ลูบคมขุนกระบี่ไร้เทียมทาน 'สมปอง-นพรุจ'จากผู้นำสู่นักธุรกิจชั้นเซียน ฉบับที่ 253 ประจำวันที่ 16-31 กรกฎาคม 2552
ลูบคมขุนกระบี่ไร้เทียมทาน 'สมปอง-นพรุจ'จากผู้นำสู่นักธุรกิจชั้นเซียน
แกะรอยเส้นทางความสำเร็จ 2 ผู้บริหารขั้นเทพวงการขายตรง..."สมปอง-นพรุจ" ผู้สร้างตำนานธุรกิจขายตรงหน้าใหม่...พร้อมเปิดบทพิสูจน์ความจริงไม่ใช่เรื่องโม้ จากผู้นำธรรมดากลายมาเป็นนักธุรกิจเลื่องชื่อได้อย่างไร?...ชี้! รางวัลบริษัทดีเด่นประจำปี 2552 คือ เครื่องหมายการันตีความสำเร็จของทั้งคู่
วันนี้ "ธุรกิจขายตรง" หากจะให้พูดถึงคนที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ต้องบอกว่ามีนับไม่ถ้วน (เฉพาะผู้นำที่สำเร็จ) เท่านั้น...แต่หากจะให้พูดถึงคนที่เคยเป็น "ผู้นำ" แล้วผันตัวเองมาสู่ "นักธุรกิจ" จนประสบความสำเร็จ "สร้างชื่อเสียง" ได้อย่าง "กระหึ่ม" วงการขายตรงคงต้องบอกว่ามีน้อยมาก
แต่ ณ ชั่วโมงนี้ มีผู้ที่เคยเป็น "ผู้นำ" มาก่อน และกำลังสร้างความฮือฮาให้กับวงการขายตรง คงหนี้ไม่พ้นผู้บริหารทั้ง 2 ท่านนี้ นั่นคือ "สมปอง แซ่ตั้ง" ประธานกรรมการ บริษัท เบสท์ 59 จำกัด เจ้าตำรับ "ปูแดง ไคโตซาน" และ "นพรุจ เวชกุล" ประธานกรรมการ บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด...เรียกได้ว่าผู้บริหารทั้ง 2 ท่านนี้ อาจจะมีธุรกิจที่ต่างกัน คือ อีกหนึ่งท่านทำธุรกิจเกี่ยวกับทางด้านเกษตรและอีกท่านหนึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพความสวยความงาม แต่บทสรุปความต่างที่มีคล้ายกันนั่นคือ..."ต้องการเห็นคนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น"...
...ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์ของทั้ง "สมปอง-นพรุจ" เลยก็ว่า ที่ได้หอบเครื่องหมายการันตีความสำเร็จในการทำธุรกิจให้คนในวงการขายตรงได้ฮือฮาและอิจฉาตาร้อนไปตามๆ กันนั่นคือ บริษัท เบสท์ 59 จำกัด หรือ "ปูแดง ไคโตซาน" ได้ขึ้นรับโล่เกียรติยศจากนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะบริษัทดีเด่นประจำปี 2552 ประเภท "ชุบเกษตรกรไทย ด้วยเกษตรอินทรีย์ขนานแท้"
ส่วน "บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด" รับโล่เกียรติยศบริษัทดีเด่นประจำปี 2552 ประเภท "สร้างงาน สร้างรายได้ ให้ประชาชนในอาชีพเครือข่าย"...ซึ่งทั้ง 2 รางวัลที่กล่าวมานี้นับเป็นอีกหนึ่งความภูมิภาคใจของทั้ง 2 ผู้บริหารนี้เลยก็ว่าได้ เพราะอาจเรียกได้ว่ามีน้อยคนนักที่จะก้าวมาถึง ณ จุดนี้ได้
