วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สถาบันวิจัยพืชสวน

สถาบันวิจัยพืชสวน http://210.246.186.28/hort/default.htm

การปลูกปตงโม และการดูแลรักษา





แตงโม

ชื่อวงศ์

Cucurbitaceae

ชื่อสามัญ

Water melon


ชื่อวิทยาศาสตร์

Citrullus lanatus (Thunb.)
Mats. & Nakai

ชื่ออื่นๆ
แตงจีน มะเต้า

1.พันธุ์ แบ่งได้ 3 กลุ่มใหญ่ๆคือ

1.1 พันธุ์ธรรมดา เช่น พันธุ์ซูก้าเบบี้, ซาลสตัน เกรย์, เยลโล เบบี้ ไฮบริด

1.2 พันธุ์ไม่มีเมล็ด เช่น เฟาซานเบอร์ 1 ไฮบริด, ซี้ดเลส เยลโล ไฮบริด, ฟาร์มเมอร์ วันเดอร์ฟูล ไฮบริด

1.3 พันธุ์เมล็ด เช่น เรดโคท ไฮบริด, วานลี เอฟ 2 ไฮบริด

2. การเตรียมดิน ควรไถดินตากประมาณ 10 วันใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอัตรา 2-3 ตันต่อไร่พรวนดินให้เข้ากันทำการเตรียมร่องได้ 2 แบบ คือถ้าปลูกแบบแถวเดี่ยวก็ปลูกแบบผืนใหญ่เลย ส่วนการปลูกแบบแถวคู่เตรียมโดยการยกร่องกว้าง 4-5 เมตรยาวแล้วแต่พื้นที่ โดยมีร่องนํ้าสำหรับปล่อยนํ้าไว้ตักรดต้นแตงโม

3. การปลูก การปลูกแบบเดี่ยวหรือผืนใหญ่ใช้ระยะปลูกระหว่างต้น 180 เซนติเมตร และระหว่างแถว 180 เซนติเมตร ส่วนการปลูกแบบแถวคู่ใช้ระยะปลูกระหว่างต้น 60-90 เซนติเมตรและระยะระหว่างแถว 200-300 เซนติเมตร ใช้ฟางข้าวคลุมรดนํ้าให้ชุ่มในจุดที่ปลูก

4. การให้นํ้า โดยการตักรดหรือใช้แครงวักสาดอย่าให้ไกล้โคนต้นเกินไปเพราะนํ้าอาจไปกระแทกถูกต้นทำให้ชํ้า
หักได้โดยพิจารณาให้นํ้าทุกๆวัน

5. การจัดเถา แตงโมมีเถาว์ยาวประมาณ 30-60 เซนติเมตร ควรจัดให้เถาว์เลื้อยไปทางเดียวกันเพื่อไม่ให้เถาว์พันกัน ทับกันจนแน่นยากแก่การผสมเกสรของแมลงและควรริดแขนงส่วนที่เกินหรือไม่จำเป็นทิ้งเพื่อให้ได้ผลที่มีขนาดสมบูรณ์

6. การใส่ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 อัตรา 100 กิโลกรรมต่อไร่โดยแบ่งใส่ 3 ครั้ง ครั้งแรกรองก้นหลุมครั้งที่ 2 เมื่อแตงโมทอดยอ ดยาวประมาณ 30 เซนติเมตรแล้วพรวนดินกลบด้วยและครั้งที่ 3 เมื่อแตงโมทอดยอดยาวประมาณ 90 เซนติเมตร

7. การเก็บเกี่ยว เมื่อแตงโมอายุได้ 75-120 วันตามลักษณะของพันธุ์ สังเกตุที่ขั้วของแตงโมเริ่มเหี่ยวยุบลง ผิวแตงกร้าน ไม่สด มือเกาะไกล้ขั้วจะแห้ง ดีดหรือตบเบาๆจะมีเสียงผสมระหว่างกังวานและเสียงทึบแสดงว่าแก่พอดี ถ้าเสียงกังวานเพียงอย่างเดียวแสดงว่าแตงโมอ่อนหรือถ้าเสียงทึบเพียงอย่างเดียวแสดงว่าแตงโมแก่เกินไป ไส้ล้ม

