เทคนิคการเจรจาต่อรอง(Negotiation)
สิ่งสำคัญคือ ตีค่าข้อเสนอจากความคิดเห็นของคู่กรณี ต้องขึ้นอยู่กับว่าเค้าอยากได้อะไร และต้องให้อย่างนั้น แต่ให้เงื่อนไขเป็นของเราเสมอ การเจรจาต่อรองเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันมากทีเดียว ที่ผ่านมาเราอาจจะไม่ได้สังเกตว่า ในวันหนึ่งๆ เราต้องเจรจาต่อรองอะไรกันไปบ้างไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายซื้อของระหว่างแม่ค้ากับลูกค้า แม่ต่อรองค่าขนมกับลูก ครูต่อรองกับนักเรียน ฯลฯ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2551 ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเข้าร่วมอบรมหลักสูตร เทคนิคการเจรจาต่อรอง ที่ห้องประชุมสวทช. อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยได้รับความรู้ใหม่เกี่ยวกับเรื่อง การเจรจาต่อรอง ก็เลยสรุปความรู้ที่ได้เอามาแบ่งปันเพื่อการปรับเอาไปใช้ประโยชน์กับการทำงานและชีวิตประจำวันกันค่ะ โดยสรุปได้ดังนี้
เทคนิคการเจรจาต่อรอง โดย อ.จักรพงษ์ วงศ์วัน
สาเหตุที่ต้องมีการเจรจาต่อรองก็เนื่องมาจากอำนาจทั้งจากตำแหน่งหน้าที่ จากสังคมและจากความสามารถ โดยมีเรื่องของผลประโยชน์ ความขัดแย้งและบทลงโทษเข้ามาเกี่ยวข้อง ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเจรจาต่อรองได้แก่ อำนาจ สถานที่(ดังนั้นควรเลือกสถานที่ที่เป็นกลาง) ผลลัพธ์ที่ต้องการ ความสัมพันธ์ส่วนตัว การเตรียมข้อมูล ช่วงเวลา วัฒนธรรม ทักษะของคนเจรจา บุคลิกภาพ(อันนี้สำคัญมากค่ะ)และอารมณ์ จิตวิทยาในการต่อรองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การเจรจาต่อรองนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการได้ ขั้นตอนในการเจรจาต่อรอง ได้แก่
1.การเตรียมตัว
จะต้องศึกษาประเด็นและความสำคัญ(ทั้งที่ต่อรองได้และต่อรองไม่ได้) ต้องกำหนดจุดมุ่งหมาย ว่ามีอะไรบ้าง เขียนออกมาเป็นข้อๆ แยกประเภททั้งที่ต่อรองได้และต่อรองไม่ได้แล้วลำดับความสำคัญต่อจากนั้นต้องนำเอาทั้งหมดมากำหนดกรอบความต้องการ (LIM = Like to get, Intent to get, Must to get)
2.การเจรจา
ช่วงการหาข้อมูล ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเราและข้อเสนอ(เราต้องการอะไร สำคัญแค่ไหน เราจะเสียอะไรถ้าเราไม่ได้ฯลฯ) ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาและข้อเสนอ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเรา ข้อมูลเกี่ยวกับคู่แข่งและข้อเสนอ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคู่แข่ง ข้อแลกเปลี่ยนที่เหมาะสมระหว่างความต้องการของเขากับความต้องการของเรา และข้อมูลทางด้านจิตวิทยา
ช่วงการยื่นข้อเสนอ สิ่งสำคัญคือ ตีค่าข้อเสนอจากความคิดเห็นของคู่กรณี ต้องขึ้นอยู่กับว่าเค้าอยากได้อะไร และต้องให้อย่างนั้น แต่ให้เงื่อนไขเป็นของเราเสมอ
ช่วงการต่อรอง ควรเจรจาเป็นทีม ต้องประกอบไปด้วย Leader(เป็นผู้เจรจา) Summarizer(สรุป จดสิ่งที่ได้เจรจาตกลงกัน ข้อเสนอต่างๆ) และ Observer(คอยสังเกต สีหน้า ท่าทางของคู่เจรจา)
3.การสรุปจบ อย่าลืมสรุปว่าได้ตกลงอะไรกันไปบ้างแล้วเสมอ (เพราะมันคือจุดมุ่งหมายของการเจราต่อรอง)
-ให้ในสิ่งที่ควรให้
-รับในสิ่งที่ควรรับ
-อย่าโลภมาก
-อย่าปล่อยให้เรื่องเล็กน้อยหรือการขอ “อีกนิดหน่อย” เป็นชนวนให้ตกลงกันไม่ได้
-ก่อนจากกัน ตกลงกันก่อนว่าได้ตกลงอะไรกันไปแล้วบ้าง
-อย่าพยายามโกงโดยใช้สัญญาเป็นเครื่องมือ
กลยุทธ์ในการเจรจาต่อรอง
-สร้างความเชื่อถือ/ความไว้วางใจ
-หาหลักฐานอ้างอิง
-การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่เหมาะสม
-การปรับปรุงเกี่ยวกับสิทธิ/หน้าที่
-การปรับปรุงประเด็นต่างๆ
-กลยุทธ์ทางจิตวิทยา
-สิ่งที่ควรทำในการเจรจา
-ฟัง ฟัง ฟังและฟัง
-ถามคำถามเพื่อความกระจ่าง
-“สรุป” บ่อยๆ
-สังเกตคำพูด ถ้อยคำ น้ำเสียง
-สังเกต กิริยา ท่าทาง
-หาจุดประสงค์ของคู่กรณี
-ลำดับความสำคัญ
-ให้และรับข้อมูล
-ให้และรับสัญญาณ
-ตรวจสอบสมมติฐาน
-ถามคำถามเปิด
-ข้อสรุปและข้อควรจำ
-ปรัชญาการเจาจาต่อรองคือ ให้ได้ชัยชนะทั้งสองฝ่าย(win win)
-ก่อนทำการเจรจาต่อรองทุกครั้ง ต้องเตรียมตัวให้ดีเสมอ
-อย่ากลัวการเจรจาต่อรอง แม้ว่าเราจะมีอำนาจน้อยเพียงใดก็ตาม
-ศึกษาปัญหาและทำความเข้าใจในประเด็นต่างๆให้ถ่องแท้
-การเป็นผู้ฟังที่ดี ฟังอย่างตั้งใจ มีประโยชน์กว่าการพูดมากเกินไป
-อย่ากลัวตัวเลข สถิติ ข่าวลือ ทุกอย่างสามารถต่อรองกันได้
-พยายามนึกถึงการตบแต่งต่างๆ เพื่อให้ข้อเสนอน่าสนใจมากขึ้น
-อย่ายอมเสียเปรียบมากเกินไปเพียงเพื่อจะได้เป็นที่ชื่นชอบของผู้อื่น
-อย่าเอาเปรียบผู้อื่นมากเกินไปเพียงเพื่อ ต้องการเป็นผู้ชนะเท่านั้น
