วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Active Income กับ Passive Income

Active Income กับ Passive Income
รายได้ 2 อย่างนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ผมจะพยายามอธิบายตามความเข้าใจของผมที่ได้รับรู้มา

Active Income คือรายได้ที่เกิดขึ้นจากการลงมือทำงาน ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือเป็นรายได้ต่อโปรเจค ที่ต้องทำงานแลกมา ถ้าเราหยุดทำงาน หรือทำงานไม่ได้ รายได้นี้ก็จะไม่ได้รับ เป็นรายได้ที่คนทั่วไปได้รับ เช่น พนักงานบริษัท ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ผู้รับเหมา หรือแม้แต่ชาวนา ที่มีรายได้เป็นฤดูๆ ต้อง ทำงานแลกกับเงิน หยุดทำก็ไม่มีเงิน

Passive Income คือ รายได้ ที่ไม่ได้ การทำงาน รายได้ ที่เกิดจาก ทรัพย์สิน หรือ รายได้ ที่เกิดจากการที่ได้ลงแรงทำงานอย่างหนักจนบรรลุเป้าหมาย หลังจากนั้นเมื่อหยุดทำงาน ก็ยังมีรายได้/ผลตอบแทนต่อเนื่อง โดยไม่ต้องลงมือทำงานอย่างหนักอีกต่อไป และเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับลงทุนลงแรงที่ทำไป
รายได้จาก Passive Income นั้น ไม่ได้เกิดจากการที่เรา ทำงาน แลกเงิน แต่เป็น รายได้ ต่อเนื่องโดยที่เราไม่ต้องออกแรงทำงาน มันเป็นผลจากการทำงานในอดีต ที่ยังเห็นผลต่อเนื่องในปัจจุบันและมีผลต่อไปในอนาคต พูดง่ายๆก็คือ "อยู่เฉยๆก็มีรายได้"

ถ้าท่านอ่าน หนังสือ ของ โรเบิร์ต เล่ม 2 เรื่อง "เงินสี่ด้าน" ท่านคงเห็นตัวอย่างของรายได้ทั้งสองนี้ตั้งแต่บทนำ
เรื่องของเอ็ดกับบิล
เรื่องของถังน้ำกับท่อน้ำ
เรื่องของการลากถังกับต่อท่อ
เรื่องของการ ทำงาน อย่างหนักและทำงานอย่าง ชาญฉลาด

ซึ่ง ความคิด ของทั้งสองคนต่างกันโดยสิ้นเชิง (ถ้าคุณอยากรู้เรื่องราวของเอ็ดกับบิล ต้องไปอ่านเองนะครับ) แล้วคุณล่ะ อยากได้รายได้แบบไหน Active Income หรือ Passive Income
ขอให้คุณตอบจากความต้องการของคุณจริงๆ โดยไม่มีคำว่า "แต่" ไม่ต้องเอา อุปสรรค ข้ออ้างต่างๆนานา มาขัดขวาง ความคิด และ การตัดสินใจ ของคุณ

มีคนบอกว่า
"คนส่วนมากหาเหตุผล เพื่อบอกว่าตัวเองทำไม่ได้เพราะอะไร
และหาเหตุผลที่จะบอกว่าคนนั้นทำได้เพราะเหตุใด"


ถ้าคุณตัดสินใจที่จะมี รายได้ จาก Passive Income แล้วล่ะก็ คุณต้องเริ่มเปลี่ยนตัวเอง เริ่มที่จะ คิดใหม่ เริ่มทำในสิ่งที่แตกต่างจากชีวิตปัจจุบัน เพราะถ้าคุณยังใช้ชีวิตเหมือนเดิมคุณก็ยังคงได้ผลลัพธ์ที่เหมือนเดิมอยู่นั้นเอง ลองกับไปอ่านบทความ "เราจะเอาชนะวิธีคิดแบบเดิมๆได้อย่างไร?" ในนั้นได้เขียนไว้ว่า

ความผิดที่ใหญ่หลวงที่สุดของมนุษย์ก็คือ
"การหวังว่าจะมีชีวิตใหม่ ด้วยความคิดและพฤติกรรมเดิมๆ"

ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้คุณเริ่มจากหนังสือเล่มนี้ "The magic of thinking big - คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก " ผมจะไม่บอกว่ามันดีหรือไม่ดีอย่างไร ถ้าคุณอยากรู้ต้องหามันมาอ่านเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น