วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

จดหมายฉบับนี้สำหรับทุกคนที่ต้องการกำลังใจ

จดหมายฉบับนี้สำหรับทุกคนที่ต้องการกำลังใจ ต้องการสติปัญญา ต้องการทำชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ .. จดหมายฉบับนี้สำหรับคุณด้วยค่ะ!!!

มีผู้ชายคนหนึ่งเขียน email มาหาดิฉันบอกว่า ...

“ผมเข้าอบรมกับอาจารย์เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.48 ประทับใจที่อาจารย์สอนมากครับ แต่มีข้อสงสัยคือ กรณีคนทั่วไปที่รู้สึกว่าตัวเองเริ่มต้นจากศูนย์ การปลุกยักษ์ขึ้นมาอาจจะไม่ใช่เรื่องยากมากนัก แต่กรณีที่มีทุกข์อยู่มากๆ เช่น เรากำลังมีหนี้สินอยู่มากๆ เป็นต้น และคิดว่าตัวเองอยู่ในขั้นติดลบ ไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ การปลุกใจตัวเองขึ้นมาเป็นเรื่องที่ยากมากเลยครับ พยายามที่จะทำอย่างอาจารย์สอนคือ เปลี่ยนจากความเจ็บปวดให้เป็นพลัง นั้นทำได้ยากมาก เพราะเราไม่มีหลักยึดเลย อยากถามว่ากรณีเช่นนี้ เราจะมีหลักคิดอย่างไรครับ เราจะพึ่งหรือวางความรู้สึกไว้ที่ใด จึงจะถีบตัวเองจากความรู้สึกที่ติดลบ และเกิดโมเมนตั้ม อย่างที่อาจารย์สอนได้ครับ ขอบพระคุณมากครับ”

ดิฉันตอบเขาไปว่า ...

ก่อนอื่นขอให้เราทำความเข้าใจในชีวิตของเราก่อนว่า แท้ที่จริงแล้วเราเกิดมาทำไม? และเราจะสร้างสรรค์อะไรให้แก่โลกใบนี้? ถ้าคุณเป็นชาวพุทธ คุณคงจะพอทราบว่า คนเรามีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ ใครทำกรรมใดไว้ไม่ว่าจะดีหรือเลวก็ตาม ย่อมต้องได้รับผลกรรมนั้น เมื่อทราบเช่นนี้ เราคงต้องยอมรับต่อผลของกรรมที่เรากำลังได้รับอยู่นี้ เราอาจจะเคยทำกรรมไม่ดีเอาไว้ตั้งแต่ชาติก่อนก็ได้ ซึ่งถ้าเรายอมรับในสิ่งที่มันเกิดขึ้นว่าเราเป็นผู้ก่อไว้นานแล้ว ก็ O.K. ถ้าเรายอมรับได้เช่นนี้จิตใจของเราก็จะไม่ถูกบีบรัด ไม่เกิดความรู้สึกต่อต้าน หรือคร่ำครวญรันทดกับตัวเองว่า ทำไมถึงต้องเป็นเรา? (คำถามว่า “ทำไม” จะทำให้เราวกวนและจมอยู่กับปัญหา ซึ่งไม่ควรใช้คำถามกับตัวเองแบบนี้ เพราะไม่ก่อให้เกิดสติปัญญา)

เมื่อจิตใจปล่อยวาง ยอมรับในสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น จิตจะเริ่มนิ่ง ผ่อนคลาย และจะเริ่มมีพลังขึ้นมาใหม่ มันอาจจะทำใจได้ยากในตอนแรก แต่เราก็ต้องพยายามบอกตัวเองให้ยอมรับและปล่อยวาง เราเกิดมาเพื่อเป็นผู้ดูสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราเท่านั้น อย่าไปยึดว่านี่คือตัวเรา นี่คือชีวิตของเราที่แท้จริง ถ้าเราเป็นเพียงแค่ผู้ดูและผู้รู้ จิตของเราก็จะนิ่งขึ้น ไม่ว่าเกิดเรื่องดีผ่านเข้ามาในชีวิตเรา เราก็แค่ดู รับรู้ แล้วก็ผ่านไป ไม่ว่าเกิดเรื่องไม่ดีผ่านเข้ามาในชีวิตเรา เราก็แค่ดู รับรู้ แล้วก็ผ่านไป ดูและรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีละเหตุการณ์ทีละเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ อย่าไปคิดว่า “เรื่องนี้ไม่น่าเกิดขึ้นเลย เรื่องนั้นไม่น่าเกิดขึ้นเลย” เรื่องที่เกิดขึ้นก็คือเรื่องที่เกิดขึ้น แค่นั้น จบ.