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นคะ คิดว่าหลายท่านคงเคยผ่านสถานการณ์เหล่านี้มาแล้วคงพอจะเข้าใจกันนะคะ ลองหยิบเอาประเด็นเหล่านี้ไปใช้ในการเจรจาต่อรองในสถานการณ์ของคุณดูนะคะ
ปูแดง,ปูแดง168,ปูแดงไคโตซาน,ปุ๋ยปูแดง,ไคโตซาน,ไคโตซานพืช,ไคโตซานสัตว์,อินทรีย์ปูแดง,สมุนไพรปูแดง,ผงชูรสปูแดง,Poodang,Kitozan,สารไคโตซาน,ตัวแทนจำหน่ายปูแดง,เกษตรปลอดสารพิษ,เกษตรชีวภาพ,ธุรกิจเกษตร,พืชโตไว,เพิ่มผลผลิต,ป้องกันโรค,ป้องกันแมลง,สารปรังปรุงดิน,ชาวสวนไร่นา,ลดปุ๋ย,โอกาสทางธุรกิจ,mlm,ขายตรง,รายได้เสริม,รายได้พิเศษ,ธุรกิจเครือข่าย โทรปรึกษาฟรี 083-0340025
วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552
Stem Cell ( เซลล์ต้นกำเนิดจากพืช )กุญแจสู่ผิวที่อ่อนเยาว์
กุญแจสู่ผิวที่อ่อนเยาว์
Plant Stem Cell ( เซลล์ต้นกำเนิดจากพืช ) หรือ Plant Placenta ( รกพืช )
ปัจจุบันงานวิจัย ได้ก้าวกระโดดจากรกแกะ รกคนไปยังรกพืชกันแล้ว เนื่องจากสารสกัดจากรกคน มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ อีกทั้งมีปัญหาทางด้านจริยธรรม จึงเป็นที่ห้ามใช้จากกองเครื่องสำอางค์ในประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย
ส่วนรกแกะ ยังคงอนุมัติให้ใช้ได้ เพราะการควบคุมคุณภาพจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์ยังปลอดภัย กระนั้นก็ดีปัจจุบันมีการเกรงว่า ฮอร์โมน Estrogen ที่ติดมาจากรกสัตว์ อาจกระตุ้นให้เกิดฝ้า เมื่อใช้ต่อเนื่อง การหันเหมายังรกพืช จึงมากขึ้น งานวิจัยใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆจากรกพืช และ Stem Cell จากพืช จึงปล่อยเข้าสู่ตลาดเป็นนวัตกรรมใหม่
รกพืช คือส่วนของหน่ออ่อน ซึ่งมีเซลล์ต้นกำเนิด ( Stem Cell ) อยู่ มีควมสามารถแยกตัวแล้วเจริญเติบโตเป็นเซลล์ใหม่
ดังนั้น คำว่ารกพืช และสเต็มเซลล์พืช ( เซลล์ต้นกำเนิดจาก พืช ) จึงมักจะใช้ปะปนกัน อันหมายถึงเซลล์ต้นกำเนิดนั่นเอง
อะไร คือเซลล์ต้นกำเนิด หรือ สเต็มเซลล์ ( Stem Cell ) เป็นที่มีคุณสมบัติพิเศษ โดยมีคุณสมบัติ ดังนี้
1.มีความสามารถในการสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่
2.สามารถเพิ่มหรือสร้างเซลล์ที่ผิดแยกแตกต่างออกไป
เซลล์ ต้นกำเนิด ( Stem Cell ) ของคนมี 2 ชนิด ชนิดแรกมาจากตัวอ่อน ( Embryonic Stem Cell ) อีกชนิดมาจากผู้ใหญ่ ( Adult Stem Cell ) ชนิดหลัง นักวิทยาศาสตร์เริ่มหันมาสนใจ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านจริยธรรม
เซลล์ต้นกำเนิดจากพืช ( Plant Stem Cell ) พืชมีสเต็มเซลล์อาศัยอยู่ในส่วนของเนื้อเยื่อหน่ออ่อนหรือรากอ่อน ซึ่งจะเจริญเติบโตแบ่งเซลล์ไปเป็นส่วนของต้นไม้ทั้งต้น
เซลล์ต้นกำเนิด ( Stem Cell ) ของคนมี 2 ชนิด ชนิดแรกมาจากตัวอ่อน ( Embryonic Stem Cell ) อีกชนิดมาจากผู้ใหญ่ ( Adult Stem Cell ) ชนิดหลัง นักวิทยาศาสตร์เริ่มหันมาสนใจ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านจริยธรรม
เซลล์ต้นกำเนิดจากพืช ( Plant Stem Cell ) พืชมีสเต็มเซลล์อาศัยอยู่ในส่วนของเนื้อเยื่อหน่ออ่อนหรือรากอ่อน ซึ่งจะเจริญเติบโตแบ่งเซลล์ไปเป็นส่วนของต้นไม้ทั้งต้น
การนำเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของต้นไม้มาใช้แพร่พันธุ์ของเซลล์ต้น กำเนิดพืช อาจใช้แพร่พันธุ์ต้นไม้ทั้งต้น หรือเฉพาะเซลล์เนื้อเยื่อบางส่วน การปฎิบัติการที่สามารถผลิตพืชได้โดยไม่ขึ้นกับฤดูกาลและสิ่งแวดล้อม
นักวิจัยได้นำเทคนิคดังกล่าวไปเพาะเนื้อเยื่อของแอปเปิ้ล (apple) พันธุ์คัดเลือกพิเศษ ชื่อ Uttwiler Spatlauber ซึ่งนำไปเพาะปลูกในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
จากนั้นนาเพาะเนื้อเยื่อ ผ่านขบวนการหมักโดยใช้ชีวภาพสกัดจนได้ผลิตภัณฑ์นำมาใช้ชะลอความแก่ บนผิวหน้า และเส้นผม โดยสารสกัดนี้ใช้ความดันสูงในการสกัด แล้วผ่านกระบวนการหุ้มด้วย Liposome ได้สารที่เรียกว่า PhytoCellTec Malus Domestica จากงานวิจัยพบว่า
1. สามารถทำให้เซลล์มนุษย์มีการแบ่งตัว และเติบโตได้ 80%
2. ทำ ให้เซลล์ทนทานต่อรังสี UV อายุของเซลล์ยาวขึ้น (ดูได้จากเซลล์ที่ผ่านการทดลองด้วยแสง UV นำไปเพาะเลี้ยงจะรอดแค่ 50% แต่ถ้าใช้สารสกัดช่วยให้รอดเกือบหมด)
3. มีประสิทธิภาพเปนสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถป้องกันการทำลายเซลล์ จาก Hydrogen Peroxide ในการทดลองได้
4. ชะลอการแก่ของเซลล์จากต่อมบนเส้นผมได้ ดังนั้นจึงสามารถชะลอผมร่วง ทำให้อายของเซลล์ผมยืนยาวขึ้น
5. ถ้านำสารสกัดทำเป็นครีม โดยทาวันละ 2 ครั้ง ตามรอยตีนกา พบว่าสามารถทำให้ร่องตื้นขึ้น 8% ภายใน 2 สัปดาห์ หรือ 15% ภายใน 4 สัปดาห์
