็นสวรรค์ได้ ก็ต้องเห็นโดยอาศัยความสว่างที่เราฝึกได้นี่แหละ แต่ตอนนี้มันยังไม่มาก ก็ฝึกเข้าไป วันหนึ่งมันมาก ก็เห็นอย่างที่คุณยายท่านเห็น เห็นอย่างที่พระอรหันต์ท่านเห็น...ฝึกต่อไป

เมื่อมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนรกสวรรค์มากน้อยแค่ไหนก็เล่าให้เขาฟังได้ ถ้าเขามีปัญญาพอ เขาก็รู้ว่า เราไม่ได้โกหก เขาก็รู้ว่าเราตั้งใจฝึกจริง เดี๋ยวก็พอจะคุยกันได้ เมื่อคุยกันได้ ก็ชวนเขาฝึกตามมา วันหนึ่งเขาจะสัมผัสได้ด้วยตัวเอง วันนั้นเขาจึงจะเชื่อ แต่ถ้าพูดกัน พูดให้ปากหักแล้วจะให้เขาเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นไปไม่ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น