8. โรค ได้แก่โรครานํ้าค้าง โรคราแป้ง โรคเหี่ยวตาย โรคใบด่าง โรคใบจุด โรคเถาแตก โรคเถาเหี่ยว ป้องกันกำจัดโดยการฉีดพ่น มาเน็บ ซีเน็บ เบนโนมิล แมนโคเซป คาร์เบนดาซิมและโบแรกซ์ตัวไดตัวหนึ่งตามอาการของโรคและควรพ่นสารเคมีฆ่าแมลงที่เป็นพาหะนำโรคด้วย

9. แมลง ได้แก่ เต่าแตง เพลี้ยไฟแตงโม แมลงวันแตง แมลงวันทอง หนอนกระทู้ หนอนผีเสื้อเจาะผลแตงโมป้องกันกำจัดโดยการฉีดพ่น เซฟวิน ไซเปอร์เมทริน อะบาเม็กติน คาร์โบซัลแฟนตัวใดตัวหนึ่งตามการระบาดของแมลงศัตรู

ศัตรูร้ายของแตงโม

ศัตรูร้ายของแตงโม
หมวด: บทความ

แตงโม Citrullus lanatus (Thub.) Matsum. & Nakai เป็นผลไม้เมืองร้อน มีชื่อเรียกแตกต่างกันขึ้นอยู่กับภูมิภาคนั้น เช่น ภาคอีสาน เรียก บักโม, ภาคเหนือ เรียก บะเต้า, ตรัง เรียก แตงจีน ถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีป

แอฟริกา แถบทะเลทรายคาลาฮารี เข้าสู่อเมริกาโดยชนผิวดำผู้ใช้แรงงานในไร่ จากนั้นก็ได้แพร่ขยายไปสู่ทวีปยุโรปและเอเชีย เรื่อยมาจนปัจจุบัน แตงโมเป็นไม้เถาสกุลเดียวกับแตงกวา แคนตาลูปและฟัก ลำต้นเป็นเถาเลื้อยแผ่ไปตามพื้นดิน ใบมีลักษณะเว้าลึก 3-4 หยัก ก้านใบยาว ทั้งเถาและใบมีขนอ่อนปกคลุมผลแตงโมมีทั้งแบบกลม กลมรี และทรงกระบอก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางผล 15-40 ซม. เปลือกแข็ง สีเขียว สีเขียวเข้ม และสีเหลือง บ้างก็มีลวดลายสีขาวเป็นแถบยาวจากขั้วถึงปลายผล รสราติที่เด่น หวานกรอบ และฉ่ำน้ำ ในเนื้อมีเมล็ดสีดำขนาดเล็กแทรกอยู่บริเวณใจกลางผล ปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มพันธุ์ใหญ่ ๆ ตามลักษณะของผลและเมล็ด ดังนี้

1. แตงโมพันธุ์ธรรมดา มักจะเป็นพันธุ์จากต่างประเทศมีรสชาติหวานจัดและขนาดเมล็ดเล็ก เช่น แตงโมจินตหรา แตงโมตอร์ปิโด แตงโมกินรี เป็นต้น

2. แตงโมพันธุ์ไม่มีเมล็ด เป็นพันธุ์ลูกผสม ( F1) ที่ปรับปรุงสายพันธุ์ขึ้นมาเพื่อการส่งออกโดยเฉพาะ เช่น พันธุ์แบล็กบอล ( Black Ball ) ที่มีเปลือกสีเขียวเข้ม ผลกลมราวกับลูกบาล ไม่มีเมล็ดแก่มีแต่เมล็ดอ่อนสีขาว และ แตงโมผลสี่เหลี่ยม ซึ่งเกิดจากการเลี้ยงผลแตงโมให้โตในกล่องสีเหลี่ยม เพื่อสะดวกในการขนส่ง