ผลิตภัณฑ์ ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ มักจะรวมรกพืชหรือสเต็มเซลล์ กับสารสกัดอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องสำอางค์ให้ได้สูงสุด ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ที่นำรกพืชมาเพาะเนื้อเยื่อให้ได้สเต็มเซลล์ มาช่วยสร้างเซลล์ผิวเพิ่มเติมพร้อมทั้งใส่สารสกัดต่างๆ ที่ช่วยด้านผิวหน้า รวมเข้าด้วย เช่น Botox จากพืช ทำให้ผู้ใช้มีการปรับผิวทำให้หน้าใส ดูอ่อนเยาว์ทันที ผู้ผลิตรายแรกของประเทศไทย ได้แก่ บริษัท Fresh up beauty
สารสกัดที่คนเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุด ได้แก่
* Palmitoyl pentapeptide – 3 ที่เรียกว่า Botox จากพืช เพื่อ
1. กระตุ้นการสร้าง Collagen
2. ซ่อมแซมเซลล์ผิว
3. ลดรอยย่น ทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น
4. ลดจุด ด่าง ดำ
* มีการเพิ่ม Hyalusonic มาเป็นส่วนประกอบใน Plant Stem Cell เพื่อ
1. ช่วยอุ้มน้ำ เพื่อความชุ่มชื่น ถึง 1,000 เท่าของน้ำหนัก
2. ทำให้ผิวเรีบตึง ลดรอยลึก และร่องของผิว
3. เป็นสารเริ่มต้นในการสร้าง Collagen
4. ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์
* มีการเพิ่ม Glycine Soja ( Soy Bean ) Seed Extract เพื่อ
1. เพื่อการสร้าง Collagen
2. ลดริ้วรอยที่เป็นร่องลึก
3. ทำให้ผิวตึงกระชับ
* มีการเพิ่ม Vitamin C เพื่อ
* ลดการสร้างเซลล์เม็ดสี ช่วยทำให้ใบหน้ากระจ่างใสขึ้น
* ทำให้ผิวตึงกระชับ
* ช่วยลดการอักเสบของสิว
Plant Stem Cell ( เซลล์ต้นกำเนิดจากพืช ) หรือ Plant Placenta ( รกพืช )
ปัจจุบันงานวิจัย ได้ก้าวกระโดดจากรกแกะ รกคนไปยังรกพืชกันแล้ว เนื่องจากสารสกัดจากรกคน มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ อีกทั้งมีปัญหาทางด้านจริยธรรม จึงเป็นที่ห้ามใช้จากกองเครื่องสำอางค์ในประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย
ส่วนรกแกะ ยังคงอนุมัติให้ใช้ได้ เพราะการควบคุมคุณภาพจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์ยังปลอดภัย กระนั้นก็ดีปัจจุบันมีการเกรงว่า ฮอร์โมน Estrogen ที่ติดมาจากรกสัตว์ อาจกระตุ้นให้เกิดฝ้า เมื่อใช้ต่อเนื่อง การหันเหมายังรกพืช จึงมากขึ้น งานวิจัยใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆจากรกพืช และ Stem Cell จากพืช จึงปล่อยเข้าสู่ตลาดเป็นนวัตกรรมใหม่
รกพืช คือส่วนของหน่ออ่อน ซึ่งมีเซลล์ต้นกำเนิด ( Stem Cell ) อยู่ มีควมสามารถแยกตัวแล้วเจริญเติบโตเป็นเซลล์ใหม่
ดังนั้น คำว่ารกพืช และสเต็มเซลล์พืช ( เซลล์ต้นกำเนิดจาก พืช ) จึงมักจะใช้ปะปนกัน อันหมายถึงเซลล์ต้นกำเนิดนั่นเอง
อะไร คือเซลล์ต้นกำเนิด หรือ สเต็มเซลล์ ( Stem Cell ) เป็นที่มีคุณสมบัติพิเศษ โดยมีคุณสมบัติ ดังนี้
1.มีความสามารถในการสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่
2.สามารถเพิ่มหรือสร้างเซลล์ที่ผิดแยกแตกต่างออกไป
เซลล์ ต้นกำเนิด ( Stem Cell ) ของคนมี 2 ชนิด ชนิดแรกมาจากตัวอ่อน ( Embryonic Stem Cell ) อีกชนิดมาจากผู้ใหญ่ ( Adult Stem Cell ) ชนิดหลัง นักวิทยาศาสตร์เริ่มหันมาสนใจ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านจริยธรรม
เซลล์ต้นกำเนิดจากพืช ( Plant Stem Cell ) พืชมีสเต็มเซลล์อาศัยอยู่ในส่วนของเนื้อเยื่อหน่ออ่อนหรือรากอ่อน ซึ่งจะเจริญเติบโตแบ่งเซลล์ไปเป็นส่วนของต้นไม้ทั้งต้น
เซลล์ต้นกำเนิด ( Stem Cell ) ของคนมี 2 ชนิด ชนิดแรกมาจากตัวอ่อน ( Embryonic Stem Cell ) อีกชนิดมาจากผู้ใหญ่ ( Adult Stem Cell ) ชนิดหลัง นักวิทยาศาสตร์เริ่มหันมาสนใจ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านจริยธรรม
เซลล์ต้นกำเนิดจากพืช ( Plant Stem Cell ) พืชมีสเต็มเซลล์อาศัยอยู่ในส่วนของเนื้อเยื่อหน่ออ่อนหรือรากอ่อน ซึ่งจะเจริญเติบโตแบ่งเซลล์ไปเป็นส่วนของต้นไม้ทั้งต้น
การนำเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของต้นไม้มาใช้แพร่พันธุ์ของเซลล์ต้น กำเนิดพืช อาจใช้แพร่พันธุ์ต้นไม้ทั้งต้น หรือเฉพาะเซลล์เนื้อเยื่อบางส่วน การปฎิบัติการที่สามารถผลิตพืชได้โดยไม่ขึ้นกับฤดูกาลและสิ่งแวดล้อม
นักวิจัยได้นำเทคนิคดังกล่าวไปเพาะเนื้อเยื่อของแอปเปิ้ล (apple) พันธุ์คัดเลือกพิเศษ ชื่อ Uttwiler Spatlauber ซึ่งนำไปเพาะปลูกในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
จากนั้นนาเพาะเนื้อเยื่อ ผ่านขบวนการหมักโดยใช้ชีวภาพสกัดจนได้ผลิตภัณฑ์นำมาใช้ชะลอความแก่ บนผิวหน้า และเส้นผม โดยสารสกัดนี้ใช้ความดันสูงในการสกัด แล้วผ่านกระบวนการหุ้มด้วย Liposome ได้สารที่เรียกว่า PhytoCellTec Malus Domestica จากงานวิจัยพบว่า
1. สามารถทำให้เซลล์มนุษย์มีการแบ่งตัว และเติบโตได้ 80%
2. ทำ ให้เซลล์ทนทานต่อรังสี UV อายุของเซลล์ยาวขึ้น (ดูได้จากเซลล์ที่ผ่านการทดลองด้วยแสง UV นำไปเพาะเลี้ยงจะรอดแค่ 50% แต่ถ้าใช้สารสกัดช่วยให้รอดเกือบหมด)
3. มีประสิทธิภาพเปนสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถป้องกันการทำลายเซลล์ จาก Hydrogen Peroxide ในการทดลองได้
4. ชะลอการแก่ของเซลล์จากต่อมบนเส้นผมได้ ดังนั้นจึงสามารถชะลอผมร่วง ทำให้อายของเซลล์ผมยืนยาวขึ้น
5. ถ้านำสารสกัดทำเป็นครีม โดยทาวันละ 2 ครั้ง ตามรอยตีนกา พบว่าสามารถทำให้ร่องตื้นขึ้น 8% ภายใน 2 สัปดาห์ หรือ 15% ภายใน 4 สัปดาห์
ผลิตภัณฑ์ ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ มักจะรวมรกพืชหรือสเต็มเซลล์ กับสารสกัดอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องสำอางค์ให้ได้สูงสุด ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ที่นำรกพืชมาเพาะเนื้อเยื่อให้ได้สเต็มเซลล์ มาช่วยสร้างเซลล์ผิวเพิ่มเติมพร้อมทั้งใส่สารสกัดต่างๆ ที่ช่วยด้านผิวหน้า รวมเข้าด้วย เช่น Botox จากพืช ทำให้ผู้ใช้มีการปรับผิวทำให้หน้าใส ดูอ่อนเยาว์ทันที ผู้ผลิตรายแรกของประเทศไทย ได้แก่ บริษัท Fresh up beauty
สารสกัดที่คนเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุด ได้แก่
* Palmitoyl pentapeptide – 3 ที่เรียกว่า Botox จากพืช เพื่อ
1. กระตุ้นการสร้าง Collagen
2. ซ่อมแซมเซลล์ผิว
3. ลดรอยย่น ทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น
4. ลดจุด ด่าง ดำ
* มีการเพิ่ม Hyalusonic มาเป็นส่วนประกอบใน Plant Stem Cell เพื่อ
1. ช่วยอุ้มน้ำ เพื่อความชุ่มชื่น ถึง 1,000 เท่าของน้ำหนัก
2. ทำให้ผิวเรีบตึง ลดรอยลึก และร่องของผิว
3. เป็นสารเริ่มต้นในการสร้าง Collagen
4. ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์
* มีการเพิ่ม Glycine Soja ( Soy Bean ) Seed Extract เพื่อ
1. เพื่อการสร้าง Collagen
2. ลดริ้วรอยที่เป็นร่องลึก
3. ทำให้ผิวตึงกระชับ
* มีการเพิ่ม Vitamin C เพื่อ
* ลดการสร้างเซลล์เม็ดสี ช่วยทำให้ใบหน้ากระจ่างใสขึ้น
* ทำให้ผิวตึงกระชับ
* ช่วยลดการอักเสบของสิว
โปรโมท เวปไซต์ แบบ Online
โปรโมท เวปไซต์ แบบ Online
สำหรับ คนที่มีเว็บไซต์หรือบล็อก และคนที่กำลังรอเว็บไซต์จาก uVme Thailand อยู่ เมิ่อมีเว็บไซต์หรือบล็อกของตนเองแล้ว จะต้องทำอะไรอย่างไรบ้างเพื่อให้เว็บไซต์หรือบล็อกของตนเองเป็นที่รู้จัก?
1. โดยการเข้าไป Submit URL หรือ Add Url ในเว็บไซต์ต่างๆ เช่น Sanook.com, Thaiwebhunter เป็นต้น
2. ด้วยการเข้าไปลงโฆษณาในเว็บไซต์ดังๆ เช่น Sanook.com , Pantip.com , Thai2hand.com เป็นต้น ซึ่งการโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ด้วยวิธีนี้มีทั้งแบบซื้อแบอร์เนอร์ และเป็นแบบเท็กซ์ลิ้งค์ ซึ่งให้ผลตอบกลับมาค่อนข้างดีทีเดียว ส่วนค่าโฆษณามีตั้งแต่ฟรี(ในระยะแรก) แต่ก็ควรเปรียบเทียบราคาโฆษณากับ Rating ของเว็บไซต์นั้นๆ ว่ามีราคาที่สมเหตุสมผลหรือเปล่า ก่อนลงโฆษณา แนะนำว่าลงโฆษณาที่ นิภา ก็ได้ผลดีมากครับ คลิกดูรายละเอียดที่นี่
3. โดยการเข้าไปโพสท์หรือลงประกาศในเว็บบอร์ดต่างๆของหลายๆเว็บไซต์ที่มีบอร์ด สำหรับประกาศซื้อขายหรือลงโฆษณา ซึ่งเป็นบริการฟรี แต่การโปรโมทเว็บไซต์ด้วยวิธีนี้ค่อนข้างจะจำกัดวันโฆษณาจากเจ้าของเว็บไซต์ ที่อนุญาตให้ลงโฆษณา เช่น 7 วัน 15 วัน หรือ 30 วันเป็นต้นหลังจากนั้นข้อมูลที่เราโฆษณาเว็บไซต์ก็จะถูกลบทิ้งไป ซึ่งต้องหมั่นโพสท์เรื่อยๆหลังจากสิ้นสุดวันโฆษณา
4.โดยการแลกลิ้งค์กับพันธมิตร โดยเฉพาะเว็บไซต์หรือบล็อกที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรา จะช่วยให้มีคนมาเยี่ยมชมในระดับหนึ่งได้
5. การโปรโมทเว็บไซต์ผ่าน Search Engine การโปรโมทประเภทนี้จะให้ผลตรงจุดมากที่สุด ผู้คนในโลกออนไลน์ในปัจจุบันนิยมค้นหาข้อมูลต่างๆ ซึ่งรวมทั้งสินค้าและบริการต่างๆผ่านเครื่องมือค้นหาจากเว็บไซต์ที่ให้ บริการการค้นหาข้อมูลอย่าง Google , Yahoo , MSN และเว็บไซต์พันธุ์ไทยอย่าง Sanook.com ในแต่ละวันแต่ละชั่วโมงแต่ละนาทีผู้คนจากทั่วประเทศจากทั่วโลกที่ออนไลน์ อยู่จะนิยมค้นหาข้อมูลผ่านทางเครื่องมือค้นหาที่เรียกว่า Sarch Engine ซึ่ง Google Adword ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่ดีที่สุดที่แพร่หลายและได้ผลดีเช่นเดียวกัน
TIPS สำหรับการโปรโมทแบบออนไลน์
1. ตอบกลับสแปมเมลล์ คุณได้รับเมลล์ที่น่ารำคาญพวกนี้เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ใช้มันให้เป็นประโยชน์กับตัวคุณครับ ตอบกลับโดยพิมพ์แค่ "เราได้รับข้อมูลของคุณแล้ว ขอบคุณมากครับ/ค่ะ" แล้วลงขื่อคุณและ URLของคุณ
2.ทำลายเซ็น และโพสลิงก์ URL ของคุณลงท้าย ไม่ว่าคุณจะ ส่งเมลล์ ตอบเมลล์ หรือ Forward Mail
3. นอกจากการตั้งกระทู้ใหม่แล้ว การตอบและแสดงความคิดเห็นไว้ในกระทู้ที่มีผู้ชมมากๆ ก็ทำให้ได้จำนวนสมาชิกไม่น้อยเช่นกัน มี 2 วิธีคือ...
