วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วัยรุ่นกับงานเครือข่าย

นับเป็นความน่ายินดียิ่ง ที่วัยรุ่นไทย สมัยนี้สนใจทำงานหารายได้เสริม โดยเฉพาะการทำงานผ่านสื่ออินเตอร์เน็ท ที่กำลังได้รับความนิยมมาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว กลุ่มวัยรุ่ยจะเน้นไปที่การทำงานออนไลน์ ต่างๆซึ่งลักษณะการซื้อเฟรนไชด์ บอกต่อแล้วมีรายได้จากการแนะนำเฟรนไชด์นั้น ซึ่งที่ได้รับความนิยมมากในขณะนี้ก็มี เฟรนไชด์ขายโฮสติง เฟรนไชด์ขายกาแฟ เฟรนไชด์ใช้บริการต่างๆ เช่นจ่ายค่าบัตรเครดิต ค่าน้ำค่าไฟ เติมเงินมือถือ ฯลฯ ซึ่งธุรกิจกลุ่มนี้จะเป็นธุรกิจที่ลงทุนต่ำ เพียงหลักร้อย จึงง่ายสำหรับการมาเริ่มต้น

แต่ธุรกิจ กลุ่มนี้ หากลองมาถามทางผู้ที่คร่ำหวอดในวงการเครือข่าย หลายคนจะพุดกันเป็นเสียงเดียว ว่ามีลักษณะเข้าข่ายมันนี่เกมส์ ก็คือการเอาเงินค่าสมัคร มาจ่ายต่อๆกันเรื่อยๆ มีสินค้าบริการมาบังหน้า ซึ่งเบื้องหลังการจ่ายรายได้หลักคือการหาคนใหม่ และโดยส่วนใหญ่เงินที่จ่ายไป เรามักจะไม่ได้สินค้าอะไรกลับมามีเพียงแค่เวบไซด์ และโอกาศทำเงิน

แต่จะใช่ว่า ผมจะมาบอก มากล่าวหาว่าธุรกิจเหล่านี้เป็นธุรกิจผิดกฎหมายนะ เพราะจริงๆแล้วกฎหมายเขียนไว้กว้างสำหรับธุรกิจกลุ่มนี้ และหลายๆประเทศก็ มีธุรกิจกลุ่มให้สำหรับเราได้สร้างรายได้กัน

"มันนี่เกมส์" มุมมองคนไทยอาจจะคิดว่าเป็นมุมลบ แต่จริงๆแล้วในมุมมองต่างชาติ ฝรั่งเขากลับมองว่า คำว่ามันนี่เกมส์ คือเกมส์การทำเงิน หรือการสร้างรายได้จากการหมุนเวียนของเงิน ซึ่งเมืองไทยยังไม่ค่อยยอมรับธุรกิจกลุ่มนี้มากนัก และไม่แน่ใจว่ากฎหมายไทย เขียนธุรกิจกลุ่มนี้จัดเป็นประเภทใด

แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดี สำหรับการเริ่มต้นเรียนรู้ธุรกิจเครือข่าย เรียนรู้รสร้างรายได้ การสร้างทีม การสร้างองค์กรของกลุ่มวัยรุ่น เพราะธุรกิจเหล่านี้ ลงทุนเพียงเล็กน้อย ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากมาย เปรียบเสมือนกับว่า เป็นการเริ่มต้นฝึกงานด้านเครือข่าย

แต่ถ้าเรามามองความยั่งยืน และรายได้ที่จะสูงขึ้นในหลายหมื่น หลายแสนบาทนั้น วัยรุ่นบางคนอาจจะไม่เชื่อว่าวิธีการเดียวกันกับที่เขาเคยทำนี่แหละ การทำงานเท่ากัน ให้เวลาเท่ากัน แต่สามารถสร้างรายได้ให้มากกว่าหลายเท่า

เหตุผลหลักๆของงานเครือข่าย หรือขายตรงต่างๆ ที่สามารถสร้างรายได้ที่สูงกว่า ก็เพราะเป็นธุรกิจที่มีตัวสินค้าจริงๆ และรายได้หลักตามแผนการตลาดก็เกิดจากการบริโภคสินค้าซ้ำ จากกลุ่มผู้บริโภค การคำควณรายได้ไม่ได้ขึ้นกับการแนะนำคนใหม่ ดังนั้นจะเห็นว่า ธุรกิจเครือข่ายที่มีสินค้าหลากหลาย มีคุณภาพ มีจุดเด่นของตนเอง มักจะเป็นธุรกิจที่ทำเงินให้นักธุรกิจได้มากมาย

แต่ปัญหามันอยู่ที่ความรู้สึก ที่วัยรุ่นถูกปลูกฝังมากจากการได้ยินได้ฟัง ข้อมูลของธุรกิจขายตรงว่า เราต้องขายสินค้าเยอะๆนะ เราต้องไปอบรมทุกสัปดาห์นะ ต้องสาธิตสินค้า ต้องชวนคนเข้าไปฟังนะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมเข้าใจผิดๆ ว่าวิธีการทำธุรกิจเครือข่าย ทำขายตรงต้องเป็นแบบนั้นทั้งหมด

