ใบอนุญาติให้จำหน่ายสินค้าปูแดงในระบบขายปลีกขายส่งได้ตามปกติ

คลิกที่นี่

รู้ทัน 5 มะเร็งฮิต! ช่วย "คนในบ้าน" ลดเสี่ยงโรค

รู้ทัน 5 มะเร็งฮิต! ช่วย "คนในบ้าน" ลดเสี่ยงโรค

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

18 กุมภาพันธ์ 2553 05:53 น.

คง จะปฏิเสธได้ยากว่า "โรคมะเร็ง" เป็นโรคที่คอยรักแกคนในบ้านให้ต้องเจ็บป่วย และทรมานมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าในอดีต หรือปัจจุบัน โดยเฉพาะครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องอยู่ท่ามกลางสังคมที่เร่งรีบ กดดัน และมีความเครียดสูง ส่งผลต่อการกินที่ไม่มีเวลา และเลือกอาหารที่มีประโยชน์ ทำให้ร่างกายเจ็บป่วย และเป็นโรคต่างๆ มากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ ถือเป็นตัวกระตุ้นเซลล์มะเร็งในร่างกายได้ดีทีเดียว สอดรับข้อมูลจาก "พญ.กนกนิตย์ ลิ้มวิภารีอนันต์" อายุรกรรมด้านโรคมะเร็ง โรงพยาบาลวัฒโนสถ (รพ.กรุงเทพ) พบว่า มะเร็งที่พบได้บ่อยในผู้ชาย 3 อันดับแรก คือ มะเร็งตับ มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ขณะที่ผู้หญิง พบได้บ่อย คือ มะเร็งปากมดลูก และเร็งเต้านม ซึ่งโรคดังกล่าว เชื่อกันว่า ถ้าเป็นแล้วรักษาไม่หาย แต่ในความเป็นจริง หากรู้เท่าทัน ก็สามารถป้องกันได้

พญ.กนกนิตย์ ลิ้มวิภารีอนันต์ รู้ทัน 5 มะเร็งร้าย! ชอบรังแก "ครอบครัวฉัน" 1. มะเร็งตับ เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ในเพศชาย เป็นมะเร็งที่มีการเติบโตเร็วมาก มักจะเสียชีวิตใน 3 -6 เดือน พบได้ในคนที่มีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบมาก่อน เช่น ไวรัสตับอักเสบชนิดบี ไวรัสตับอักเสบชนิดซี เป็นมาระยะหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นตับแข็ง และพัฒนามาเป็นมะเร็งได้ ซึ่งเกิดจากคนที่ดื่มสุรา การกินอาหารที่มีอัลฟาท๊อกซินบ่อยๆ เช่น ถั่ว เป็นต้น อาการระยะเริ่มแรก อาจยังไม่มีอาการผิดปกติ แต่สัญญาณเตือนที่ต้องระวังคือ ลองสังเกตดูว่า คนในบ้านของคุณ มีอาการเบื่ออาหาร แน่นท้อง ท้องอืด ท้องผูก อ่อนเพลีย น้ำหนักลด และที่ร้ายแรงที่สุดคือ ตัวเหลือง ตาเหลือง ขาบวม ปวดเสียดชายโครงด้านขวาหรือไม่ ซึ่งอาการหลังนี้ มักพบในระยะท้ายๆ ของมะเร็งตับแล้ว ดัง นั้น การป้องกันสามารถทำได้โดย ไม่รับประทานอาหารที่มีเชื้อรา อาหารที่ใส่สารกันบูด อาหารสุกๆ ดิบๆ แต่ควรรับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ ไม่มีส่วนไหม้เกรียม และควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท รวมปถึงอาหารที่มีสารอัลฟาท๊อกซิน เช่น ถั่วลิสงคั่ว และรับการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างเคร่งครัด 2. มะเร็งปอด เป็นมะเร็งที่ทำให้เสียชีวิตมากที่สุดทั่วโลก ในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา จากสถิติองค์การอนามัยโลกพบว่า คนในบ้านที่มีอายุมากกกว่า 65 ปี จะพบเป็นมะเร็งปอดมากถึง 2 ใน 3 จากจำนวนผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมด และสาเหตุของมะเร็งปอดเกิดจาก การสูบบุหรี่ด้วยตัวเอง หรือการสูดดมควันบุหรี่มือสอง การสูดดมฝุ่น รวมถึงมลพิษในอากาศเป็นระยะเวลายาวนาน ในระยะแรก ผู้ป่วยอาจยังไม่มีอาการ หรือหากมี อาการที่สังเกตได้ง่ายคือ มีอาการไอเรื้อรัง ไอแห้งๆ หรือไอแบบมีเสมหะ โดยมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย น้ำหนักตัวลด มีไข้ เจ็บหน้าอก เมื่อพบอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำทันที ด้าน วิธีการป้องกันมะเร็งชนิดนี้ คือ ไม่สูบบุหรี่ หรือรับควันบุหรี่มือสอง หลีกเลี่ยงมลพิษ หรือสารพิษในอากาศ รับประทานอาหารที่สะอาด ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี โดยแพทย์จะเป็นผู้ที่ให้ความเห็นว่า จำเป็นต้องตรวจพิเศษเพิ่มเติมหรือไม่ 3. มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิงที่มีอายุประมาณ 35-50 ปี เป็นมะเร็งที่ตรวจพบง่าย และสามารถป้องกันได้ โดยอาการที่สังเกตได้ คือ มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ตกขาวมากกว่าปกติ และมีกลิ่นเหม็นเหมือนน้ำคาวปลา หรืออาจมีเลือดปน ซึ่งถ้ามีอาการผิดปกติที่ว่านี้ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที สำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย หรือต่ำกว่า 18 ปี มีพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อย รวมทั้งมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือบกพร่อง รวมไปถึงสตรีที่สูบบุหรี่ หรือผู้ใกล้ชิดเป็นผู้สูบบุหรี่ ล้วนแต่เป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อโรคมะเร็งปากมดลูกได้ทั้งสิ้น

