วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ช้าไปหรือไม่ถ้าจะเป็นนักขายตอนนี้?

คำตอบคือ ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับอาชีพนักขาย ที่เราจะเริ่มต้น อย่างที่กล่าวไว้ในตอนที่แล้วว่า การเป็นนักซื้อกับการเป็นนักขายมีอยู่ในมนุษย์ทุกคน

เรียกได้ว่า คุณสมบัติทั้งสองประการนี้มีอยู่ในคนเราทุกคนมักจะแสดงออกจากการเป็นผู้ซื้อมากกว่า เนื่องจากทัศนคติเกี่ยวกับการขายนั้นยังไม่ดี ลองนึกดูเล่นๆ ว่าถ้าทุกคนเป็นนักซื้อหมดไม่มีนักขายเลยอะไรจะเกิดขึ้น

สินค้าต่างๆ คงต้องมาแย่งกันซื้อผู้ผลิตสินค้าหรือโรงงานก็เล่นตัว

ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วคนที่เป็นนักขายก็เป็นผู้ซื้อด้วย และคนที่เป็นนักซื้อก็เป็นนักขายด้วย (แต่ไม่รู้ตัวเท่านั้น)

ทำไมคนจึงชอบซื้อมากกว่าชอบขาย?

คำตอบง่ายๆ ก็คือ ความต้องการที่เกิดจากความจำเป็นต้องใช้สินค้านั้นๆ หรือความต้องการที่เกิดจากความอยาก หรือความต้องการที่เกิดจากการเอาอย่าง หรือความต้องการที่เพิ่มเสริมภาพพจน์ของตนเอง

สิ่งเหล่านี้จะไม่สิ้นสุด ตราบใดที่คนเรายังมีกิเลส หรือความอยากได้อยู่ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

ผมเองอาจเป็นคนล้าสมัยสักหน่อย คือ มีมือถือ ใช้เพื่อการติดต่อสื่อสาร เพื่อรับและส่งข้อมูลจากการใช้ทั้งโทร.ออกและรับสายก็เพียงพอแล้ว หากจะดูทีวีก็จะดูจอใหญ่ที่บ้าน ถ้าจะฟังเพลงก็จะฟังจากเครื่องเสียงที่บ้านจะไพเราะกว่า หรือหากจะถ่ายรูปก็ถ่ายจาก กล้องถ่ายรูปเพราะจะได้รูปที่สวยงามกว่าชัดมากกว่า

ทำไมต้องมาเสียเงินซื้อโทรศัพท์ที่ราคาแพง ก็เพราะว่า ยังไงเสีย คนเรามักจะมีความสุขที่ได้จ่ายเงินหรือซื้อสินค้า แต่ถ้าบอกว่าให้ออกไปขายบ้าง คนมักจะนึกว่ามันฝืนความรู้สึกของเขาเพราะเขาคิดว่าการออกไปขายสินค้านั้น เหมือนกับว่าไปขอความช่วยเหลือจากลูกค้า

หรือบางคนอาจจะคิดว่าการเป็นนักขายนั้น เป็นคนไม่มีเกียรติมักจะถูกคนหรือลูกค้าขับไล่เหมือนหมู เหมือนสุนัข แต่ในความเป็นจริงแล้วการขายเป็นอาชีพหนึ่งที่มีรายได้แบบไม่จำกัดขึ้นอยู่กับความสามารถของเราเอง เพราะเป็นอาชีพที่สุจริตมีสังกัด ไม่เหมือนเมื่อก่อนถ้าย้อนหลังไปสัก 20 ปี

เพราะปัจจุบันการพัฒนาทั้งทางด้านความรู้ ด้านอุปกรณ์ช่วยขาย รวมทั้งสินค้ามีการพัฒนามากยิ่งขึ้น คือ สามารถสาธิตให้เห็นกันเหมือนเล่นมายากล อย่างไงอย่างนั้นแหละ

องค์ประกอบสำคัญ คือ ลูกค้าก็มีการพัฒนาทัศนคติที่ดีขึ้นด้วยเพราะสินค้าบางชนิดจากการขายโดยนักขายมักจะได้รับการบริการที่ดีกว่าการไปเลือกซื้อสินค้าที่ห้างต่างๆ เท่านั้นยังไม่พอถ้าใช้ดีแล้วมีการต่อหรือแนะนำให้เพื่อนใช้ด้วย ยังได้รายได้อีก สุดท้าย เครือข่ายของเราก็เติบโตโดยไม่รู้ตัว อย่างนี้เป็นต้น

ถ้าถามว่าจะมาเริ่มต้นใหม่ถามว่าจะทันเพื่อนหรือไม่ คำตอบ ก็คือ จะเริ่มเมื่อไหร่ก็สามารถวิ่งทันกันได้ ไม่มีข้อแม้ คนที่มาทีหลังอาจวิ่งแซงได้ ขึ้นอยู่กับความตั้งใจมุ่งมั่น แล้วลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังเท่านั้น

ก็อย่างที่บอกคนซื้อมีมากมาย คนขายมีน้อยนิด เพราะมัวแต่ตั้งหลักอยู่นั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น