วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

12 รากหญ้าต้นแบบธุรกิจ

ทุกธุรกิจที่เติบโตได้ต้องมีรากฐาน หรือคุณค่าที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ ในการจูงใจลูกค้า ผมได้รวบรวมมาทั้งหมด มี 12 แบบ


1. Discount Model มีรากฐานมาจากการลดราคาเพื่อจูงใจลูกค้าให้ซื้อสินค้า เช่น ห้าง แมคโคร โลตัส ขายสินค้าในราคาถูกกว่าที่อื่นและประกันราคาถูก สินค้า แฟชั่นที่ลดราคา 30-50% กันเป็นประจำ บางยี่ห้อถึงกับผลิตมาเพื่อลดราคาเป็นสินค้าเกรดสอง บางยี่ห้อตั้งราคาคูณ สองเผื่อลดราคาไว้ล่วงหน้า การค้าขายในอินเทอร์เน็ตที่มีรากฐานที่เชื่อว่าผู้ซื้อจะซื้อสินค้าได้ถูก เพราะสามารถแสวงหาข้อมูลสินค้าและราคาได้อย่างรวดเร็วจึงเป็นตลาดของผู้ซื้อ ที่มุ่งหวังได้สินค้าราคาถูกสุด แม้กระทั่งการทำ E Procurement


2. Quality Model ธุรกิจพยายามทุกวิธีเพื่อให้ได้สินค้ามีคุณภาพและมาตรฐาน รวมถึงการควบคุมคุณภาพสินค้าและบริการ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำจนถึงมือลูกค้า บริษัทจะเน้นการทำ ISO,QS,TQC,QCC,TQM มีมาตรการคุณภาพที่ชัดเจนในขบวนการธุรกิจและการผลิต เช่น Toyota, Sony ญี่ปุ่นอาศัยปัจจัยเรื่องคุณภาพเข้ามาตีตลาดสหรัฐและยุโรป ในปี 1980



3. Low Price –Mass Model คือการผลิตสินค้าให้มากจนถึงจุดต่ำสุดของต้นทุน การสั่งซื้อในปริมาณมาก ผลิตมากให้ได้ต้นทุนต่ำ Economy of scale มีการแบ่งงานกันทำเน้นความชำนาญเฉพาะด้านในการผลิต จนเกิดการเรียนรู้และประสพการณ์เฉพาะ (Learning Curve) มีการ ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีค่าแรงงานต่ำเช่น จีนแดง เวียดนาม หรือบริเวณชายแดน


4. Service Model การเน้นการให้บริการ ถือว่าทุกผลิตภัณฑ์จะต้องมีบริการพ่วง เช่นบริการซ่อม กรณีเครื่องเสีย เช่นเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร, บริการให้ความรู้ในการใช้งานได้ถูกต้อง เช่นคอมพิวเตอร์ , บริการหลังการขายเช่น แอร์ เครื่อซักผ้า , บริการส่งถึงบ้านเช่น เคเอฟซี พิซซ่า สุกี้ บริการให้ข้อมูลประกอบการซื้อหรือตัดสินใจได้ถูกต้อง เช่น เพาเวอร์บาย ให้ข้อมูลซื้อเชิงเปรียบเทียบรุ่นต่อรุ่น เครื่องสำอางค์ แชมพูที่มีบริการตรวจสุขภาพผิวและ เส้นผม


5. Free model คือให้ลูกค้ามาใช้ฟรี อาจจะชั่วคราวหรือถาวรก็ได้ เช่น UBC,TA express ที่ให้บริการใช้ฟรี 2 เดือนก่อน Yahoo ให้คนเข้าใช้บริการ Search Engine หาข้อมูลฟรี , NTT Do Co Mo ไม่ขายเครื่องให้เครื่องใช้ ฟรี แต่คิดค่าบริการการใช้ เหมือนการเช่า แต่ไม่คิดค่าบริการตามนาทีเหมือนมือถือบ้านเรา แต่คิดเป็น จำนวนข้อมูลที่ลูกค้าใช้ถ้าลูกค้ามีการใช้ข้อมูลการโอนถ่ายมากก็จะจ่ายมาก Freeinet บริการให้ลูกค้าเข้าสู่อินเทอร์เน็ตฟรีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายรายชั่วโมง แต่เอารายได้มาจากผู้โฆษณา ผู้เช่าพื้นที่ขายใน Virtual Mall แทน


6. CRM Model –Customer Relationship Model เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า หลักมีอยู่ว่าทุกการติดต่อระหว่างบริษัทกับลูกค้า ทำอย่างไรให้เกิดประสพการณ์จากการติดต่อ ใช้ กิน ดื่ม สัมผัส ที่เป็นบวก และเกินลูกค้าคาดหวังตลอดเวลา ดังนั้นเราจำเป็นต้องรู้จักลูกค้า ประวัติ ลักษณะ ทางประชากรศาสตร์ จิตวิทยา ประวัติการใช้ การซื้อสินค้าและบริการ ระบบสมาชิก , สะสมไมล์ สะสมแต้มหรือยอดซื้อ ของบัตรเครดิต และสายการบิน โรงแรม ,การสร้างกลุ่มหรือชุมชน รักลูก-Baby Club Pamper,Nestle.รักครัว-Maggi,รักเรียน-Mama ,รักสนุกRCA Centralpoint ,รักกีฬา สิงห์ Adidas Nike เพื่อรวมกลุ่มลูกค้าคาดหวัง ลูกค้าจริง เข้าด้วยกันเป็นชุมชน และสร้างประสบการณ์เชิงบวกให้ลูกค้าติดใจใช้ซ้ำ เกิดความภักดี