ถ้าหากได้มีโอกาศศึกษา การทำธุรกิจของต่างประเทศนะ เขาจะใช้อินเตอร์เน็ทในการทำงาน ผู้เข้าร่วมธุรกิจมีความสะดวกสบายมาก ไม่เหมือนกับเมืองไทยเราเลย แต่ก็อย่างที่ทราบกันดี เมืองไทยมักจะตามหลักอเมริกา เป็นสิบปีในเรื่องนี้

ปี 2010 จุดรุ่งเรืองของธุรกิจผ่านเน็ท เนื่องจากเมืองไทยเริ่มมีการใช้อินเตอร์เน็ทกันมากขึ้น การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เยอะขึ้น วัยรุ่นเริ่มให้ความสนใจธุรกิจเครือข่ายมากขึ้น คนกลุ่มนี้แหละในอีก 1-2 ปีข้างหน้า จะเป็นผู้นำธุรกิจเครือข่ายที่แท้จริง ในปี 2010 เราอาจจะได้เห็นวัยรุ่นอายุ 20-25 ปี มีรายได้เดือนละล้านก็เป็นได้ เพียงแต่เข้าเปิดโอกาศมาเรียนรู้ข้อมูลธุรกิจเครือข่าย อย่างแท้จริง แล้วนำมาทำการตลาดในรูปแบบของตัวเขาเอง

เพื่อนๆรู้ หรือป่าวครับว่า หน้าที่ของนักธุรกิจเครือข่ายจริงๆคืออะไร การทำธุรกิจ เครือข่ายให้สำเร็จ เรามีหน้าที่ 2 อย่างครับ ประชาสัมพันธ์หรือทำการตลาด กับทำหน้าที่บริหารองค์กร ใครเรียนสาขาบริหารมาคงยิ้มหวาน "เฮ้ยอาชีพนี้มัน คือสาขาที่เราเรียนหรือนี่?" ใช่แล้วครับการทำธุรกิจเครือข่าย คือการที่คนมาประกอบอาชีพด้านการตลาดและการบริหาร ปัจจุบัน บางมหาวิทยาลัย เริ่มมีการบรรจุสาขาธุรกิจเครือข่าย ขายตรง ลงไปในหลักสูตรการเรียนการสอนแล้ว เพราะเขามองว่า ถ้าหากนักศึกษาได้รับการเรียนรู้อย่างถูกวิธี จะสามารถนำมาประกอบอาชีพ สร้างรายได้ได้ ดีกว่าอาชีพอื่นๆ

เรามารู้จักการตลาดกัน การตลาดก็คือการประชาสัมพันธ์ ถ้าเป็นขายตรงยุกต์เดิมๆ เขาจะเน้นบอกต่อคนรู้จักไปเรื่อยๆ พอถัดมาอีกนิดก็เริ่มมีใบปลิว ประชาสัมพันธ์คนไม่รู้จัก ต่อมาเริ่มใช้สื่ออื่นๆ ที่สะดวกสบายมากขึ้น เช่น โฆษณาผ่านหนังสือพิมพ์ ผ่านเวบไซด์ หรือแม้กระทั่งการส่งอีเมล์ หรือการส่ง SMS ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ถูกนำมาใช้

แล้วเราจะประชาสัมพันธ์อย่างไร อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าตัวเราชอบแบบใหน ทำแบบใหนได้ดี ก็ใช้วิธีนั้นประชาสัมพันธ์ ได้เลย ส่วนข้อมูลที่ประชาสัมพันธ์ก็มีสองกลุ่ม คือกลุ่มผู้สนใจทำธุรกิจหารายได้เสริม และกลุ่มผู้ที่สนใจตัวผลิตภัณฑ์ เมื่อคนเหล่านั้นได้เข้ามาร่วมภายใต้สายงานเรา ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้หรือคนทำธุรกิจ จะช่วยให้เกิดรายได้จากการสร้างเครือข่ายในครั้งนี้

สำหรับการบริ หาร คืออีกอย่างที่พลาดไม่ได้ จำเป็นต้องเรียนรู้ เพราะการที่เราสร้างเครือข่ายของเราแล้ว ไม่ได้สร้างกาบริหารจัดการให้ดี องค์กรก็ไม่โต การเกิดรายได้ก็จะไม่ต่อเนื่อง ดังนั้นหากเรารู้จักการบริหาร ก็จะทำให้เครือข่ายของเราขยายกว้างไปแบบไม่มีที่สิ้นสุด รับรายได้แบบทวีคูณขึ้นไปเรื่อยๆ

สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ เราอาจจะไม่รวยเงินหมื่นเงินแสนรวดเร็ว อย่างคนอื่นๆหรือพวกผู้นำหลายคน แต่เชื่อผมเถอะ ถ้าเรามุ่งมั่นฝึกฝน วันนึงเราก็มีโอกาศมีได้อย่างเขาเหล่านั้น เพราะคนที่สำเร็จ คนที่ได้เงินหมื่น เงินแสน เงินล้าน ตอนเขาเริ่มต้นเรียนรู้ธุรกิจครั้งแรก เขาไม่ต่างจากเรา เราเองอาจทำได้ดีกว่าเขา เพราะคนรุ่นใหม่ สมัยนี้มีเครืองมือ ต่างๆช่วยให้ประสบความสำเร็จได้มากมาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น