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต ดังนั้น บ้านไหนมีลูกสาวที่กำลังโตเป็นสาว ควรพาเข้ารับการตรวจหามะเร็งปากมดลูกปีละครั้ง แนะนำเป็นกรณีเฉพาะสำหรับสตรีที่เคยมีเพศสัมพันธ์ หรือสตรีที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรรับการตรวจภายใน ไม่สูบบุหรี่ หรืออยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ ละเว้นการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย และวิธีป้องกันอีกทางหนึ่ง คือ ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV Vaccine) ซึ่งสามารถป้องกันได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป 4. มะเร็งเต้านม มะเร็งชนิดนี้ พบได้มากกับญาติผู้ใหญ่อายุ 40 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีบุตร มีบุตรน้อย หรือผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งหากคลำพบก้อนเนื้อบริเวณเต้านม หรือใต้รักแร้ มีการเปลี่ยนแปลงของขนาดเต้านม มีน้ำไหลจากหัวนม ลักษณะของหัวนมผิดปกติ เป็นรอยบุ๋ม และอาจมีอาการปวดเต้านมร่วมด้วย ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที อย่าง ไรก็ดี การค้นหาโรคตั้งแต่ยังไม่มีอาการ หรือในระยะเริ่มต้น จะช่วยให้รักษาได้ทัน ก่อนที่โรคจะลุกลาม สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการตรวจเต้านมด้วยตนเอง คือ ช่วง 7 วันหลังมีประจำเดือน แนะนำให้ตรวจในผู้หญิงที่มีอายุ ตั้งแต่อายุ 20 ปีเป็นประจำทุกเดือน และเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติมด้วยการทำ Digital Mammogram ปีละครั้ง 5. มะเร็งลำไส้ใหญ่ มักพบในครอบครัวที่ชอบรับประทานอาหาร ประเภทเนื้อสัตว์ปิ้งย่างไหม้เกรียม สุกๆ ดิบๆ อาหารหมักดอง อาหารไขมันสูง สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน แต่ไม่ชอบรับประทานอาหารประเภทผักผลไม้ อาหารที่มีกากใย ไม่ออกกำลังกาย ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ล้วนเป็นพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้ทั้งสิ้น สำหรับอาการในระยะเริ่มต้น อาจไม่พบอาการใด แต่สามารถสังเหตอาการง่ายๆ ได้คือ มีท้องเสียสลับท้องผูก อุจจาระมีเลือด หรือมีมูกปน ท้องอืดท้องเฟ้อ ปวดเกร็ง รู้สึกอาหารไม่ย่อย อ่อนเพลีย น้ำหนักลด โลหิตจาง และคลำพบก้อนที่ท้องหรือมีอาการปวดท้องมากจากลำไส้ใหญ่อุดตัน กระนั้น วิธีการป้องกันมะเร็งลำไส้ที่ดี และทำได้ด้วยตัวเอง คือ รับประทานอาหารจำพวกผัก และผลไม้ อาหารปรุงสุกใหม่ๆ ไม่หมักดอง หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยทั่วไปผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือคนในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ก็แนะนำให้ตรวจค้นหาตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ การตรวจอุจจาระ เป็นต้น "โรค มะเร็ง" หากทุกคนในครอบครัวรู้เท่าทัน และรู้เท่ากัน สามารถช่วยกันป้องกันได้ เพื่อสุขภาพที่ดี ควรพาทุกคนในครอบครัวไปตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อตรวจดูความผิดปกติของร่างกาย และจะได้รักษาอย่างทันท่วงที เพราะโรคมะเร็ง เมื่อทราบในระยะเริ่มต้น และได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ ก็มีสิทธิ์รักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นขอให้ทุกครอบครัว หมั่นสังเกตดูแลรักษาสุขภาพของตัวท่าน และคนรอบข้างของท่านเองด้วย เพราะการไม่มีโรคถือเป็นลาภอันประเสริฐนะครับ

พุทธทำนาย ถอดความจากศิลาจารึก เขตมหาวิหาร ประเทศอินเดีย

พระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและใน อนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้นเมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า

ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคตล่วงเลยไปถึง กึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติ ทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย แผ่นดิน แผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้ รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า อำมหิตจะรบราฆ่าฟันกันเองถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวาย ในกุศลตามวจนะของตถาคตก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงใน พระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบางแต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น

เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย ๒,๕๐๐ ปี เป็นต้นไป ไฟจะลุกลามมาทาง ทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็น เพลิงผลาญ(ลูกระเบิดดีๆ นี่เอง) เหล็กกล้า จะทะยานจากน้ำ(เรือดำน้ำ) มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศ ศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ(ลูกปืน) ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาด โลก ดิน ฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ

ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่อยู่ในศิลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศิลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใคร เคารพยำเกรง

พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราช โพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง ๕,๐๐๐

------------------------------------------------------------------------------------------------

"ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อย คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล ๕ ประการ เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดษ รู้จักพอ ไม่โป้ปดคดโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคต ให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล"