วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เคล็ดเศรษฐีเครือข่าย

เคล็ดเศรษฐีเครือข่าย

สยามธุรกิจ[ ฉบับที่ 862 ประจำวันที่ 16-1-2008 ถึง 18-1-2008]

ในอาชีพอิสระของโลกธุรกิจเครือข่าย ไม่ว่าคุณเป็นใคร ผ่านมาอย่างไร เมื่อคุณเริ่มต้นและก้าวเดินในโลกธุรกิจเครือข่ายคุณก็เป็นเศรษฐีได้ ไม่ขึ้นกับความรู้ ความสวย ความ หล่อ แต่ขึ้นกับความมุ่งมั่น ความตั้งใจในเป้าหมายของคุณ

“หากคุณเชื่อมั่นว่าคุณทำได้ คุณก็จะทำได้ จงหยุดเมื่อสำเร็จ เท่านั้น”

คุณเคยถามตัวเองไหมว่า

อะไรคือเป้าหมายของชีวิต?

คุณมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร?

เพื่อใคร?

และอย่างไร?

การมีเป้าหมายในชีวิต คือ การที่เรามีภาพของความสำเร็จไว้เบื้องหน้า ซึ่งดูคล้ายกับการต่อจิ๊กซอว์ ที่เราเห็นภาพ ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ทีนี้ก็ขึ้นกับวิธีการของแต่ละคนว่าจะทำอย่าง ไรให้จิ๊กซอว์แต่ละตัวมาต่อกันให้เกิดเป็นภาพนั้นขึ้นมา แต่ถ้าเรา ไม่มีภาพหรือไม่มีเป้าหมายอะไรจะเกิดขึ้น??? บางคนอาจจะคิดว่า ฉันก็มีชีวิตของฉันไปเรื่อยๆ ไม่ได้รบกวนใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ฉันก็มีความสุขดี แล้วคุณค่าของคุณจะอยู่ที่ไหน???

การมีเป้าหมายในชีวิต คือคำตอบว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร เพื่อใคร และอยู่อย่างไร ชีวิตเปรียบเหมือนกับการเดินทาง และ นักเดินทางที่ชาญฉลาด ย่อมมีเป้าหมายในการเดินทางเสมอ เขาจะไม่สูญเสียเวลาข้างทาง เพราะจะทำให้เขาไปถึงจุดหมายช้าลง การเดินทางของชีวิต ไม่ได้ราบเรียบและสวยงาม เหมือน โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป

ในระหว่างทางสิ่งที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้เสมอ ปัญหาและอุปสรรคเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญให้มาเยี่ยมเยียนเรา มาเพื่อ ทดสอบเรา มาทำให้เราเหนื่อยล้า ท้อแท้ สิ้นหวัง หมดแรง หมดกำลังใจที่จะเดินต่อไป และทำให้จุดหมายปลายทางนั้นยาว ไกลออกไป

อะไรคือสิ่งจำเป็นสำหรับนักเดินทางที่จะเอาชนะแขกที่ไม่ได้รับเชิญเหล่านี้ คำตอบคือ ความมุ่งมั่นและความสม่ำเสมอ แม้ว่าเราจะเจอกับอุปสรรคขวากหนามและปัญหามากมาย เป็น มรสุมของชีวิตก็ว่าได้ เราก็สามารถที่จะไปถึงเป้าหมายได้ในที่สุด ซึ่งมันอาจจะล่าช้าไปบ้าง ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญ

เพราะเราทำดีที่สุดแล้ว หลายคนอาจจะมีประสบการณ์ในการเดินขึ้นภูเขา เวลาที่เราเดินขึ้นภูเขาเราต้องออกแรงมากเป็นพิเศษเปรียบเทียบได้กับช่วงมรสุมชีวิต และเมื่อเราเดินลง เขาเราแทบจะไม่ได้ออกแรงเลย ทั้งๆ ที่เราก็ต้องแบกภาระเหมือนเดิมอาจจะมากกว่าตอนเดินขึ้นเขาด้วยซ้ำ