หลักการคือลูกค้าเก่าจะมีคุณค่ายอดซื้อมากกว่าลูกค้าใหม่ และเสียค่าใช้จ่ายน้อยในการทำให้ลูกค้าเดิมที่รู้จักเราดี ซื้อซ้ำResale,ซื้อสินค้าอื่นจากบริษัทเรา Cross sale,ชวนเพื่อนมาซื้อ Friend Sale,ซื้อสินค้าจากเรามากขึ้น Upsale จากประวัติทางพฤติกรรมของลูกค้าทำให้เราสามารถพยากรณ์ พฤติกรรมลูกค้าล่วงหน้า เช่น รายนี้ชอบ ของแถม , รายนี้ชอบชิงโชค , รายนี้ชอบสินค้าใหม่ , รายนี้ชอบสินค้าลดสต๊อค , รายนี้ชอบเข้างานแสดงร่วมEvent


7. Technology model เป็นการนำเทคโนโลยี่ คอมพิวเตอร์ การสื่อสารมาใช้เพื่อพัฒนาเครือข่ายข้อมูล ที่ใช้ในการตัดสินใจที่รวดเร็ว การสื่อสารหากัน ลดต้นทุนสินค้า ลดสต๊อคสินค้าเหลือ 20วัน , จัดซื้อ E Procurement , เก็บข้อมูลการขายหน้าร้าน Quick Response, ย่นระยะเวลา การวิจัย และให้ใช้ข้อมูลร่วมจากคลังข้อมูลภูมิปัญญาสร้างสรรของบริษัท Intelligence Warehouse ,ให้ใช้ในการฝึกอบรมพนักงานE Learning , ใช้ทำการตลาดออนไลน์ Ecommerce, การนำมาใช้ในระบบนำส่งLogistics ให้รวดเร็ว , นำมาใช้ในด้านบริการลูกค้า 24/7 นอกจากนี้ยังหมายถึงการนำเทคโนโลยี่การผลิตมาใช้เช่น การสกัดสมุนไพรด้วยสารละลายและการทำให้เข้มข้น ,การทำมะขามอัดเม็ดด้วยเครื่องจักรทันสมัย,การทำอาหารกล่องแช่แข็ง,การทำหมู ยอห่อด้วยเครื่องจักร,ข้าวหอมมะลิบรรจุกระป๋อง


8. Distribution Model คือการพัฒนาช่องทางการตลาดใหม่ เช่น สร้างทีมขายใหม่ เพิ่มพื้นที่ขายใหม่ ทั้งนอกห้างในพลาซ่า นอกห้างเลย เป็นช่อง Modern Trade ใช้อินเทอร์เน็ตเปิด ตลาดต่างประเทศ , เข้าสู่ฐานลูกค้าใหม่ เช่น Dell ขยายฐานการตลาดมาสู่เอเชียเพราะในเอเชีย เดลล์มีส่วนแบ่งตลาดน้อยเพียง 12%เทียบกับยอดส่วนแบ่งในอเมริกามีเกือบ50% บริษัทไทยเปิดตลาดต่างประเทศโดยการเข้าสู่อินเทอร์เน็ตเชิงรุก ติดต่อ บริษัท ห้าง ขายตรง เองเปิดตลาดเอง เป็น B2B และท้ายสุดจากE Commmerce สู่ M Commerceพาณิชย์ในมือถือ


9. Business Porfolio Model คือการปรับฐานธุรกิจเอง เช่น Intel Chip มีฐานชิพเป็นพวกคอมพิวเตอร์ 80% สื่อสารและNetwork 20% ในอนาคต อินเทลจะปรับฐานตนเองจาก ชิพคอมพิวเตอร์เป็นชิพความเร็วสูงที่ใช้ในธุรกิจการสื่อสาร Networkเครือข่ายสื่อสารแทน และเริ่มมาผลิตคอมพิวเตอร์ตนเอง เช่นเดียวกับ Samsung ที่แต่เดิมมีฐานสินค้าเป็น Semi Conductor กว่าครึ่งของยอดขาย

แต่ปัจจุบันได้ปรับฐานมาสู่ Digital Media 25%,IT Telecom 25% ,Electronic Appliances 15%, Semi Conductor เหลือเพียง 15% HP,Compaq ได้ปรับฐานตนเองจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเป็น Network & Server นอกจากนี้ Compaq ยังออก เครื่อง iPaq คอมพิวเตอร์มือถือขนาดพกพา Pocket PC ที่ใช้ Window Operation สามารถตีตลาด PDA Palmได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น