3. แตงโมพันธุ์กินเมล็ด ปรับปรุงสายพันธุ์เพื่อเพาะปลูกเอาเมล็ดมาคั่วไว้กินเล่น แตงโมพันธุ์กินเมล็ดเป็นแตงโมที่มีเนื้อน้อย ภายในผลเต็มไปด้วยเมล็ดขนาดใหญ่ โรคที่สำคัญของแตงโมที่เกิดจากการเข้าทำลายของเชื้อราในดินหนีไม่พ้น “ โรคเถาเหี่ยว” ซึ่งเกิดจากเชื้อราฟิวซาเรียม แตงโมที่เป็นโรคนี้จะแสดงอาการให้เห็น คือ สีใบจะซีด ใบและเถาจะเหี่ยว บริเวณโคนเถาที่ใกล้กับผิวดิน จะแตกตามยาวและมีน้ำเมือกซึมออกมา เมื่อผ่าไส้กลางเถาดูจะเห็นภายในเป็นสีน้ำตาล โรคนี้จะระบาดมากในช่วงแตงโมกำลังออกดอก แต่หากมีการปลูกซ้ำที่เดิมโรคจะระบาดรุนแรงมากขึ้น สำหรับสาเหตุและปัจจัยเสริมนั้น

1. อุณหภูมิ : เชื้อราชนิดนี้เจริญและเข้าทำลายแตงโมได้ดีที่อุณหภูมิระหว่าง 24 - 27 องศาเซลเซียส

2. สภาพภูมิอากาศ : ขณะแตงกำลังเจริญเติบโตมีฝนตกติดต่อกันยาวนาน

3. สภาพทั่วไปของดิน : มีธาตุไนโตรเจนอยู่สูง แต่มีธาตุฟอสฟอรัส และโปแตสเซียม อยู่ต่ำ หรือดินเป็นกรดจัด

สำหรับการป้องกันและกำจัดเชื้อราดังกล่าว คุณอภิเชษฐ์ นักส่งเสริมการตลาดของชมรมเกษตรปลอดสารพิษได้แนะให้เกษตรกรในพื้นที่ อ. กาญจนดิษฐ์ ที่ปลูกแตงโม และมีปัญหาแตงโมเถาเหี่ยวแล้วต้นตายในที่สุด หันมาทดลองใช้เชื้อไตรโครเดอร์ม่า Trichoderma harzianum โดยให้หว่านร่วมกับปุ๋ยคอกในอัตรา เชื้อไตรโครเดอร์ม่า 1 กก.ต่อปุ๋ยคอก 50 กก. หว่านรอบทรงพุ่ม ประมาณ 300 กรัม/ต้น หรือกรณีรองก้นหลุมก่อนปลูกต้นกล้า 200 – 250 กรัม/หลุม หลังจากทดลองให้เกษตรกรใช้ประมาณ 1 สัปดาห์พบว่าอาการระบาดของเชื้อเริ่มทรงตัวหยุดการระบาด เริ่มแตกแขนง ผลิใบอ่อนให้เห็นในสัปดาห์ที่ 2 จากนั้นให้ฉีดพ่นปุ๋ยเกร็ดสูตร 30 – 20 – 10 อัตรา 50 – 100 ต่อน้ำ 20 ลิตร ให้ทั่วทั้งแปลงในตอนเช้า เนื่องจากต้นพืชจะได้นำไปใช้ได้ทันที หากต้องการให้ได้ประสิทธิเพิ่มมากขึ้นควรปรับสภาพน้ำด้วย ซิลิซิค แอซิค และเพิ่มสารจับใบ ( ม้อยเจอร์แพล้น )ทุกครั้งที่มีการฉีดพ่นยาหรือฮอร์โมน สำหรับกรณีปลูกซ้ำที่เดิมให้ใช้วิธีการหมักขยาย โดยให้นำเชื้อไตรโครเดอร์ม่า 1 ช้อนแกง + กากน้ำตาล + น้ำ 10 ลิตร หมักทิ้งไว้ประมาณ 8 -10 ชั่วโมงก่อนผสมน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วแปลงแบบปูพรมก่อนหลังปลูกรุ่นใหม่ เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อดังกล่าวในเบื้องต้น