นั่นเป็นเพราะมรสุมได้ผ่านพ้นไปแล้ว ชีวิตของคนเราย่อม มีขึ้นและมีลงเช่นเดียวกับการเดินเขา แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้จากการเดินคือระยะทางที่เพิ่มขึ้น และแน่นอนว่าเราต้องเดินขึ้นเดิน ลงจนกว่าจะไปถึงเป้าหมาย ขอให้เรามีความมุ่งมั่นและความสม่ำเสมอไว้ในใจ จุดหมายนั้นก็จะใกล้เพียงปลายตา

การพักผ่อนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินทาง เราไม่สามารถเดินโดยไม่พักไม่ได้ การพักผ่อนเหมือนกับการชาร์ตแบตเตอรี่ให้เต็ม เป็นการชาร์ตทั้งพลังกายและพลังใจ ในระหว่างทางที่เดินเราพบปะคนมากมาย บางคนก็เดินไปทางเดียวกับเรา บางคนก็เดินสวนทางกับเรา ถ้าการเดินทางของเราเต็มไปด้วยความสนุกสนานและรอยยิ้ม แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมายก็ตาม เราจะเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นเดินตามโดยไม่รู้ตัว

บางคนอาจจะยึดเอาคติประจำใจของเราไปใช้ในการดำเนินชีวิต หรือให้เราเป็นแม่แบบ เพราะพวกเขาได้เห็นแล้วว่า ความสำเร็จจะมาอยู่เบื้องหน้าได้อย่างไร? ความมุ่งมั่นและความสม่ำเสมอ คือหัวใจที่จะนำไปสู่ความสำเร็จทำดีต่อไป คนดีต้องไม่ท้อ แม้นท้อ ก็ไม่ถอย แม้นถอยก็ไม่หนีแม้นต้องหนี ก็ให้หาโอกาส ทำดีใหม่นะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ

ช่วงที่ 2 ข้อคิดพิชิตเครือข่าย คุณโค้ช คุณครู

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือถ้าไปศึกษาวิธีการทำงานของบรรดาโค้ชเกมกีฬาต่างๆ จะพบว่าบทบาทของโค้ชเหล่านี้จะมีส่วนคล้ายกับคนที่เป็นผู้บริหารในระดับต่างๆ ภายในองค์กร องค์ประกอบที่สำคัญที่ผู้บริหารระดับสูงต้องมีจะพบในโค้ชกีฬาเหล่านี้ทั้งสิ้น รวมทั้งพวกเทคนิคและแนวทางในการบริหารต่างๆ ที่เราพบในองค์กรธุรกิจทั่วๆ ไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งความกดดันที่โค้ชเหล่านี้ได้รับก็ดูเหมือนจะไม่แพ้ผู้ที่เป็น ซีอีโอ ตามบริษัทยักษ์ใหญ่เลย เนื่อง จากการเป็นทีมอเมริกันฟุตบอลอาชีพแต่ละทีมนั้นมักจะมีจุดมุ่งหมายที่คล้ายๆ กันนั้นคือได้แชมป์หรือชนะเลิศในปีนั้นๆ ทำให้การที่จะบอกว่าในแต่ละปีทีมไหนประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด มีตัวชี้วัดตัวเดียวและค่าเป้าหมายที่ร่วมกัน

ดังนั้น ในแต่ละปีโค้ชที่ประสบความสำเร็จสุดยอดจริงๆ จะมีเพียงแค่หนึ่งเดียว ซึ่งความกดดันนี้ก็มากกว่าซีอีโอแล้วครับ เนื่องจากในการบริหารองค์กรนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีผู้ชนะเพียงแค่รายเดียว ในหลายๆ อุตสาหกรรมที่มีองค์กรที่ประสบความสำเร็จได้มากกว่าหนึ่งราย และในการบริหารองค์กรนั้นไม่ได้มีตัวชี้วัดที่ชัดเจนที่จะบอกว่าองค์กรไหนประสบความสำเร็จมากกว่ากัน ไม่เหมือนในกีฬา ที่ในแต่ละฤดูกาลจะมีความชัดเจนเลยว่าทีมไหนเป็นสุดยอดของฤดูกาลนั้นๆ

