วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เช็คบิลแพทย์-พยาบาล ขายตรงเว่อร์

เช็คบิลแพทย์-พยาบาลเว่อร์

เมื่อสัปดาห์ก่อน "ประกายหิน" มีโอกาสพูดคุยกับกรรมการแพทยสภาท่านหนึ่งเกี่ยวกับบรรดาหมอๆ และพยาบาลที่เข้าไปหากินอยู่ในแวดวงขายตรง

เพราะกลุ่มแพทย์ดังกล่าว ได้พากันอาศัยระบบขายตรงหากินอย่างผิดจรรยาบรรณ โดยอาศัยคราบของแพทย์-พยาบาล ซึ่งมีต้นทุนและความน่าเชื่อถือทางสังคมสูง ใช้เป็นกลไกในการ "หลอกลวง" ผู้บริโภคที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์

คนพวกนี้จะเข้าไปพัวพันในรูปแบบสมาชิกพิเศษของบริษัทขายตรงที่ขายสินค้าประเภทเสริมอาหาร ด้วยการขึ้นพูดโมติเวทว่าสินค้าดีอย่างนั้นอย่างนี้ โดยไม่รู้สึกกระดากปาก

ชาวบ้านตาสีตาสาจะไปรู้อะไร ขนาดพวกหมอ และพยาบาลยังออกมาการันตีสินค้าอาหารเสริมว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ ราคาเท่าไหร่เขาก็ซื้อ ยิ่งในระบบขายตรงมีแผนการตลาดว่า สามารถสร้างความร่ำรวยได้เป็กอบเป็นกำ ขนาดหมอยังทำแล้วชาวบ้านใครบ้างล่ะจะไม่เชื่อถือ

ประชาชนก็เลยกลายเป็น "เหยื่อ" อันโอชะของคนพวกนี้

ขณะนี้ทางสถาบันแพทย์และองค์กรพยาบาลกำลังเก็บรวบรวมข้อมูลของพวก "นอกรีต" เหล่านี้ เพื่อขึ้น "บัญชีดำ" ดีไม่ดีอาจถอดออกจากการเป็นหมอรักษาโรค ถีบส่งให้ไปอยู่กับกลุ่ม "หมอผี" ไปโน่นเลย

กลายเป็นว่าเวลานี้ วงการขายตรงบ้านเรา "นักต้มตุ๋น" ตัวฉกาจไม่ใช่คนในแวดวงขายตรงมืออาชีพอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นพวกที่มีการศึกษาสูงๆ มีตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นที่น่าเชื่อถือ

เจ้าของบริษัทขายตรงที่มีความเชี่ยวชาญด้าน "ปั่นเงิน" ยอมจ้างพวกหมอ "นอกคอก" บางคนที่ว่านี้ไปเป็นวิทยากรเดือนละ 100,000-150,000 บาท บรรยายเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น บางรายที่พูดเก่งเป็นต่อยหอย ค่าตัวพุ่งพรวดกว่าเดือนละ 200,000 บาท

นี่ยังไม่นับรวมกับรายได้ที่เกิดจากสายงาน ที่บริษัทสร้างให้อีกส่วนหนึ่ง

ขณะที่พยาบาลหากรายใดถูกชูให้เป็นวิทยากร พูดเรื่องสรรพคุณของสินค้า ด้วยการยืนยันว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ ก็จะมีรายได้อีกเดือนละ 30,000-50,000 บาท

บริษัทขายตรงจอมลวงโลกส่วนใหญ่จะขายสินค้าจำพวกอาหารเสริมประเภทพิสดารพันลึก สรรพคุณวิเศษยิ่งกว่า "ยาเทวดา" เสียอีก เพราะสามารถรักษาได้สารพัดโรค
"
ประกายหิน" มีโอกาสคุยกับพยาบาลคนหนึ่ง ซึ่งเพิ่งย้ายไปอยู่ค่ายขายตรงใหม่แห่งหนึ่ง เพราะค่ายเก่าถูกทางการเล่นงาน คุณเธอยอมเปิดเผยความจริงอย่างเต็มใจเพื่อให้เป็นความรู้กับประชาชนว่า

ผลตอบแทนจากตรงนี้นับว่าไม่เลวเลยที่เดียว เพราะปกติอาชีพพยาบาลเดือนหนึ่งก็มีรายได้ประมาณกว่า 10,000 บาท พอเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกบริษัทขายตรงที่ขายอาหารเสริมได้ระยะหนึ่ง ทำให้เกิดช่องทางใหม่ นั่นคือ เป็นวิทยากรพูดให้สมาชิกใหม่ฟัง

