วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เว็บมั่นนี่เกมเขมือบเงิน100วัน33ล.

เว็บมั่นนี่เกมเขมือบเงิน100วัน33ล.2สมาคมส่งซิกส์กระทุ้งรัฐ

หลุมพรางสูญเงินแล้วหลายราย คาดความเสียหายหากคำนวณเป็นตัวเลข เงินจากหยาดเหงื่อคนไทยไหลออกตปท.ไม่ต่ำกว่า 33 ล้านบาท ในรอบ 100 วัน “สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย” ออกโรงแถลงข่าวแฉละเอียดยิบ ชี้หากปล่อยต่อไป กระทบภาพรวมวงการขายตรงแน่ เตรียมรวบรวมข้อมูลส่งต่อ ICT จัดการ ด้าน “สมาคมการขายตรงไทย”ไม่นิ่งเฉยเช่นกันเผย หากได้รับข้อมูลพร้อมส่งต่อ “สคบ.” ทันที แนะคนไทยอย่าโลภให้ยึดหลักจริยะธรรมไว้ “ประพันธ์ คูณมี” ประธานคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สนช. รับลูกพร้อมนำทุกปัญหาสู่กระบวนการแก้ไขระดับประเทศ
จากกรณี “เส้นทางนักขาย” เคยนำเสนอข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเว็บไซต์ระดมเงินเข้าข่ายมันนี่เกมส์ ไปในฉบับที่ 111 ประจำวันที่ 1 – 15 กรกฎาคม 2550 ขณะนี้ได้มีกระแสการเกิดเว็บไซต์ระดมเงินในลักษณะคล้ายกันขึ้นอีกนับร้อยเว็บไซต์ ทำให้นักธุรกิจขายตรงและผู้ประกอบการหลายค่าย ต่างออกมาแสดงความวิตกกังวล เนื่องจากเกรงว่าอาจจะก่อความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจขายตรงและ สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจในวงกว้างได้เหมือน เช่น กรณีของแชร์แม่ช้อย หรือแชร์ชาร์เตอร์ในอดีต เพียงแต่ครั้งนี้ เป็นมั่นนี่เกมส์เวอร์ชั่นที่อาศัยความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตไร้สายมาระดมเงินและระคม
ล่าสุด เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย ได้จัดงานแถลงข่าว ภายใต้หัวข้อ “มหันตภัย...E-มั่นนี่เกมส์.....ข้ามชาติ” โดยมีนางสาวศิริพร ธรรมภักดี นายกสมาคมฯ และ นายนาคาญ์ ทวีชาวัฒน์ เลขาธิการสมาคมฯ เป็นร่วมผู้แถลง
โดยนายประพันธ์ คูณมี ประธานคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ร่วมเป็นประธานเปิดงาน โดยได้เปิดเผยว่า มหันตภัยธุรกิจ “มันนี่เกม” หรือ “เชร์ลูกโซ่” ในรูปแบบใหม่คือความพยายามที่จะหลอกลวงต้มตุ๋น โดยใช้กลยุทธ์และวิธีการที่ทันสมัยยิ่งขึ้นของกลุ่มต่างชาติ อาศัยเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เปิดเว็บไซต์ชักชวนคนไทยที่สนใจในโอกาสใหม่ๆ ให้ร่วมลงทุนในวิธีการที่ผิดเพี้ยน ให้นำเงินมาร่วมลงทุนในลักษณะ “เงินต่อเงิน” ช่วงแรกๆหลายคนที่ร่วมลงทุน ยังคงได้รับเงินปันผลตามที่สัญญาไว้ แต่ในอนาคตไม่มีใครรับรองได้ว่าจะเกิดปัญหาร้ายแรงเหมือนกับแชร์ลูกโซ่ที่เคยเกิดขึ้นมาหรือไม่
วันนี้ในฐานะที่ตนเป็นผู้ดูแลงานด้านคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมที่จะให้ความร่วมมือและร่วมใจ หากสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ตนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะนำปัญหาต่างๆเข้าสู่กระบวนการแก้ไขระดับประเทศต่อไป
นางสาวศิริพร ธรรมภักดี นายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเพียง 1 – 2เดือนที่ผ่านมา เหยื่อบางรายโดยหลอกสูญเงินไปหลายแสนบาท ซึ่งเว็บไซต์ประเภทนี้ส่วนมากจะอ้างอิงว่ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้เสียหายมีทั้งกลุ่มคนในวงการขายตรงและกระจายออกไปนอกกลุ่มในจำนวนเยอะขึ้นเรื่อยๆ จุดนี้หากผู้ประกอบการมีองค์กรที่ไม่เข้มแข็ง สินค้าไม่ชัดเจน แม่ทีมจะถูกชักจูงโดยง่าย ซึ่งผลที่หวั่นว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ คือมีเว็บไซต์ของไทยทำเลียนแบบ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมคือเงินตราไหลออกนอกประเทศ และส่งผลกระทบต่อภาพรวมและยอดขายของขายตรงไทยทั้งประเทศ
