วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553

'ปูแดง'ดิ้นยื่นสคบ.ขอตั้งบริษัทใหม่

ปูแดงดิ้นรุกดำเนินธุรกิจต่อ ล่าสุดยื่น สคบ.ขอจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ คาดได้ข้อสรุปเดือนมีนาคมนี้ เผยผลคดีแชร์ลูกโซ่มีสิทธิรอดสูงถึง 90% เนื่องจากไม่มีผู้ร้องเรียกความเสียหาย ขณะที่ดีเอสไอ ยันเอาผิดได้แน่นอน

จาก กรณีที่ทางบริษัท เบสท์ 59 จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงภายใต้แบรนด์ปูแดง
ได้ถูกสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือ สคบ.เพิกถอนใบอนุญาตการประกอบกิจการขายตรงเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามแผนและเงื่อนไขตามที่ยื่นขอจดทะเบียนกับสคบ. รวมทั้งยังถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอบุกเข้าจับกุม เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2553 ในข้อหาแชร์ลูกโซ่ จนทำให้สมาชิกปูแดงออกมาต่อต้านและก่อม็อบประท้วง เพื่อถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยงานภาครัฐ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจนเป็นเหตุให้แม่ทีมไม่ได้รับผลตอบแทน

สำหรับ ความคืบหน้าล่าสุด แหล่งข่าวจากแม่ทีม บริษัท เบสท์ 59 จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริษัทได้ประชุมกรรมการและแม่ทีมปูแดง พร้อมทั้งได้มียื่นจดทะเบียนกับสคบ.เพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อสินค้าใหม่ คือ นิวต้นกล้าไคโตซาน โดยจะใช้สำนักงานเดิมที่ถนนแจ้งวัฒนะและยังคงจำหน่ายปุ๋ยเช่นเดิม โดยโลโกที่ใช้จะเป็นต้นกล้าสีเขียวที่กำลังเจริญงอกงาม

ขณะที่แผนการ ดำเนินธุรกิจนั้น ยังคงวางผังโครงสร้างสายงานเดิม โดยยังคงใช้รหัสเดิมและทีมงานเดิม อย่างไรก็ดีบริษัทจะปรับแผนรายได้ในบางจุด แต่ยังคงใช้แผนจ่ายโบนัสคล้ายแผนเดิมคือ 95% นอกจากนี้บริษัทจะขยายตลาดด้วยการโฆษณาผ่านสื่อทีวี เคเบิลทีวี และวิทยุชุมชนด้วย คาดว่าประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคม 2553 นี้ จะสามารถเปิดบริษัทใหม่ เพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างเต็มรูปแบบได้

ส่วน ความคืบหน้าของคดีความต่างๆ ที่บริษัทถูกกล่าวหาว่าเป็นแชร์ลูกโซ่นั้น ล่าสุดได้ผลสรุปอย่างไม่เป็นทางการว่า 90% บริษัทไม่มีความผิด เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่ให้เชื่อได้ว่าบริษัททำธุรกิจผิดกฎหมาย เนื่องจากไม่มีผู้ร้องเรียนหรือเสียหาย ซึ่งเป็นเหตุให้อัยการไม่มีน้ำหนักพอที่จะฟ้องได้ และมีความเป็นไปได้ว่าศาลอาจพิจารณายกฟ้องทันที ดังนั้นทำให้ฝ่ายที่ฟ้องอาจถูกดำเนินคดีกลับได้

ทั้งนี้เกี่ยวกับ ประเด็นข่าวที่ทางบริษัท เบสท์ 59ฯ มีความเชื่อมั่นว่าบริษัทจะชนะคดีได้นั้น พ.อ.ปิยวัฒก์ กิ่งเกต ผู้บัญชาการ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า การที่ปูแดงจะคิดว่าบริษัทจะชนะคดีนั้นสามารถคิดได้ แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษเชื่อว่าหลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้จะสามารถดำเนินคดีกับ บริษัทเบสท์ 59ฯ ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากคดีดังกล่าว ทางดีเอสไอได้ใช้เวลาในการสืบสวนหาข้อมูลเป็นระยะเวลา 8 เดือนก่อนนำกำลังเข้าจับกุม และขณะนี้อยู่ระหว่างนี้การตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะการตรวจสินค้าไคโตซานว่าผิดหรือไม่

สำหรับการยื่นจดทะเบียนจัด ตั้งบริษัทใหม่นั้น นายนิโรธ เจริญประกอบ เลขาธิการ สคบ.กล่าวว่า กรณีที่ทางแม่ทีมปูแดงยื่นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่กับทางสคบ.นั้น เป็นเรื่องจริง และสามารถดำเนินการได้ แต่ต้องไม่ใช่แผนการดำเนินธุรกิจในรูปแบบเดิม รวมทั้งกรณีที่จำหน่ายสินค้าที่เป็นปุ๋ย จะต้องทำการขออนุญาตกับกรมวิชาการเกษตรก่อนนำสินค้าไปจำหน่าย ที่สำคัญผู้ที่ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ต้องไม่ใช่นายสมปอง แซ่ตั้ง อย่างไรก็ตามขณะนี้สคบ.กำลังตรวจสอบเกี่ยวกับแผนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งหากแผนธุรกิจโปร่งใสและถูกต้องตามหลักขายตรง ทางสคบ.ก็พร้อมที่จะอนุญาตให้เปิดบริษัทใหม่ได้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,509 28 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=23693:2010-02-26-05-03-59&catid=106:-marketing&Itemid=457

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น