หลายคนอาจจะสงสัยว่า "ผู้บริหาร" ทั้ง 2 ท่านนี้เป็นใครมาจากไหน?...ทำไมถึงก้าวขึ้นมาสู่ "นักธุรกิจมืออาชีพ" ได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้...ปักษ์นี้ทีมข่าว "ตลาดวิเคราะห์" ขอย้อนเข็มทิศขั้นบันไดความสำเร็จตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงปัจจุบันของทั้ง "สมปอง-นพรุจ" มาให้ท่านทราบพอสังเขปดังนี้
ขอดเกล็ด'สมปอง แซ่ตั้ง'
ผู้พลิกตำนาน'ปูแดง'ปลดหนี้
...เริ่มต้นขอพลิกประวัติ "นักบริหาร" ท่านแรก "สมปอง แซ่ตั้ง" เขาผู้นี้เป็นคนอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เกิดมาไม่ได้อยู่ในตระกูลผู้ดีมีเงิน ก่อนที่จะก้าวมาสู่ความสำเร็จในปัจจุบันได้ เคยทำงานมาสารพัดอย่างตั้งแต่ขายก๋วยเตี๋ยว รับจ้างขนของ ทำโรงงานรองเท้าแตะ เรียกว่า "ผ่านงานมาเยอะ เจ็บมาก็แยะ"
จนกระทั่งบังเอิญมีคนมาแนะนำให้ "สมปอง" ได้รู้จักธุรกิจเครือข่าย และบอกว่าเป็นธุรกิจที่สามารถพลิกชีวิตให้ดีขึ้นได้จริงๆ ด้วยเหตุผลนี่เองทำให้ "สมปอง" จึงได้ลองเสี่ยงเข้ามาวัดใจในธุรกิจเครือข่ายนี้ดู ผลปรากฏว่า ทำไปได้หลายปีชีวิตก็ยังไม่ดีขึ้นเสียที ต้องระหกระเหินจากค่ายนั้นค่ายนี้ เรียกว่าหาหลักแหล่งไม่เจอกันเลยทีเดียวในเวลาช่วงนั้น
และแล้วชีวิตใช่ว่าจะสิ้นหวังตลอด ได้มีเพื่อนที่รู้จักกันมาก่อน ซึ่งเป็นเจ้าของสูตรเปลือกกุ้งสกัดในนาม "ไคโตซาน" มานำเสนอสูตรดังกล่าวให้ดู และด้วยที่ช่วงนั้น ต้องบอกว่า "สมปอง" หลังพิงฝา จนตรอกจริงๆ ก็ต้องยอมเดิมพันด้วยเงินก้อนสุดท้ายกับธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตรที่ชื่อ "ปูแดง ไคโตซาน" ด้วยการผันตัวเองให้เป็นผู้ประกอบการขายตรงรายเล็กๆ
สำหรับเส้นทางความสำเร็จของผู้ชายที่ชื่อ "สมปอง แซ่ตั้ง" นั้น ไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ กว่าที่จะตั้งหลักปักฐาน สร้างชื่อเสียงของสินค้า "ปูแดง ไคโตซาน" ให้ดังกระฉ่อนได้นั้น ต้องบอกว่ากว่าที่จะขายได้แต่ละบาทเลือดตาแทบกระเด็น ส่วนใหญ่สินค้าจะเป็นการแจกจ่ายให้ทดลองใช้เสียมากกว่า
...จากวันนั้นถึงวันนี้ ชื่อของ "ปูแดง ไคโตซาน" เริ่มที่จะเข้ามานั่งอยู่ในใจของประชาชนคนไทยเกือบทั่วทั้งประเทศแล้ว สังเกตได้จากยอดขายเริ่มต้นเพียงไม่กี่แสน เริ่มไต่ระดับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็น 10 ล้าน เป็น 100 ล้าน เป็น 1,000 ล้าน ซึ่งหากใครที่เริ่มต้นทำธุรกิจที่ "ปูแดง ไคโตซาน" ก็จะสามารถเห็นพัฒนาการของบริษัทนี้ได้เป็นอย่างดี
