วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553

พูดอย่างมีเสน่ห์

การติดต่อพูดคุย เป็นการสื่อ สารที่จำเป็นและมีความสำคัญมากสำหรับนักขายตรง ซึ่งนักขายตรงต้อง รู้จักเทคนิคและวิธีการในการพูดคุยเพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างถูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสม ตามสถานการณ์ต่างๆ การพูดเป็นการสื่อสารที่ต้องใช้ทั้งศิลปะ และประสบการณ์ เพื่อนำเสนอแนวคิดจนสามารถ ชักจูงให้กลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อ และก็จะกลายเป็นลูกค้าในที่สุด

การพูดเป็นการสื่อสารที่บ่งบอกถึงความคิดอารมณ์ ความรู้สึกของบุคคล ซึ่งทำให้เกิดการรับรู้ และการตอบสนอง การพูดจะสะท้อนให้เห็นถึงนิสัยใจคอ ความตั้งใจ ทัศนคติ และต้องพูดให้เหมาะสมกับบุคคล เวลา สถานที่ อย่างสุภาพ เหมาะสม นักขายตรงต้องเลือกใช้คำพูดในการสื่อสารที่มีศักยภาพ สามารถสร้างความสนใจและโน้มน้าวให้ลูกค้าเกิดความคล้อยตาม ซึ่งนักขายตรงต้องอาศัยทักษะในการสื่อสารทางด้านการพูดให้มีความเหมาะสม เพื่อสร้างเสน่ห์ให้กับตนเอง ด้วยเทคนิคดังต่อไปนี้

1.จงหยุดให้กลุ่มเป้าหมายพูด และเป็นผู้ฟังที่ดี รู้จักการเรียนรู้ทักษะการเป็นนักฟังที่ดี ฟังอย่างสงบ อย่าเพิ่งแสดงความคิดเห็นสวนขึ้นมาในเวลาที่คนอื่นพูด และต้องเปิดใจกว้างยอมรับ มีสติในการฟัง แสดงความตั้งใจในการฟัง ฟังอย่างสุภาพและให้เกียรติผู้พูด พยายามทำความเข้าใจในเรื่องที่ผู้อื่นพูด ตามที่เขาได้แสดงออก หรือตามทรรศนะของเขา สร้างบรรยากาศ ให้คู่สนทนาได้มีโอกาสพูดอย่างอิสระ และขจัดสิ่งรบกวนต่างๆ

2.ประเมินผู้ฟัง ความพร้อมของคนฟัง จังหวะและโอกาส สังเกตความสนใจของผู้ฟัง พูดในสิ่งที่มีประโยชน์คุ้มค่าต่อเวลาของผู้ฟัง โดยพยายามพูดในภาษาของคนฟัง ไม่ใช่พยายามพูดในภาษา ของคนพูด เมื่อพูดแล้วคนฟังน่าจะเข้าใจได้ง่ายๆ ถ้าพูดเรื่องส่วนตัวของผู้ฟังควรทันต่อข้อมูลปัจจุบัน และพูดในสิ่งที่ผู้ฟังชื่นชอบและรู้สึกดี หากเป็นไปได้ ต้องไม่พูดถึงส่วนที่เป็นจุดด้อยของคู่สนทนา สะท้อนการให้เกียรติและเคารพในตัวคนอื่น

3.พูดอย่างสร้างสรรค์ ต้องพูดในสิ่งที่เขาอยากฟัง และไม่พูดในสิ่งที่เราอยากพูด ด้วยการพูดในเชิงบวก พูดอย่างประนีประนอมไม่เสียดสีใคร ไม่ตำหนิ ไม่ดูถูกคนฟัง ไม่ยกตนข่มท่าน งดการนินทา คิดก่อนพูด มีความรอบคอบ พูดในสิ่งที่ดี พูดเรื่องจริงเท่าที่ควรพูด เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมีสิ่งที่มีประโยชน์ในตัวเอง เพียงแต่มองให้เห็นส่วนที่ดีเพราะการพูดถึงสิ่งที่ไม่ดีของคนนั้นๆ ทำให้ผู้พูดมีค่าต่ำลงทันที ไม่เป็นที่ไว้วางใจของคนอื่น และยอมรับฟังคนอื่น

4.มีความกระฉับกระเฉง ยิ้มแย้มแจ่มใส หน้าตาสดชื่น มีชีวิตชีวา สนใจสิ่งต่างๆ รอบๆ ตัว มีลักษณะผู้นำ เปิดเผย ตัวเองในที่สาธารณชน รู้จักประมาณ ตน ถ่อมตน รู้จักทำใจให้เป็นกลาง รู้จักตัวเองมีเหตุผล มีสติ สุขภาพจิตดี พูด อย่างมีเป้าหมาย น่าสนใจ น่าติดตาม จงหลีกเลี่ยงการพูดแบบขอไปที แต่เมื่อต้อง พูด ควรพูดด้วยสติ เป็นตัวของตัวเอง ไม่พูดตามอำเภอใจ รู้จักพูด รู้ว่าควรพูดอะไร ในสถานการณ์ไหน และกับใคร อย่างไร

5.พูดอย่างมีสาระ มีขอบเขตชัดเจนว่าต้องการสื่อสารเรื่องอะไร หรือต้องการจะบอกอะไรกับผู้ฟัง พูดจาฉะฉานชัดเจน ไพเราะ สุภาพ เลือกคำที่ฟังรื่นหูไม่หยาบคาย จะดึงดูดความ สนใจจากผู้ฟังได้มาก บางครั้งบางโอกาส ก็ต้องสร้างอารมณ์ขันบ้างเพื่อเป็นการสะท้อนความงดงามในตัวผู้พูดให้คนฟังได้สัมผัส แต่ต้องดูจังหวะและโอกาส อย่างพอควร การมีอารมณ์ขันจึงเป็นเสน่ห์ดึงดูดอย่างหนึ่ง เพราะคนที่หน้าหงิกหน้างอ อารมณ์บูดบึ้งอยู่ตลอดเวลา ไม่มีใครอยากคุยด้วยแน่ๆ

6.การแสดงออก ท่าทางในขณะพูด ต้องแสดงความเป็นมิตร มีความสุภาพ ด้วยบุคลิกภาพและการแต่งกายที่เหมาะสมตามกาลเทศะ วางตัวได้อย่างเหมาะสม แสดงการทักทายและให้การเคารพต่อผู้ฟัง ด้วยความจริงใจ ตลอดจนมีการเตรียมข้อมูลในการพูดอย่างครบถ้วน ไม่บิดเบียน

การพูดเป็นการสื่อสารที่มีความจำเป็นสำหรับทุกคนเพราะต้องใช้สื่อสารในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะนักขายตรงที่ต้องอาศัยทักษะทางด้านการพูดเพื่อสร้างเสน่ห์ให้กับตนเอง จนสามารถนำเสนอให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายเกิดความประทับใจ ดังนั้น นักขายตรงควรฝึกพูดให้เป็นไม่ใช่แค่พูดได้แล้วจะขายของได้ เพราะคำพูดไม่ใช่เป็นเพียงแค่ลมปาก แต่คำพูดเป็นมหาเสน่ห์แห่งความประทับใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น