วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

คุณเลือกได้ ตายแล้วจะไปไหน
--------------------------------------------------------------------------------
















พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)

ท่านกล่าวไว้ในหนังสือตายแล้วไปไหน ตายแล้วไม่สูญ ถึงทาง ๕ สาย
ที่ทุกคนต้องไป เมื่อตายจากโลกนี้ (สรุปย่อจากหนังสือ)

๑. อบายภูมิ ได้แก่เกิดเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉาน
๒. เกิดเป็นมนุษย์
๓. เกิดเป็นเทวดาหรือนางฟ้าอยู่บนสวรรค์
๔. เกิดเป็นพรหม
๕. ไปพระนิพพาน


ท่านที่ตายแล้วจะไปเกิดที่ใด พระพุทธเจ้าทรงตรัสบอกเหตุที่จะไปเกิดไว้ครบ
ถ้วนตามกฏของกรรม คือการกระทำ ได้แก่ความประพฤติดีหรือชั่วในสมัยที่
เกิดเป็นมนุษย์นี่เอง กฏของกรรมหรือการทำดีหรือชั่วที่จะพาไปเกิดในที่ใด
ที่หนึ่งในทาง ๕ สาย ดังนี้

แดนเกิดสายที่หนึ่ง ที่เรียกว่า อบายภูมิ มีนรกเป็นต้น เป็นผลจากการประพฤติชั่ว
จากการละเมิดศีล ๕ คือ
๑. ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
๒. ลักขะโมยของบุคคลอื่น
๓. ละเมิดบุตร, ภรรยา, สามี และคนในปกครองของคนอื่น
๔. พูดโกหกทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
๕. ดื่มสุราเมรัย

แดนเกิดสายที่สอง คือเกิดเป็นมนุษย์ คนที่ตายแล้วจะมาเกิดเป็นมนุษย์ได้
ต้องเป็นคนมีศีล ๕ กรรมบท ๑๐

แดนเกิดสายที่สาม ได้แก่สวรรค์ คนที่ตายแล้วจะไปเกิดเป็นเทวดา-นางฟ้า
ได้ ต้องเป็นคนที่มี หิริ-โอตัปปะ คือละอายต่อความชั่ว ไม่ทำความชั่วในที่
ทุกสถาน และเกรงกลัวต่อผลของความชั่ว จะทำให้เกิดความเดือนร้อน
ทำความดีทุกอย่าง บำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา

แดนเกิดสายที่สี่ ได้แก่พรหมโลก คนที่ตายแล้วไปเกิดในพรหมโลกได้ท่าน
ว่าต้องเป็นนักเจริญกรรมฐานและมีอารมณ์จิตสุดท้ายก่อนตายเป็นอารมณ์
จิตที่ทรงฌานที่เรียกว่าเข้าฌานตาย

แดนเกิดสายที่ห้า ได้แก่พระนิพพาน คนที่ตายแล้วไปพระนิพพานได้ ต้องตัด
สังโยชน์ ๑๐ สังโยชน์ แปลว่ากิเลสเครื่องร้อยรัดจิตใจให้จมอยู่ในวัฏฏะสงสาร
๑๐ อย่างคือ

๑. สักกายะทิฏฐิ มีความเห็นว่า ขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณนี้เป็นเรา
เป็นของเรา เรามีในขันธ์ ๕ ขันธ์ ๕ มีในเรา

๒. วิจิกิจฉา สงสัยผลของการปฏิบัติ สงสัยในพระธรรมคำสอนของ
พระพุทธเจ้า และไม่เคารพในพระรัตนตรัยด้วยความจริงใจ

๓. สีลัพพตปรามาส ถือศีลไม่จริงไม่จัง สักแต่ว่าถือตามๆ เขาไป
รักษาศีลได้ไม่บริสุทธิ์

๔. กามราคะ มีความกำหนัดยินดีในกามคุณ ๕ คือ รูปสวย เสียงเพราะ
กลิ่นหอม รสอร่อย และยินดีในการถูกต้องสัมผัสกับเพศตรงข้าม

๕. ปฏิฆะ มีความไม่พอใจกับอารมณ์ที่มากระทบ อันนี้เป็นโทสะแบบเบาๆ

๖. รูปราคะ พอใจในรูปธรรม คือความพอใจในวัตถุ หรือรูปฌาณ

๗. อรูปราคะ พอใจในอรูป คือเรื่องราวที่กล่าวถึง หรืออรูปฌาณ

๘. อุทธัจจะ มีอารมณ์ฟุ้งซ่าน คิดนอกลู่นอกทาง

๙. มานะ ความถือตัวถือตนโดยมีความรู้สึกว่าเราดีกว่าเขา เราเลวกว่าเขา
เราเสมอเขา

๑๐. อวิชา ความโง่ คือหลงพอใจในกามคุณ ๕ และกำหนัดยินดีในกามคุณ

สังโยชน์ทั้ง ๑๐ ข้อนี้ ถ้าท่านปฏิบัติพระกรรมฐานแล้ว พิจารณาจนจิตละ
สังโยชน์ทั้ง ๑๐ อย่าง โดยไม่กำเริบอีกแล้ว ท่านผู้นั้นเป็นผู้บรรลุอรหัตผล
เมื่อตายแล้วก็เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน เป็นแดนเอกันตบรมสุข ไม่ต้องเวียนว่าย
ตายเกิดในวัฏฏะสงสารอีกต่อไป

ท่านจะเลือกว่าท่านจะไปทางสายใด ท่านก็ต้องสร้างเหตุด้วยการประพฤติ ปฏิบัติตาม
พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านต้องการความสุข ท่านก็ต้องบำเพ็ญทาน
รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา ถ้าต้องการความทุกข์ ท่านก็ทำแต่ความชั่ว
ทานไม่ต้องทำ ศีลไม่ต้องรักษา ท่านจะพบแต่ความทุกข์แน่นอน แล้วท่านจะเลือกทางสายไหน

คุณเลือกได้ ตายแล้วจะไปไหน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น