"สมปอง แซ่ตั้ง" เรียกได้ว่า "ผ่านร้อน ผ่านหนาว" ตลอดการทำงานในธุรกิจปูแดงมาก็เยอะ จากที่บริษัทยังเล็กๆ เช่าตึกอยู่จนเติบโตขึ้นมาเป็นบริษัทขนาดใหญ่ มีสำนักงานเป็นของตัวเอง มีคลังสินค้า มีจุดจำหน่ายที่พร้อมสรรพ...ซึ่งนี่ไม่ใช่โชคช่วยแต่เป็นความมุ่งมั่นที่ "สมปอง" มีอยู่ในตัวเองมาโดยตลอด
หากจะให้พูดถึงสาเหตุของความสำเร็จในวันนี้ คงจะเป็นในเรื่องของ "ความกล้าบ้าบิ่น" ของผู้ชายที่ชื่อ "สมปอง แซ่ตั้ง" ที่พร้อม "กล้าแลก กล้าเสี่ยง" บนความเป็นไปได้ของธุรกิจ...ซึ่งเขาผู้นี้อาจเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่ปลุกกระแสสินค้าเกษตรให้กลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาเลยก็ว่าได้...มิหนำซ้ำยังพลิกตำนานสร้างปูแดง ช่วยเหลือเกษตรกรไทยให้ได้"ปลดหนี้ ปลดสิน" กันไปหลายต่อหลายคนอีกด้วย
...และด้วยความที่เคยเป็น "ผู้นำ" มาก่อน ค่อนข้างที่จะรู้ว่าผู้นำมีความต้องการอะไร เจอปัญหาแล้วต้องแก้ไขแบบไหน ซึ่งด้วยปัจจัยนี่เอง จึงทำให้ใครที่มาอยู่ที่ "ปูแดง ไคโตซาน" ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า..."สมปอง แซ่ตั้ง คือ นักธุรกิจที่เข้าใจคนทำงานจริงๆ"....
นิยามความสำเร็จของ "ปูแดง ไคโตซาน" ภายใต้การบริหารงานของ "สมปอง แซ่ตั้ง" ไม่ใช่หยุดเพียงแค่นี้ วันนี้ต้องบอกว่าจากองค์กรที่เล็กๆ มีพนักงานเพียงไม่กี่คน วันนี้สามารถสร้างรากฐานธุรกิจให้ยิ่งใหญ่และเกรียงไกรแบบไม่น้อยหนาค่ายไหนๆ เลยทีเดียว และยิ่งเป้าหมายในปีนี้ที่ "สมปอง แซ่ตั้ง" เคยประกาศไว้ คือ ต้องการปั้นยอดขายให้ได้ 1,000 ล้านบาท/เดือน ก่อนสิ้นปี 2552 รวมถึงต้องการที่จะนำพานักธุรกิจปูแดง ให้รวยเป็นหมื่นเป็นแสนคนไปแบบพร้อมๆ กัน ซึ่งต้องบอกว่าฝันนี่คงไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ หากจะให้พูดถึงความภาคภูมิใจสำหรับการทำธุรกิจปูแดงไคโตซาน ของ "สมปอง" นั้น คงต้องบอกว่า น่าที่จะต้องภูมิใจที่สามารถช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรหลุดพ้นจากความยากจน ลืมตา อ้าปากได้จากการใช้ "ปูแดง ไคโตซาน"...ซึ่งสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของบริษัทที่ว่า "คุณภาพนำธุรกิจ สู่ชีวิตที่มั่นคง"
..."สมปอง แซ่ตั้ง"...นับได้ว่าเป็นผู้พลิกประวัติศาสตร์เกษตรกรไทยให้ร่ำรวยสมดั่งปรารถนา ถึงแม้จะไม่ทั่วทั้งประเทศไทย แต่เชื่อว่าอีกไม่นานชื่อของ "สมปอง แซ่ตั้ง" น่าที่จะเข้าไปนั่งในจิตใจของคนทั่วทั้งประเทศได้อย่างแน่นอนไม่เชื่อคอยดู!!
//ขอบคุณ หนังสือพิมพ์ตลาดวิเคราะห์
Poodang.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น