3.1 โฆษณากันตรงๆเลย (อย่าลืมโพสต์ลิงก์ URL ของคุณด้วย)
3.2 ตอบหรือแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับเจ้าของกระทู้ (อย่าลืมโพสต์ลิงก์ URL ของคุณด้วย )
4. อย่าลืมตั้งกระทู้ในบอร์ดเกมส์ เป็นสมาชิกบอร์ดให้มากที่สุด ตั้งกระทู้และตอบความคิดเห็นในบอร์ดต่างๆนั้น (อย่าลืมโพสต์ลิงก์ URL ของคุณด้วย)การ Submit URL หรือ Add URL(อธิบายเพิ่มเติมจากข้อที่ 1)เรามาเพิ่มเว็บไซต์และบล็อกของคุณ ไว้ใน Directory ของ Website และ Search Engine ทั่วไป ให้ได้มากที่สุดกันครับ
จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย.. ถ้าเรามีเว็บไซต์หรือบล็อกแล้ว แต่ไม่ได้โปรโมท ก็คงไม่มีใครรู้จักเราอย่างแน่นอน การทำ Submit URL บางทีเรียกว่า Add URL หรือ URL Submittion ก็คือการเพิ่มชื่อเว็บไซต์หรือบล็อกของเราเข้าไปในเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งจะทำให้เรามีชื่ออยู่ใน Web Directory หรือสารบัญเว็บในที่ต่างๆ นั่นเองครับ ยิ่งทำ URL Submittion มากเท่าไร โอกาสในการค้นหาเจอเว็บไซต์หรือบล็อกของเราก็มากขึ้นเท่านั้น
รวมทั้งการ ค้นหาใน Search Engine ต่างๆ เช่น Google ,Yahoo, MSN ด้วยครับ !แนะนำว่าให้ทำ URL Submittion ทั้งไทยและต่างประเทศ ในลิงค์ 2 ลิงค์ด้านล่างนี้ ซึ่งจะเป็นแหล่งรวม URL Submittion จาก Website ชั้นนำเอาไว้มากมายครับ ขั้นตอนง่ายๆครับลองทำดูสัก 2-3 ครั้งก็จะเข้าใจเองครับ เพราะทุก Website จะมีลักษณะคล้ายกันอย่าลืมนะครับเพิ่มเว็บไซต์หรือบล็อก uVme ของคุณ ไว้กับเว็บไซต์ต่างๆทั้งไทยและต่างประเทศให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะ Search Engine ทั้งหลาย เช่น Google, Yahoo ,MSN ,ASK,AOL Search ดังๆพวกนี้สำคัญมากครับ!
รวม Search Engine กว่า 350 เว็บ
http://seo-promote.blogspot.com/
โปรโมทเว็บไซต์ผ่าน Bcoms http://www.bcoms.net/promoteweb/index.asp
โปรโมทเว็บไซต์ผ่าน ThaiNN http://www.thainn.com/directory/submit_url.php
โปรโมท Search Engine 20 เว็บไซต์ในที่เดียว (เว็บต่างประเทศ)http://freewebsubmission.com/
รวมสุดยอดเครื่องมือที่เกี่ยวกับการโปรโมทเว็บไซต์ / บล็อกไว้มากมาย
http://www.wanakorn.com/links_cat.php?ltid=32
เป็น วิธีการโปรโมตเว็บไซต์อย่างง่ายครับ ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆครับ ไม่จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญมากนัก แต่ว่าต้องอาศัยความขยัน เวลา ความตั้งใจจริงและการลงมือทำครับ ในช่วงแรกๆ ของการโปรโมทคุณอาจต้องทำการโปรโมทกันหนักหน่อยครับ เพื่อให้ติดผลในการค้นหาและเป็นที่รู้จัก ทั้งการ Submit URL และการโพสต์ตามเว็บบอร์ดต่างๆ หรือหน้าลงประกาศต่างๆ อย่างเช่น ในอาทิตย์แรกเราทำการ Submit URL ได้ 100 เว็บไซต์ ในเดือนต่อมาเราทำการ Submit URL ได้เพิ่มอีกเป็น 300 เว็บไซต์หรือมากกว่านั้น แน่นอนเลยครับว่าภายใน 1-2 เดือนผ่านไป จะต้องมีคนรู้จักเว็บหรือบล็อคเราเพิ่มมากขึ้นแน่นอนการSubmit URL ทำเพียงครั้งเดียวต่อเว็บไซต์ก็จริง แต่อย่าลืมนะครับว่าในแต่ละวันมีเว็บไซต์ที่เกิดใหม่มากมาย ควรให้เวลาดูแล Rating ค่าความนิยมของเว็บตัวเอง และทำการ Submit URL กับเว็บไซต์ไดเรคทอรี่ใหม่ๆอยู่เสมอๆครับสมาชิกอย่าลืมทำการแนะนำทางตรงและ การโพสต์ด้วยนะครับ เพราะการโพสต์เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรทติ้งของเว็บไซต์หรือบล็อกของคุณโด่ง ดังและเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นครับ!
