วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ปุ๋ยอินทรีย์ ตราปูแดง

ปุ๋ยอินทรีย์ ตราปูแดง
สูตรพิเศษ ผสม ไคโตซานและซิลิคอน ประกอบด้วยธาตุอาหารที่สำคัญสำหรับพืชทุกชนิด
คุณสมบัติของปุ๋ยอินทรีย์ ปูแดงเป็นปุ๋ยอินทรีย์เชิงผสม ในระดับอุตสาหกรรม ผลิตจากมูลสัตว์ต่างๆประมาณ 30 % อีก 70 % เป็นบายโปรดักซ์ของโรงงานอุตสาหกรรม นำมาคลุกเคล้ารวมกันแล้วหมักมากกว่า 1 ปี จากนั้นมาบดเป็นผงละเอียด และผสมกับ ซิลิกอน และไคโตซาน แล้วทำการปั้นเม็ด ทำให้ได้ธาตุอาหารครบ ทั้ง ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ฮอร์โมน และกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับพืช
ปุ๋ยอินทรีย์ปูแดง ช่วยแก้เรื่องดินในบ้านเรา ซึ่งเป็นกรด เป็นด่างมาก ช่วยเพิ่มปริมาณธาตุอาหารต่าง ๆ ช่วยปรับโครงสร้างดินให้ร่วนซุย เป็นประโยชน์ต่อพืชทุกชนิด จึงทำให้พืชสมบูรณ์แข็งแรง โตไว โตเร็ว ใบเขียวเข้ม ขั้วเหนียว เพิ่มผลผลิต มีรสชาติดี สีสวย อร่อย ได้เกรด A ราคาดีเป็นที่ต้องการของตลาด

ประโยชน์ปุ๋ยอินทรีย์ปูแดง
1.ช่วยปรับโครงสร้างของดิน ทำให้ดินร่วนซุย ดินโปร่ง สามารถซับน้ำความชุ่มชื้นได้ดี
2.ช่วยให้จุลินทรีย์ในดินเจริญเติบโตและสร้างปริมาณมากขึ้น เพื่อทำงานที่เป็นประโยชน์แก่ดินและพืชที่ปลูก
3.ช่วยดูดซับธาตุอาหารในดินไว้และยังทำหน้าที่ดูดซับปุ๋ยเคมีที่ใส่ในดินให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นไม่ให้สูญหาย หรือสลายไป เร็ว ( เป็นปุ๋ยอินทรีย์ ที่มีธาตุอาหารครบ สามารถใช้เดี่ยว หรือใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมีก็ได้)
4.ช่วยประหยัดการใช้ปุ๋ยเคมีให้น้อยลง ไม่ทำให้ดินแข็งและเป็นกรดหรือด่าง เป็นการลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยและการผลิตของเกษตรกรโดยตรง (การใช้เกษตรอินทรีย์ จะทำให้ดินดีเพิ่มผลผลิตขึ้นเรื่อยๆ )
5.พืชสามารถนำอาหารใช้ได้ทันทีเพราะเป็นปุ๋ยเย็น มีธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรองและจุลธาตุครบ|
6.ใช้ได้ทั้งพืชผักสวนครัว พืชไร่ ไม้ผลต่างๆ และนาข้าว ข้าวโพด สวนปาล์ม สวนยางพารา
7.มีส่วนผสมของฮิวมิกซ์แอซิส ,ไคโตซาน และสารซิลิกอน ทำให้ผนังเซลล์พืชแข็งแรง โดยเฉพาะในข้าว ,ข้าวโพด เมื่อผนังเซลล์พืชแข็งแรงมากขึ้น ส่งผลให้ลำต้นแข็งไม่หักล้มง่าย
8.ลดต้นทุน ทำให้พืชมีภูมิต้านทานโรค ลดการใช้ยา ปลอดภัยต่อสุขภาพ ช่วยเพิ่มผลผลิต มีรายได้เพิ่ม

ธาตุอาหารหลัก : ไนโตรเจน(N) ฟอสฟอรัส(P) โปรแตสเซี่ยม(K)
ธาตุอาหารรอง : แคลเซี่ยม(Ca) แมกนีเซี่ยม(Mg) กำมะถัน(S)
ธาตุอาหารเสริม : แมงกานีส(Mn) โมลิปตินัม(Mo) สังกะสี(Z) คลอรีน(Cl) โบรอน(B) เหล็ก(Fe) ทองแดง(Cu) นิเกิล(Ni) อินทรีย์วัตถุ(Om) ออแกนิคคาร์บอนด์(Oc) แร่ธาตุ วิตามิน และฮอร์โมนต่างๆ