สำหรับมูลค่าความเสียหายขณะนี้คงไม่สามารถบอกเป็นตัวเลขได้ แต่หากลองคำนวณคร่าวๆแล้ว การลงทุนขั้นต่ำ คือ 100 USD หรือประมาณ 3,300 บาท ในรอบ 100 วัน โดยปัจจุบันมีนักขายและประชาชนที่หลงติดกับไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย จะคิดเป็นมูลค่าเงินตราที่ไหลออกนอกประเทศประมาณ 33 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าว ยังไม่ร่วมถึงการเพิ่มเงินลงทุนอีกในครั้งต่อไป ที่มากขึ้นเรื่อยๆ สูงสุดได้ถึง 1,000 USD
ด้านนายนาคาญ์ ทวีชาวัฒน์ เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย เปิดเผยว่า “ขณะนี้รายชื่อเว็บไซต์ที่มีอยู่ในมือ มีประมาณ 10 แห่ง แต่หากถามว่าในปัจจุบันมีเว็บไซต์ประเภทนี้แล้วกี่แห่ง บอกได้เลยว่ามีมากกว่าร้อยแห่ง แต่สิ่งที่น่าเสียใจคือ ผู้ที่เข้าร่วมบางรายรู้ทั้งรู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังกล้ากับคนที่ไปชักชวนว่า “รีบไปลงเดี๋ยวมันปิด” หากนักขายตรงคิดแบบนี้หมด แล้วเลิกทำธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องแล้วไปมุ่งหากำไรจากการปั่นเงินตรงนี้ บางคนไปหากู้เงินมาลงทุน ต่อไปจะกลายเป็นคนนอกมองภาพธุรกิจขายตรงไม่ดีในที่สุด”
ทั้งนี้นายนาคาญ์กล่าวว่า ตนได้ติดตามหลายเว็บไซต์ พบว่าหลังจากที่มีผู้ลงทุนไปในระดับหนึ่ง เว็บไซต์ดังกล่าวจะปิดตัวลงหรือกลายเป็นเว็บที่กำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งเมื่อเว็บเหล่านั้นปิดตัวลง ผู้ลงทุนก็ไม่สามารถเรียกร้องเงินลงทุนที่สูญเสียไปแล้วกลับมาได้อีก
“ทางสมาคมเราเตรียมจะส่งข้อมูลไปให้ ICT ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อจัดการต่อไป แต่ทั้งนี้หากพลเมืองดีหรือนักขายท่านใด สงสัยหรืออยากแจ้งข่าวเกี่ยวกับเว็บประเภทนี้ สามารถแจ้งมาได้ที่สมาคมฯผ่านอีเมล์ tdia.th@gmail.com ได้ ส่วนนโยบายของสมาคมต่อจากนี้ คือแจ้งข่าวสารไปยังบริษัทสมาชิกในสมาคมหรือบริษัทขายตรงที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ร่วมระวังภัยและช่วยกันแจ้งเบาะแสเข้ามา”
พญ.นลินี ไพบูลย์ นายกสมาคมการขายตรงไทย เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า พอจะทราบข่าวคราวเกี่ยวกับเว็บไซต์ระดมเงินมาเหมือนกัน ซึ่งตรงนี้ทางสมาคมก็ไม่ได้ละเลยอะไร หากได้รับข้อมูลจากที่บริษัทสมาชิกหรือผู้หวังดีส่งมาให้ ก็จะมีผู้ประสานงานของทางสมาคมเองรวบรวมแล้วส่งต่อให้หน่วยงานอย่าง สคบ.อย่างไม่รีรอเช่นกัน
ทางด้านนายสุเทพ ยืนยงค์วิทยากุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นูไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด กรรมการฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ สมาคมการขายตรงไทย เปิดเผย “เส้นทางนักขาย” ว่า
“จริงๆภาพรวมของธุรกิจในเมืองไทย จริงๆค่อนข้างจะแข่งขันพอสมควรนะครับ แข่งขันกันไม่ใช่กับใครหรอก เพราะ MLM ต่างคนต่างมีจุดเด่นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมันจะเลื่อมกันไม่เท่าไหร่ แต่ปัจจุบันมันนี่เกมจากประเทศมาเลเซียเยอะจริงๆ เพราะเค้าหนีกฎหมายดุของมาเลเซียมาเข้าไทย คือ 1.ไม่ให้จ่ายโบนัสเป็นรายอาทิตย์ หรือรายวัน 2. ไม่ให้เก็บเป็นคูปอง 3.ไม่ให้ลงรหัสที่เดียวเยอะๆ เพราะฉะนั้นเค้าก็หนีเข้ามาเมืองไทย เมืองไทยไม่มีกฎหมายที่เข้มงวดรองรับ มันนี่เกมในอินเทอร์เน็ตยิ่งเยอะเข้าไปใหญ่ เยอะมากจนทำให้จริยธรรมของคนไทยหายไป จริงๆพวกนี้ไม่ใช่ขายตรง อย่าไปปนกัน พวกเค้าไปเป็นมันนี่เกม ต้องอาศัยสื่อในการแฉพวกเค้า”

ที่มา นสพ.เส้นทางนักขาย ปีที่ 5 ฉบับที่ 112

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น