โปรโมทเว็บไซต์ผ่านเสิร์ชเอนจิ้น ( Search Engine )
(อธิบายเพิ่มเติมจากข้อ 5)
การ โปรโมทเว็บไซต์ในปัจจุบันที่ดีที่สุดและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดก็คือ โปรโมทเว็บไซต์ผ่านเสิร์ชเอนจิ้น ( Search Engine ) นั่นเองในการโปรโมทเว็บไซต์ผ่านเสิร์ชเอนจิ้น เป็นเครื่องมือค้นหาชนิดนี้ผู้เป็นเจ้าของเว็บไซต์จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง มีความรู้และความเข้าใจในการทำเสิร์ชเอนจิ้น เพื่อให้เว็บไซต์ค้นหายอมรับ และนำข้อมูลของเว็บไซต์ของเราเข้าไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลของเว็บไซต์ค้นหา เหล่านั้น หรือที่เรียกกันว่า การอินเด็กซ์ข้อมูลนั่นเอง ( Index ) ทำอย่างไรถึงจะให้เว็บไซต์ค้นหาใหญ่ๆทั้งหลายอย่าง Google , Yahoo , Msn เข้ามาเก็บข้อมูลของเว็บไซต์เราหรือมา Index เว็บไซต์ของเรานั่นเอง การโปรโมทเว็บไซต์ด้วยวิธีการทำเสิร์ชเอนจิ้นนี้ ถ้าเจ้าของเว็บไซต์มีความรู้เกี่ยวกับการทำเสิร์ชเอนจิ้นก็จะเป็นการประหยัด งบประมาณจำนวนมากในแต่ละปี เพราะการทำเสิร์ชเอนจิ้นต้องทำอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันกับการอัพเด ทเว็บไซต์เป็นประจำนั่นเอง แต่ถ้าเจ้าของเว็บไซต์ไม่มีความรู้ในการทำเสิร์ชเอนจิ้นแล้วก็ต้องจ้างมือ อาชีพทำให้ ซึ่งการทำเสิร์ชเอนจิ้นครั้งหนึ่งมีราคาค่อนข้างแพง ซึ่งทั่วๆไปจะอยู่ประมาณ 20,000 - 60,000 บาท ทั้งนี้ราคาขึ้นอยู่กับความยากง่ายของข้อมูลและอัตราการแข่งขัน การโปรโมทเว็บไซต์ผ่านเครื่องมือค้นหาหรือเสิร์ชเอนจิ้นเป็นการโปรโม ทเว็บไซต์ที่ดีที่สุดจากทุกๆวิธี เหตุเพราะทุกคนบนโลกนี้จากทุกๆมุมโลกสามารถเห็นหรือเข้าเว็บไซต์ของท่านได้ ทันทีจากลิ้งค์ที่ถูก Index ไว้ในฐานข้อมูลของเว็บไซต์ค้นหา นั่นคือโอกาสที่ทุกคนบนโลกใบนี้จะเห็นเว็บไซต์ของท่านสูงมากๆ ( ถ้าทำเสิร์ชเอนจิ้นให้ข้อมูลของเว็บไซต์อยู่ในอันดับแรกๆของเว็บไซต์ค้นหา ) ซึ่งการโปรโมทเว็บไซต์ด้วยเสิร์ชเอนจิ้นจะไปได้กว้างและไกลแบบไร้ขอบเขต มากกว่าทุกๆวิธีที่กล่าวมา จะเห็นว่าการโปรโมทเว็บไซต์ด้วยวิธีนี้ได้ผลและตรงจุดมากที่สุด รวดเร็วมากที่สุดจึงเป็นที่นิยมของเจ้าของเว็บไซต์ทั่วโลกที่ต้องทำ เสิร์ชเอนจิ้น
การโปรโมทเว็บไซต์ผ่าน Search Engine / เสิร์ชเอ็นจิ้นมี 2 แบบ ดังนี้
1. โปรโมทเว็บไซต์ด้วยการทำเสิร์ชเอนจิ้นแบบวิธีธรรมชาติ (Natural search Engine) คือการอัพเดทเพิ่มข้อมูลเนื้อหาที่ลงในเว็บไซต์หรือบล็อกบ่อยๆ (ไซต์ดังๆอัพเดทข้อมูลทุกวันครับ) ก็จะช่วยให้เว็บไซต์หรือบล็อกของเราติดอันดับต้นๆได้เช่นเดียวกัน
2. โปรโมทเว็บไซต์ด้วยการสร้างแคมเปญโฆษณาขึ้นมา เป็นวิธีการโปรโมทเว็บไซต์ทางลัดและรวดเร็วที่สุด เรียกว่า Google Adword เพื่อนๆสามารถศึกษาวิธีโฆษณากับ Adword ได้โดย Search คำนี้ จะพบว่ามีเว็บไซต์และบล็อกมากมาย ที่อธิบายเรื่องต่างๆเกี่ยวกับ Adwordเป็นภาษาไทยไว้มากมายครับ สมัคร Adword ฟรี คลิกที่แบนเนอร์บนโฮมเพจได้เลยครับ
เทคนิควิธีต่างๆที่แนะนำไปแล้ว เป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ๆไม่มีเทคนิคซับซ้อน ที่จริงแล้วยังมีเทคนิควิธีเกี่ยวกับการโปรโมทเว็บไซต์ กลยุทธิ์ทางการตลาดออนไลน์อีกมาก ให้เพื่อนๆได้ศึกษาและทดลองทำไปเรื่อยๆ เพื่อความก้าวหน้าสู่อาชีพ Affiliate Marketer ของคุณครับ
Link ความรู้เพิ่มเติมที่อยากแนะนำ
สำหรับ คนที่มีเว็บไซต์หรือบล็อก และคนที่กำลังรอเว็บไซต์จาก uVme Thailand อยู่ เมิ่อมีเว็บไซต์หรือบล็อกของตนเองแล้ว จะต้องทำอะไรอย่างไรบ้างเพื่อให้เว็บไซต์หรือบล็อกของตนเองเป็นที่รู้จัก?
