วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

10 สินค้ามาแรงสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม

การทำธุรกิจวันนี้จะเดินตามแนวแบบเดิมๆ คงไม่ได้ เมื่อโลกเปลี่ยนไป รสนิยมของคนในสังคมก็เปลี่ยนตาม ยิ่งมีปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ปัญหาโลกร้อน ปัจจัยในการซื้อสินค้าก็เลยมีความสลับซับซ้อนกว่าในอดีตค่อนข้างมาก

เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจทำธุรกิจกับคนรุ่นใหม่ เลยมีช่องทางดีๆ สำหรับ 10 สินค้ามาแรงแห่งทศวรรษ นี้มาฝากกัน

1.สินค้าอเนกประสงค์ (All-In-One) คือสินค้าที่มีคุณสมบัติการทำงานที่หลากหลาย เช่น โทรศัพท์มือถือที่สามารถใช้เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา กล้องถ่ายรูปที่มีเครื่องเสียงในตัว ซึ่งราคาอาจจะแพงกว่าสินค้าทั่วไป แต่ด้วยคุณประโยชน์ที่หลากหลายจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้มค่ากับการลงทุน

2.สินค้าที่ให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการประกอบ (Do it Yourself : DIY) เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องประดับที่ประกอบเองได้ โดยผู้บริโภคแต่ละคนสามารถออกแบบหรือเลือกวัสดุมาประกอบได้เองตามใจชอบ ทำให้มีรูปแบบไม่ซ้ำใคร

3.สินค้าย้อนอดีตที่ผสมผสานความทันสมัย (Retro Nova) ท่ามกลางความเจริญเติบโตของไฮเทคโนโลยีทำให้คนหันมาให้ความสำคัญกับอดีต ซึ่งสินค้าดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ด้านความทันสมัยของเทคโนโลยีแต่มีการย้อนภาพแห่งอดีต เช่น นาฬิกาที่มีรูปลักษณ์ย้อนยุคแต่กลไกเป็นไมโครชิปที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียงที่เลียนแบบวิทยุโบราณ แต่มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบถ้วน เป็นต้น

4.สินค้าทำด้วยมือ (Handmade) เนื่องจากเทคโนโลยีปัจจุบันทำให้การผลิตสินค้าแทบไม่มีความแตกต่างกัน แต่สินค้าแฮนเมดสามารถสร้างจุดขายเฉพาะตัวได้มากกว่าสินค้าที่ผลิตครั้งละจำนวนมากๆ

5.สินค้าที่เน้นการออกแบบและบรรจุภัณฑ์ (Design & Packaging) ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งแรกที่ดึงดูดใจผู้บริโภคให้ตัด สินใจซื้อสินค้าคือรูปลักษณ์ภายนอกและบรรจุภัณฑ์ของสินค้า

6.สินค้าที่ปฏิบัติอย่างเป็นธรรม (Fair Trade) เช่นการแสดงให้เห็นว่าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้านั้นซื้อจากเกษตรกร ในประเทศกำลังพัฒนาด้วยราคาที่เป็นธรรม อาทิ กาแฟ โกโก้ กล้วย น้ำตาล ฝ้าย น้ำผึ้ง ดอกไม้ เป็นต้น ไม่มีการกดขี่แรงงาน ไม่ใช้แรงงานเด็ก และสนับสนุนให้มีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ดีขึ้น

7.สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Product) ผู้บริโภคจะพิจารณาอย่างถี่ถ้วนมากขึ้นในการเลือกซื้อสินค้าที่ใส่ใจ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ได้รับมาตรฐาน ISO 14000, Carbon Footprint เป็นต้น

8.สินค้าพร้อมรับประทาน (Ready-to-Eat) เนื่องจากผู้บริโภคยุคปัจจุบันต้องการความสะดวกรวดเร็ว มีความหลากหลายและอร่อย ทำให้อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารพร้อมปรุง ได้รับความนิยมอย่างมาก

9.สินค้าเพื่อสุขภาพ (Organic & Funtional Food) ปัญหาโรคภัยไข้เจ็บและโรคระบาดที่รุนแรงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจกับสุขภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ผลิตโดยไม่ใช้สารเคมี หรือน้ำมันพืชที่ผลิตจากเมล็ดดอกทานตะวัน รวมทั้งตลาดเครื่องดื่มบำรุงร่างกายที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก บำรุงสมอง ลดความเครียด ขยายความนิยมอย่างต่อเนื่อง

10.สินค้าที่คำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ชาวยุโรปเชื่อว่า การดูแลให้สัตว์มีสวัสดิภาพที่ดีจะช่วยส่งผลให้อาหารมีคุณภาพดีตามไปด้วย ตั้งแต่วิธีการเลี้ยงที่ต้อง ไม่แออัด การขนส่งและการฆ่าที่ต้องไม่ให้สัตว์ทรมาน และไม่ให้สัตว์เกิดความตื่นตระหนก รวมถึงการห้ามใช้ยาปฏิชีวนะ บางรายการผสมในอาหารสัตว์ เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น