เมื่อจิตเราไม่ถูกบีบรัดแล้ว จิตเราจะเริ่มนิ่ง ผ่อนคลาย เป็นกลางๆ โล่งๆ ว่างๆ หลังจากนั้น จิตเราจะเริ่มมีพลัง ให้เราเริ่มคิดว่า ตัวเราเองนั้นอยากจะเป็นคนแบบไหน? อยากจะเป็นคนมีนิสัยอย่างไร? (ก่อนที่จะไปคิดว่าเราอยากจะทำอะไร) เมื่อพิจารณาดีแล้ว ให้เขียนลงสมุดหรือบอกกับตัวเองอย่างจริงจังว่า “ฉันจะเป็นคนที่ .............. เช่น ขยัน มุ่งมั่น อดทน รับผิดชอบ กล้าหาญ มีเมตตากรุณา เต็มเปี่ยมด้วยความรักและความปรารถนาดีต่อผู้อื่น เป็นคนที่มีพลังชีวิต ฯลฯ” (ขอให้เป็นคนที่คุณอยากจะเป็นให้ได้จริงๆ ซึ่งไม่จำเป็นว่าตอนนี้คุณจะเป็นเช่นนั้นหรือยัง แต่เป็นตัวคุณในอุดมคติที่คุณอยากจะเป็น)

ต่อไปให้สำรวจชีวิตของคุณที่เป็นอยู่ และให้มองไปข้างหน้า แล้วเริ่มถามคำถามที่ก่อให้เกิดสติปัญญาว่า

เราอยากให้ชีวิตของเราในอนาคตเป็นอย่างไร?

เราจะทำอะไรให้ชีวิตของเราดีขึ้นได้บ้าง?

มีใครที่เราพอจะไปขอความช่วยได้บ้าง? ใครจะช่วยสนับสนุนเราได้บ้าง?

เรามีความสามารถอะไรบ้าง? เราชอบหรือเราสนใจเรื่องใดเป็นพิเศษบ้าง?

เราจะหางาน หาเงินจากวิธีไหนได้บ้าง? หรือหาจากที่ไหนได้บ้าง?

ใครเป็นลูกค้าของเราได้บ้าง? ตลาดใหม่ๆของเราอยู่ที่ไหนบ้าง?

เรามีความสามารถอะไรที่พอจะช่วยเหลือคนอื่นได้บ้าง? (นำไปทำเป็นงานและเป็นเงิน)


ดิฉันไม่รู้ว่าคุณมีความมุ่งมั่นตั้งใจแค่ไหน ที่จะพัฒนาชีวิตของคุณให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ คุณมีความใฝ่ฝันอะไรในชีวิต? คุณอยากประสบความสำเร็จในเรื่องอะไรบ้าง? คุณอยากให้คนอื่นพูดถึงคุณว่าอย่างไรบ้าง? ตอบคำถามเหล่านี้ให้ชัดเจนกับตัวเองก่อน ! คุณอยากได้มันจริงๆหรือเปล่า? คุณอยากได้มันอย่างแรงกล้าหรือเปล่า? คุณกล้าแลกที่ต้องฝืนตัวเองให้เริ่มทำในสิ่งที่คุณไม่เคยทำไหม? คุณยอมทุ่มเทให้กับการฝึกฝนตัวเองไหม? ถ้าคุณตั้งใจจริง ก็ให้ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ โดยบอกกับตัวเองดังๆอย่างเข้มแข็งและหนักแน่นว่า “นับจากนี้ไป ฉันจะเป็นคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของความตั้งใจ ของความมุ่งมั่น ของความอดทน ของความพากเพียรพยายาม ฉันจะทำจนกว่า ความฝันของฉันเป็นจริง ฉันมีพลัง ฉันเชื่อมั่น ฉันทำได้!!!” ประกาศให้ยักษ์ที่ยิ่งใหญ่ในตัวคุณได้รับรู้ .. ลงมือทำทันทีเดี๋ยวนี้!!!

จดหมายฉบับนี้ยังไม่จบ เอาไว้ติดตามอ่านกันต่อไปในฉบับหน้านะคะ!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น