1. โดยการเข้าไป Submit URL หรือ Add Url ในเว็บไซต์ต่างๆ เช่น Sanook.com, Thaiwebhunter เป็นต้น
2. ด้วยการเข้าไปลงโฆษณาในเว็บไซต์ดังๆ เช่น Sanook.com , Pantip.com , Thai2hand.com เป็นต้น ซึ่งการโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ด้วยวิธีนี้มีทั้งแบบซื้อแบอร์เนอร์ และเป็นแบบเท็กซ์ลิ้งค์ ซึ่งให้ผลตอบกลับมาค่อนข้างดีทีเดียว ส่วนค่าโฆษณามีตั้งแต่ฟรี(ในระยะแรก) แต่ก็ควรเปรียบเทียบราคาโฆษณากับ Rating ของเว็บไซต์นั้นๆ ว่ามีราคาที่สมเหตุสมผลหรือเปล่า ก่อนลงโฆษณา แนะนำว่าลงโฆษณาที่ นิภา ก็ได้ผลดีมากครับ คลิกดูรายละเอียดที่นี่
3. โดยการเข้าไปโพสท์หรือลงประกาศในเว็บบอร์ดต่างๆของหลายๆเว็บไซต์ที่มีบอร์ด สำหรับประกาศซื้อขายหรือลงโฆษณา ซึ่งเป็นบริการฟรี แต่การโปรโมทเว็บไซต์ด้วยวิธีนี้ค่อนข้างจะจำกัดวันโฆษณาจากเจ้าของเว็บไซต์ ที่อนุญาตให้ลงโฆษณา เช่น 7 วัน 15 วัน หรือ 30 วันเป็นต้นหลังจากนั้นข้อมูลที่เราโฆษณาเว็บไซต์ก็จะถูกลบทิ้งไป ซึ่งต้องหมั่นโพสท์เรื่อยๆหลังจากสิ้นสุดวันโฆษณา
4.โดยการแลกลิ้งค์กับพันธมิตร โดยเฉพาะเว็บไซต์หรือบล็อกที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรา จะช่วยให้มีคนมาเยี่ยมชมในระดับหนึ่งได้
5. การโปรโมทเว็บไซต์ผ่าน Search Engine การโปรโมทประเภทนี้จะให้ผลตรงจุดมากที่สุด ผู้คนในโลกออนไลน์ในปัจจุบันนิยมค้นหาข้อมูลต่างๆ ซึ่งรวมทั้งสินค้าและบริการต่างๆผ่านเครื่องมือค้นหาจากเว็บไซต์ที่ให้ บริการการค้นหาข้อมูลอย่าง Google , Yahoo , MSN และเว็บไซต์พันธุ์ไทยอย่าง Sanook.com ในแต่ละวันแต่ละชั่วโมงแต่ละนาทีผู้คนจากทั่วประเทศจากทั่วโลกที่ออนไลน์ อยู่จะนิยมค้นหาข้อมูลผ่านทางเครื่องมือค้นหาที่เรียกว่า Sarch Engine ซึ่ง Google Adword ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่ดีที่สุดที่แพร่หลายและได้ผลดีเช่นเดียวกัน
TIPS สำหรับการโปรโมทแบบออนไลน์
1. ตอบกลับสแปมเมลล์ คุณได้รับเมลล์ที่น่ารำคาญพวกนี้เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ใช้มันให้เป็นประโยชน์กับตัวคุณครับ ตอบกลับโดยพิมพ์แค่ "เราได้รับข้อมูลของคุณแล้ว ขอบคุณมากครับ/ค่ะ" แล้วลงขื่อคุณและ URLของคุณ
2.ทำลายเซ็น และโพสลิงก์ URL ของคุณลงท้าย ไม่ว่าคุณจะ ส่งเมลล์ ตอบเมลล์ หรือ Forward Mail
3. นอกจากการตั้งกระทู้ใหม่แล้ว การตอบและแสดงความคิดเห็นไว้ในกระทู้ที่มีผู้ชมมากๆ ก็ทำให้ได้จำนวนสมาชิกไม่น้อยเช่นกัน มี 2 วิธีคือ...
3.1 โฆษณากันตรงๆเลย (อย่าลืมโพสต์ลิงก์ URL ของคุณด้วย)
3.2 ตอบหรือแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับเจ้าของกระทู้ (อย่าลืมโพสต์ลิงก์ URL ของคุณด้วย )
4. อย่าลืมตั้งกระทู้ในบอร์ดเกมส์ เป็นสมาชิกบอร์ดให้มากที่สุด ตั้งกระทู้และตอบความคิดเห็นในบอร์ดต่างๆนั้น (อย่าลืมโพสต์ลิงก์ URL ของคุณด้วย)การ Submit URL หรือ Add URL(อธิบายเพิ่มเติมจากข้อที่ 1)เรามาเพิ่มเว็บไซต์และบล็อกของคุณ ไว้ใน Directory ของ Website และ Search Engine ทั่วไป ให้ได้มากที่สุดกันครับ
จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย.. ถ้าเรามีเว็บไซต์หรือบล็อกแล้ว แต่ไม่ได้โปรโมท ก็คงไม่มีใครรู้จักเราอย่างแน่นอน การทำ Submit URL บางทีเรียกว่า Add URL หรือ URL Submittion ก็คือการเพิ่มชื่อเว็บไซต์หรือบล็อกของเราเข้าไปในเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งจะทำให้เรามีชื่ออยู่ใน Web Directory หรือสารบัญเว็บในที่ต่างๆ นั่นเองครับ ยิ่งทำ URL Submittion มากเท่าไร โอกาสในการค้นหาเจอเว็บไซต์หรือบล็อกของเราก็มากขึ้นเท่านั้น
รวมทั้งการ ค้นหาใน Search Engine ต่างๆ เช่น Google ,Yahoo, MSN ด้วยครับ !แนะนำว่าให้ทำ URL Submittion ทั้งไทยและต่างประเทศ ในลิงค์ 2 ลิงค์ด้านล่างนี้ ซึ่งจะเป็นแหล่งรวม URL Submittion จาก Website ชั้นนำเอาไว้มากมายครับ ขั้นตอนง่ายๆครับลองทำดูสัก 2-3 ครั้งก็จะเข้าใจเองครับ เพราะทุก Website จะมีลักษณะคล้ายกันอย่าลืมนะครับเพิ่มเว็บไซต์หรือบล็อก uVme ของคุณ ไว้กับเว็บไซต์ต่างๆทั้งไทยและต่างประเทศให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะ Search Engine ทั้งหลาย เช่น Google, Yahoo ,MSN ,ASK,AOL Search ดังๆพวกนี้สำคัญมากครับ!
รวม Search Engine กว่า 350 เว็บ
http://seo-promote.blogspot.com/
โปรโมทเว็บไซต์ผ่าน Bcoms http://www.bcoms.net/promoteweb/index.asp
โปรโมทเว็บไซต์ผ่าน ThaiNN http://www.thainn.com/directory/submit_url.php
โปรโมท Search Engine 20 เว็บไซต์ในที่เดียว (เว็บต่างประเทศ)http://freewebsubmission.com/
รวมสุดยอดเครื่องมือที่เกี่ยวกับการโปรโมทเว็บไซต์ / บล็อกไว้มากมาย
http://www.wanakorn.com/links_cat.php?ltid=32
เป็น วิธีการโปรโมตเว็บไซต์อย่างง่ายครับ ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆครับ ไม่จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญมากนัก แต่ว่าต้องอาศัยความขยัน เวลา ความตั้งใจจริงและการลงมือทำครับ ในช่วงแรกๆ ของการโปรโมทคุณอาจต้องทำการโปรโมทกันหนักหน่อยครับ เพื่อให้ติดผลในการค้นหาและเป็นที่รู้จัก ทั้งการ Submit URL และการโพสต์ตามเว็บบอร์ดต่างๆ หรือหน้าลงประกาศต่างๆ อย่างเช่น ในอาทิตย์แรกเราทำการ Submit URL ได้ 100 เว็บไซต์ ในเดือนต่อมาเราทำการ Submit URL ได้เพิ่มอีกเป็น 300 เว็บไซต์หรือมากกว่านั้น แน่นอนเลยครับว่าภายใน 1-2 เดือนผ่านไป จะต้องมีคนรู้จักเว็บหรือบล็อคเราเพิ่มมากขึ้นแน่นอนการSubmit URL ทำเพียงครั้งเดียวต่อเว็บไซต์ก็จริง แต่อย่าลืมนะครับว่าในแต่ละวันมีเว็บไซต์ที่เกิดใหม่มากมาย ควรให้เวลาดูแล Rating ค่าความนิยมของเว็บตัวเอง และทำการ Submit URL กับเว็บไซต์ไดเรคทอรี่ใหม่ๆอยู่เสมอๆครับสมาชิกอย่าลืมทำการแนะนำทางตรงและ การโพสต์ด้วยนะครับ เพราะการโพสต์เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรทติ้งของเว็บไซต์หรือบล็อกของคุณโด่ง ดังและเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นครับ!
โปรโมทเว็บไซต์ผ่านเสิร์ชเอนจิ้น ( Search Engine )
(อธิบายเพิ่มเติมจากข้อ 5)
การ โปรโมทเว็บไซต์ในปัจจุบันที่ดีที่สุดและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดก็คือ โปรโมทเว็บไซต์ผ่านเสิร์ชเอนจิ้น ( Search Engine ) นั่นเองในการโปรโมทเว็บไซต์ผ่านเสิร์ชเอนจิ้น เป็นเครื่องมือค้นหาชนิดนี้ผู้เป็นเจ้าของเว็บไซต์จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง มีความรู้และความเข้าใจในการทำเสิร์ชเอนจิ้น เพื่อให้เว็บไซต์ค้นหายอมรับ และนำข้อมูลของเว็บไซต์ของเราเข้าไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลของเว็บไซต์ค้นหา เหล่านั้น หรือที่เรียกกันว่า การอินเด็กซ์ข้อมูลนั่นเอง ( Index ) ทำอย่างไรถึงจะให้เว็บไซต์ค้นหาใหญ่ๆทั้งหลายอย่าง Google , Yahoo , Msn เข้ามาเก็บข้อมูลของเว็บไซต์เราหรือมา Index เว็บไซต์ของเรานั่นเอง การโปรโมทเว็บไซต์ด้วยวิธีการทำเสิร์ชเอนจิ้นนี้ ถ้าเจ้าของเว็บไซต์มีความรู้เกี่ยวกับการทำเสิร์ชเอนจิ้นก็จะเป็นการประหยัด งบประมาณจำนวนมากในแต่ละปี เพราะการทำเสิร์ชเอนจิ้นต้องทำอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันกับการอัพเด ทเว็บไซต์เป็นประจำนั่นเอง แต่ถ้าเจ้าของเว็บไซต์ไม่มีความรู้ในการทำเสิร์ชเอนจิ้นแล้วก็ต้องจ้างมือ อาชีพทำให้ ซึ่งการทำเสิร์ชเอนจิ้นครั้งหนึ่งมีราคาค่อนข้างแพง ซึ่งทั่วๆไปจะอยู่ประมาณ 20,000 - 60,000 บาท ทั้งนี้ราคาขึ้นอยู่กับความยากง่ายของข้อมูลและอัตราการแข่งขัน การโปรโมทเว็บไซต์ผ่านเครื่องมือค้นหาหรือเสิร์ชเอนจิ้นเป็นการโปรโม ทเว็บไซต์ที่ดีที่สุดจากทุกๆวิธี เหตุเพราะทุกคนบนโลกนี้จากทุกๆมุมโลกสามารถเห็นหรือเข้าเว็บไซต์ของท่านได้ ทันทีจากลิ้งค์ที่ถูก Index ไว้ในฐานข้อมูลของเว็บไซต์ค้นหา นั่นคือโอกาสที่ทุกคนบนโลกใบนี้จะเห็นเว็บไซต์ของท่านสูงมากๆ ( ถ้าทำเสิร์ชเอนจิ้นให้ข้อมูลของเว็บไซต์อยู่ในอันดับแรกๆของเว็บไซต์ค้นหา ) ซึ่งการโปรโมทเว็บไซต์ด้วยเสิร์ชเอนจิ้นจะไปได้กว้างและไกลแบบไร้ขอบเขต มากกว่าทุกๆวิธีที่กล่าวมา จะเห็นว่าการโปรโมทเว็บไซต์ด้วยวิธีนี้ได้ผลและตรงจุดมากที่สุด รวดเร็วมากที่สุดจึงเป็นที่นิยมของเจ้าของเว็บไซต์ทั่วโลกที่ต้องทำ เสิร์ชเอนจิ้น
การโปรโมทเว็บไซต์ผ่าน Search Engine / เสิร์ชเอ็นจิ้นมี 2 แบบ ดังนี้
1. โปรโมทเว็บไซต์ด้วยการทำเสิร์ชเอนจิ้นแบบวิธีธรรมชาติ (Natural search Engine) คือการอัพเดทเพิ่มข้อมูลเนื้อหาที่ลงในเว็บไซต์หรือบล็อกบ่อยๆ (ไซต์ดังๆอัพเดทข้อมูลทุกวันครับ) ก็จะช่วยให้เว็บไซต์หรือบล็อกของเราติดอันดับต้นๆได้เช่นเดียวกัน
2. โปรโมทเว็บไซต์ด้วยการสร้างแคมเปญโฆษณาขึ้นมา เป็นวิธีการโปรโมทเว็บไซต์ทางลัดและรวดเร็วที่สุด เรียกว่า Google Adword เพื่อนๆสามารถศึกษาวิธีโฆษณากับ Adword ได้โดย Search คำนี้ จะพบว่ามีเว็บไซต์และบล็อกมากมาย ที่อธิบายเรื่องต่างๆเกี่ยวกับ Adwordเป็นภาษาไทยไว้มากมายครับ สมัคร Adword ฟรี คลิกที่แบนเนอร์บนโฮมเพจได้เลยครับ
เทคนิควิธีต่างๆที่แนะนำไปแล้ว เป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ๆไม่มีเทคนิคซับซ้อน ที่จริงแล้วยังมีเทคนิควิธีเกี่ยวกับการโปรโมทเว็บไซต์ กลยุทธิ์ทางการตลาดออนไลน์อีกมาก ให้เพื่อนๆได้ศึกษาและทดลองทำไปเรื่อยๆ เพื่อความก้าวหน้าสู่อาชีพ Affiliate Marketer ของคุณครับ
Link ความรู้เพิ่มเติมที่อยากแนะนำ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)