วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

ระบบ Atraction Martketing

ระบบ Atraction Martketing

ประกอบด้วย

1. ระบบ Leader Gernaration
2. ระบบ Follow up
3. ระบบปิดการขายอย่างมืออาชีพ

ระบบ Leader Gernaration

ในปกติการทำธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ ขายตรง เครือข่าย ธุรกิจออนไลน์ ประกันชีวิต หรือทุก ๆ ธุรกิจ จะต้องทำให้คนเข้าเว็บไซต์ธุรกิจหรือร้านของเรามากที่สุด ธุรกิจใดที่ไม่สามารถดึงดูดคนเข้าชมเว็บไซต์หรือร้านเราได้ ยอดขายก็จะไม่เกิดและธุรกิจก็ไม่ประสบความสำเร็จ

แล้ววิธีการดึงดูดคนให้เข้ามาในเว็บไซต์เรามีวิธีอะไร และต้องทำอย่างไรบ้าง หลายคนก็อาจจะเคยทำมาแล้วหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการลงโฆษณา จากที่ต่าง ๆ ทั้งแบบรายเดือน หรือรายสัปดาห์ การเชิญคนที่รู้จักให้เข้ามาดูเว็บไซต์ การส่งเมล์

หลายคนเสียค่าโฆษณาไปมากเพื่อที่จะให้คนเข้ามาดูเว็บไซต์ธุรกิจของตนเอง แต่แล้วกลับล้มเหลวและเพราะไม่มีคนสมัครประกอบกับ ตนเองไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีใครเข้ามาชมเว็บไซต์ของเราบ้าง เพราะบางครั้งผู้ที่เข้ามาดูเว็บไซต์ของเราอาจจะดูผ่าน ๆ หรือมีเวลาดูไม่มากนัก

แล้วเราจะมีวิธีการอย่างไรที่แก้ปัญหาเหล่านี้

จะดีกว่าไหมถ้าเรามีข้อมูลของผู้ที่เข้ามาดูข้อมูลเว็บไซต์ของเรา ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ อีเมล์ หรือเบอร์โทรศัพท์ เพื่อที่เราจะได้มีโอกาสติดตามได้ในภายหลัง เพราะโดยส่วนใหญ่ไม่มีใครที่ตัดสินใจในการทำธุรกิจกับเราตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น อย่างน้อยต้องใช้เวลาศึกษาธุรกิจก่อน ก็เหมือนกับตัวของเรา ก็ไม่เคยทำธุรกิจอะไรตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเช่นกัน

วิธีการแก้ปัญหาคือ เราจะต้องมีระบบจัดเก็บข้อมูลของผู้หวังเพื่อที่จะได้ให้เขากรอกรายละเอียดส่วนตัว ก่อนที่จะเข้าไปดูข้อมูล ไม่ว่าเขาจะได้ดูข้อมูลตัดสินใจทำธุรกิจกับเราหรือเปล่า แต่อย่างน้อยเราก็มีโอกาสติดตามผู้มุ่งหวังคนนี้ได้ในครั้งต่อไป เพราะอย่างน้อยเขาก็มีความสนใจในธุรกิจของเราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในการทำระบบเก็บข้อมูลของผู้มุ่งหวัง เราเรียกว่า Lead Capgerpage ยกตัวอย่างของเว็บที่มีระบบนี้เช่น

ซึ่งจะเห็นว่าเมื่อเข้าไปในเว็บจะมีช่องให้กรอกข้อมูลเพื่อที่จะได้เข้าไปดูเนื้อหาข้อมูลของธุรกิจของเราได้ และข้อดีอีกอย่างหนึ่งของระบบ Leader Capgerpage นี้ คือเป็นการช่วยคัดกรองผู้มุ่งหวังเราอีกขั้นหนึ่ง เพราะอย่างน้อยคนที่กรอกข้อมูลเข้ามาคือคนที่กำลังมองหาหรือคนที่มีความสนใจในธุรกิจนี้อย่างจริง ๆ เราจะได้มุ่งเน้นมาทำการตลาดกับผู้มุ่งหวังเหล่านี้โดยเฉพาะ


ในส่วนของการดึงดูดผู้มุ่งหวังให้เข้ามาเว็บไซต์ธุรกิจของเรา มีหลายวิธี ทั้งที่เสียค่าใช้จ่ายและฟรีค่าใช้จ่าย เช่น

1. VDO Youtube
การใช้ VDO Youtube เป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ธุรกิจของเราอย่างหนึ่งที่ไม่มีค่าใช้จ่าย ปัจจุบันมีธุรกิจจำนวนมากที่ประชาสัมพันธ์ธุรกิจตัวเองผ่านสื่อนี้ ซึ่งข้อดีนอกจากไม่มีค่าใช้จ่ายแล้ว สื่อ VDO Youtube ยังมีจำนวนคนเข้ามาดูในแต่ละวันค่อนข้างมาก เป็นอันดับ 3 รองจาก google เลยทีเดียว และเป็นการกระจายสื่อไปได้ทั่วโลก เพราะคนส่วนใหญ่ชอบดู VDO หรือภาพเคลื่อนไหวมากกว่าการอ่านเนื้อหา

2.การลงโฆษณา google
สำหรับการลงโฆษณา google นับเป็นว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลทีเดียวในการสร้างรายชื่อผู้มุ่งหวัง แต่วิธีนี้จะเป็นการเสียค่าใช้จ่าย แต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นก็ถือว่ายุติธรรมกับผู้ที่ลงโฆษณา เนื่องจากเราจะเสียค่าโฆษณาก็ต่อมีมีผู้ที่สนใจคลิ๊กที่โฆษณาของเราเท่านั้น ถ้าไม่มีการคลิ๊กก็ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งค่าใช้จ่ายต่อคลิ๊ก เราสามารถกำหนดเองได้ รวมไปถึงกำหนดงบประมาณในการโฆษณาแต่ละวันได้ด้วย