นาข้าว
-ช่วงอายุ 20-30 วัน 30-50 กก./ไร่
-ข้าวตั้งท้อง 30-50 กก./ไร่
(ช่วยให้ข้าวแตกกอดี ต้นแข็งแรงไม่ล้มง่าย ทนทานต่อโรคและแมลง รวงใหญ่น้ำหนักดี ไม่มีเม็ดลีบ)

ปาล์ม
-ปาล์มปลูกใหม่ ½ กก.ต่อต้น รองก้นหลุม
-ปาล์มเล็ก 1-3 ปี 1-2 กก. ต่อต้น ฝังหรือหว่าน
-ระยะให้ผลผลิต 4 ปี ขึ้นไป 3-4 กก. ต่อต้น ฝังหรือหว่าน
(ช่วยให้ต้นโตเร็ว ต้นสมบูรณ์ แข็งแรง สะโพกใหญ่ ทะลายใหญ่ ลูกสม่ำเสมอ น้ำหนักมาก ป้องกันโรคขาดโบรอน)

ยางพารา
ยางพาราปลูกใหม่ ½ กก.ต่อต้น รองก้นหลุม
ยางเล็ก 1-3 ปี 1-2 กก. ต่อต้น ฝังหรือหว่าน
ยางโต 4-6 ปี 2-3 กก. ต่อต้น ฝังหรือหว่าน
ยางเปิดกรีด 7 ปี ขึ้นไป 3-4 กก. ต่อต้น ฝังหรือหว่าน
(ช่วยให้ต้นเร็ว สมบูรณ์ เปลือกยางหนา และนิ่ม ท่อน้ำยางใหญ่ กรีดง่าย ได้น้ำยางมาก ทนทานต่อโรค แก้ปัญหาหน้ายางตายได้เป็นอย่างดี)

ไม้ผล (ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ส้ม องุ่น ลำไย ฯลฯ)
ระยะต้นเล็ก 1-2 กก. ต่อต้น 2-3 ครั้ง
ระยะให้ผลผลิต 2-3 กก. ต่อต้น
ช่วงหลังแต่งกิ่ง 1-2 กก. ต่อต้น
ระยะสร้างดอก 3-4 กก. ต่อต้น
ช่วงบำรุงผล 3-4 กก. ต่อต้น
(ช่วยให้ต้นโตเร็ว พื้นตัวเร็ว สะสมอาหารได้ดี ผลผลิตต่อไร่สูง ผลใหญ่ เนื้อแน่น น้ำหนักดี ลงสีเร็ว รสชาติดี ขายได้ราคา)

พืชสวน มะเขือ แตงกวา พริก ฯลฯ
ระยะปลูกใหม่หรือทำรุ่น ½-1 ช้อนต่อต้น หรือ 30-50 กก.ต่อไร่
ระยะให้ผลผลิต 1-2 ช้อนต่อต้น หรือ 50-70 กก.ต่อไร่
(ช่วยให้ต้นโตเร็ว พื้นตัวเร็ว ผลดก ผลใหญ่ ได้น้ำหนัก ผลผลิตต่อไร่สูง ทนทานต่อโรค)

พืชผัก(กะหล่ำปลี ผักกาด คะน้า ผักบุ้ง ฯลฯ)
ระยะปลูกใหม่หรือทำรุ่น ½-1 ช้อนต่อต้น หรือ 30-50 กก.ต่อไร่
ระยะให้ผลผลิต 1-2 ช้อนต่อต้น หรือ 50-70 กก.ต่อไร่
(ช่วยให้ต้นโตเร็ว พื้นตัวเร็ว ใบใหญ่ ใบหนา กรอบ น้ำหนัก ผลผลิตต่อไร่สูง ทนทานต่อโรค)

พืชไร่ (ข้าวโพด ข้าวฟ่าง อ้อย ฯลฯ)
รองพื้น 30-50 กก. ต่อไร่
หลังปลูก 30-40 วัน 50-70 กก. ต่อไร่
(ต้นโตเร็ว แข็งแรง ผลผลิตต่อไร่สูง ทนทานต่อโรคและแมลง)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น