แรงกดดันสำหรับโค้ชแต่ละทีมให้ประสบความสำเร็จหรืออย่างน้อยพาทีมเข้าสู่รองต่อไปได้นั้นมาจากหลายแหล่งครับ ทั้งเจ้าของหรือผู้บริหารทีมที่เป็นคนจ้างโค้ชเข้ามา ซึ่งเปรียบ เสมือนกับผู้ถือหุ้นขององค์กรต่างๆ ที่จ้างผู้บริหารระดับสูงเข้า มาบริหาร หรือจากแฟนของทีมนั้นๆ

ซึ่งแรงกดดันตรงนี้จะไม่ค่อยพบในการบริหารองค์กรของ ซีอีโอ เนื่องจากไม่มีแฟนขาประจำของทีมคอยเชียร์และกดดันอยู่ข้างๆ และที่โหดร้ายก็คือบรรดาโค้ชเหล่านี้จะถูกเลิกจ้างอย่างง่ายดาย บางคนเพิ่งเข้ามาทำทีมเมื่อต้นฤดูกาล แต่ พอปลายฤดูกาลผลงานของทีมไม่มีแนวโน้มจะดีขึ้นก็จะถูกยกเลิกสัญญาหรือให้ออกโดยทันที แถมการถูกให้ออกนั้นยังปรากฏเป็นข่าวไปทั่วประเทศ และเผลอๆ ทั่วโลกอีกด้วย

การจะเป็นโค้ชที่ดีได้นั้นต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญหลายอย่างครับ คล้ายๆ กับคุณลักษณะของซีอีโอที่ดีเลยครับ แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือต้องเป็นครู (Teacher) ที่ดี โดยเขาถือว่าเป็นคุณสมบัติที่สำคัญเลยครับ อดีตผู้เล่นที่เก่งๆ หลาย คนไม่สามารถเป็นโค้ชที่ประสบความสำเร็จได้

เนื่องจากขาดทักษะในการถ่ายทอดหรือขาดความเป็นครูที่ดี ซึ่งถ้ามองในเชิงของการบริหารก็น่าจะคล้ายๆ กันครับ ว่าผู้บริหารที่ดีต้องเป็นครูที่ดีด้วย นั่นคือไม่ใช่เพียงแต่มีหน้าที่ บริหารหรือสั่งลูกน้องลูกทีมอย่างเดียว แต่จะต้องรู้จักสอน ให้คำแนะนำต่างๆ แก่ลูกน้องลูกทีมด้วย เพื่อให้ลูกน้องลูกทีม สามารถทำงานตามแผนได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งเป็นการพัฒนาลูกน้องลูกทีมไปด้วย ผู้ที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจ เครือข่ายต้องพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง จนเป็นโค้ชให้ทีม งานได้ ซึ่งโค้ชที่ดี ต้องดูคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น เห็นคุณคน

ดูคนออกว่า ใครเป็นอย่างไร ควรดูแลช่วยเหลืออย่างไร บอกคนได้ คือต้องรู้วิธีชี้แนะบอกกล่าว เล่าเรื่อง ทำให้ดู หรือ มือที่สาม ทางอ้อม ทางตรง ใช้คนเป็น รู้ว่าใครควรทำหน้าที่ไหน รับผิดชอบอะไรเพื่อให้ทีมเติบโตและสำเร็จเห็นคุณคน คือ เห็นคุณค่า บุญคุณ ของคนที่ช่วยทำให้องค์กรทีมโตขึ้นมา

ขอให้ทุกท่าน ร่ำรวยเป็นเศรษฐี พร้อมๆ กับเป็นคนดีของครอบครัวและสังคมนะครับแล้วพบกันฉบับหน้าครับ ขอส่งความรักและความปรารถนาดีไปยังเพื่อนนักขายและเพื่อนนักเครือข่ายทุกท่านครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น