โดยรายชื่อผู้มุ่งที่มาจากการค้นหา google จะค่อนข้างมีคุณภาพเพราะเป็นผู้ที่มีความสนใจในธุรกิจทำการค้นหาอย่างจริง ๆ ทำโอกาสในการเข้ามาทำธุรกิจกับเราก็มีสูงไปด้วย

สำหรับผู้ที่มีความต้องการลงโฆษณา google ก็ไม่ยาก เพราะเดี๋ยวนี้มีหนังสือที่จะคอยอธิบายขึ้นตอนการสมัครลงโฆษณาไว้มากมาย โดยสามารถหาซื้อมาศึกษาเพิ่มเติมได้ครับ

3. การโพสต์เว็บบอร์ด
การโพสต์เว็บบอร์ดเป็นอีกวิธีหนึ่งที่นักธุรกิจเครือข่ายนำมาใช้ในการหาผู้มุ่งหวังกันมาก สังเกตได้จากในแต่ละเว็บจะมีหัวข้อโฆษณาธุรกิจประเภทนี้มาก การที่จะมีผู้มุ่งเข้ามากรอกข้อมูลจากที่เราได้โพสต์ไปก็มีปัจจัยหลายอย่าง เช่น จำนวนเว็บบอร์ดในการโพสต์ เช่นคนที่โพสต์วันละ 1 เว็บโอกาสที่จะมีคนเข้ามากรอกข้อมูลคงน้อยกว่าคนที่โพสต์ 30-50 เว็บ รวมไปถึงข้อความโฆษณาที่ใช้ในการโพสต์ว่าจะมีข้อความที่ดึงดูดใจผู้มุ่งหวังได้มากน้อยแค่ไหน

เว็บบอร์ดที่ใช้ในการโพสต์ก็มีทั้งเสียเงินและไม่เสียเงิน อันนี้แล้วงบประมาณในการทำธุรกิจของแต่ละคน บางเว็บก็คิดค่าใช้จ่ายเป็นรายสัปดาห์ หรือ รายเดือน มีราคาตั้งแต่ 500-30,000 บาทต่อเดือน ซึ่งการลงโฆษณาที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายประสิทธิภาพในการเห็นของผู้มุ่งหวังอยู่แล้ว เพราะสามารถโชว์โฆษณาให้เห็นตลอดเวลา เทียบกับการโพสต์แบบไม่มีค่าใช้จ่าย อันดับของโฆษณาจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้โอกาสในการมองเห็นของผู้มุ่งหวังจะมีน้อย จนทำให้เราต้องคอย up date โฆษณาของตัวเองตลอดเวลา

และอีกอย่างอย่างเผลอไปโพสต์ข้อความโฆษณาในหัวข้อที่ทางเว็บห้ามโพสต์หรือผิดหมวดหมู่นะครับ เพื่อนอกจากจะเกิดความรำคาญต่อคนอื่นแล้ว ยังอาจจะโดนลบทิ้งจาก web master ได้ง่าย ๆ


4. การสร้างสังคมออนไลน์
ในโลกการทำงานออนไลน์ การสร้างสังคมออนไลน์ก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ การเป็นสมาชิก HI 5 , Facebook , My space , Twitter , และอีกมากมาย ซึ่งในสังคมเหล่านี้ก็มีกลุ่มเพื่อน ๆ ที่เข้ามาพูดคุย และอาจจะมีคนที่สนใจธุรกิจที่เราทำอยู่ก็ได้ แต่ก็ไม่ควรที่จะโฆษณาขายสินค้าอย่างโจ่งแจ้งนะครับ ควรจะเป็นการพูดคุยทำความรู้จักและแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้แก่กันมากกว่า

การสมัครเป็นสมาชิกเว็บเหล่านี้ ก็ไม่ยากครับ ยังไงก็ลองเข้าไปสมัครดู บางที่อาจจะเจอผู้มุ่งหวังของเราก็ได้ครับ และที่สำคัญสมัครฟรีครับ


5. การทำข้อความตอบรับอีเมล์อัตโนมัติ และการทำ signaturl
วิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีที่ง่ายและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ หลายท่านคงมีอีเมล์ใช้ประเภทฟรีอีเมล์เช่น hotmail yahoo gmail อะไรก็แล้วแต่ ซึ่งเราสามารถทำระบบตอบรับอัตโนมัติได้และพ่วงด้วยการแทรกลิงค์ธุรกิจของเราไป คือเมื่อมีใครก็ตามส่งเมล์มาหาเรา ระบบตัวนี้ก็จะส่งข้อความที่เราได้ตั้งไว้ไปอัตโนมัติ นับเป็นวิธีโปรโมทธุรกิจของเราได้อีกวิธีหนึ่งที่ค่อนข้างได้ผลทีเดียว

นอกจากนี้เราสามารถสร้างลายเซ็นของเรา หรือระบบ signaturl ได้อีกด้วย และลายเซ็นเรานอกจากจะมีชื่อเราแล้ว เรายังสามารถแทรกลิงค์ของเราไปได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการใช้วิธีนี้เมื่อเราตามส่งเมล์ที่ได้รับต่อไปให้คนอื่นก็จะมี ชื่อเราพร้อมกับ ลิงค์ธุรกิจของเราส่งไปด้วยอัตโนมัติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น