ทีแรกบริษัทที่ว่านี้ก็จ่ายค่าขึ้นเวทีครั้งละ 1,000-2,500 บาท ตามระยะที่เดินทางไปพูดว่าใกล้ไกลแค่ไหน
เมื่อพูดบ่อยๆ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทไปแล้ว ทางบริษัทก็เลยจ้างให้กินเงินเดือนประจำเดือนละ 30,000 บาท ถือเป็นรายได้ที่เพิ่มจากการสร้างสายงาน

บริษัทนี้จะมีแพทย์และพยาบาลเพื่อสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นพูดเกี่ยวกับเรื่องสรรพคุณของสินค้า เพื่อการันตีให้สมาชิกใหม่เกิดความเชื่อถือประมาณ 5-6 คน ที่แน่ๆ ได้ข่าวว่า หมอบางคนมีรายได้จากการพูดสรรพคุณสินค้าเพียงอย่างเดียวเดือนละหลายแสนบาท

ถามว่าบริษัทคุ้มไหมกับเงินที่ต้องมาจ่ายให้กับนักพูดซึ่งเป็นแพทย์และพยาบาล จากการสังเกต ชาวบ้านที่ถูกระดมมาจากต่างจังหวัดครั้งละ 300-400 คน มีไม่ต่ำกว่า 70 % ที่ยอมควักเงินสมัครเป็นสมาชิก และซื้อสินค้าเดี๋ยวนั้น

บางคนก็ซื้อทีละ 3-4 ขวด เป็นเงินนับหมื่นบาทก็มี เพราะแม่ทีมที่พูดเรื่องแผนการตลาด พูดเรื่องรายได้จะพากันตอกย้ำว่า หากลงเงินจำนวนเท่านี้ก็จะมีรายได้เท่านั้น ลงทุนมากได้มาก ชาวบ้านซึ่งอยู่ในอารมณ์เชื่ออยู่แล้ว ก็ยอมเสียเงินโดยไม่ลังเลใจ

"ยอมรับว่าพี่อยู่บริษัทนี้มากว่า 6 เดือน รู้สึกว่าการกระทำของตนเองมันผิดยังไงบอกไม่ถูก ทีแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ได้เงินมาก็โอเค พอทำแบบนี้นานๆ เข้า รู้สึกว่าเราชักจะถลำลึกเข้าไปทุกที บอกตรงๆ ว่าพี่กลัวบาปมากๆ เวลานี้ พี่ก็เลยย้ายมาอยู่ค่ายใหม่นี่แหละ เพราะอยากทำในสิ่งที่มันถูกต้องจะดีกว่า"
นี่แค่หนังตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่พยาบาลผู้กลับใจยอมระบายความในใจให้ "ประกายหิน" ฟัง

ส่วนคนที่เรียนจบแพทย์มาส่วนใหญ่จะไม่กลัวเรื่องไสยศาสตร์ หรือบาปบุญคุณโทษ โดยเฉพาะ "พวกหมอ" บางคนที่หากินอยู่ในแวดวงขายตรง คนพวกนี้รับจ้างเป็นนักพรีเซ้นต์สินค้าอาหารเสริมให้กับบริษัทขายตรงปั่นเงินจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งดังกล่าวแบบถอนตัวไม่ขึ้น

แถมยังเดินลอยห้าลอยตาทำวีซีดี พรีเซ้นต์สรรพคุณอาหารเสริมให้กับบริษัทขายตรง "ลวงโลก" อย่างไร้จิตสำนึกและจรรยาบรรณ ตายไปคนพวกนี้ก็ต้อง "ตกนรก" สถานเดียว

เมื่อเรื่องมันอย่างนี้ "ประกายหิน" ก็ต้องขอกราบวิงวอน "แพทยสภา" เร่งหามาตรการเพื่อ "เล่นงาน" หมอพวกนี้ให้หมดไปจากสังคมไทยในเร็ววัน

เพราะพวก "บดซบ" เหล่านี้มันอาศัยเสื้อกราว ชุดขาว และคำว่า "นพ." นำหน้าไว้หากิน ด้วยการ "ต้มตุ๋น" หลอกลวงประชาชนแบบไม่มียางอาย

มันชั่วช้าเลวทรามยิ่งกว่าหมอผี "เณรแอ" จอมขมังเวทย์ย่างเด็กทำน้ำมันพรายเสียอีก!!

ที่มา http://www.taladvikrao.com/212/212lapchapor.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น